xs
xsm
sm
md
lg

รวบ “ไอ้อ้วนขี้ยา” ซิ่ง จยย.วิ่งราวมือถือ

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

เจ้าหน้าที่ตำรวจแถลงจับกุมผู้ต้องหา
ตร.โคกคราม ตามจับไอ้อ้วนขี้ยา อ้างตัวเป็น ตร.สายสืบ ขี่ จยย.ประกบนักเรียน นักศึกษา ทำทีขอยืมโทรศัพท์มือถือใช้ก่อนซิ่งหนี สารภาพทำมาแล้ว 40 ครั้ง เน้นเหยื่อที่ใช้มือถือราคาแพง โดยเฉพาะไอโฟน 4 เพราะขายได้ราคาดี ขายได้เอาเงินไปเสพยาบ้าจนหมด

วันนี้ (12 เม.ย.) เมื่อเวลา 11.00 น.ที่ กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.สุเมธ เรืองสวัสดิ์ รองผบช.น. พ.ต.อ.พีระพงษ์ วงษ์สมาน รองผบก.น.2 และ พ.ต.อ.สราวุธ จินดาคำ ผกก.สน.โคกคราม พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.โคกคราม ร่วมกันแถลงผลการจับกุม นายธนิต หรือ โอม โดดสกุล อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 49/241 ถนนสุขาภิบาล 5 ซอย 45 แขวงออเงิน เขตสายไหม กทม.พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 5 เม็ด โทรศัพท์มือถือจำนวน 24 เครื่อง เมมโมรี่การ์ด 7 อัน และ รถ จยย.ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นมีโอ สีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จำนวน 1 คัน

พล.ต.ต.สุเมธ เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากได้มีผู้เสียหาย ซึ่งเป็นนักเรียนและนักศึกษาจำนวนหลายราย เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.โคกคราม ว่า ถูกคนร้ายเป็นชาย อายุประมาณ 30-35 ปี รูปร่างอ้วนท้วม ไว้ผมยาวรากไทร ขับขี่รถ จยย.ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นมีโอ สีแดง ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน เข้ามาประกบแล้วแอบอ้างตัวเป็นตำรวจสายสืบ ก่อนทำทีขอยืมโทรศัพท์มือถือ โดยอ้างว่า โทรศัพท์มือถือของตัวเองนั้นแบตเตอรี่หมด ซึ่งหลังจากเหยื่อยื่นโทรศัพท์ให้แล้ว คนร้ายก็รีบเร่งเครื่องรถ จยย.หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว

พล.ต.ต.สุเมธ กล่าวต่อว่า ต่อมาเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน จึงวางแผนจับกุม โดยนำกำลังไปดักซุ่มอยู่ในซอยรามอินทรา 34 ถนนรามอินทรา แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม.กระทั่งพบ นายธนิต ซึ่งมีรูปพรรณสัณฐานตรงตามที่ผู้เสียหายแจ้งไว้ อีกทั้งยังขับขี่รถ จยย.ยี่ห้อเดียวกับคนร้ายใช้ก่อเหตุ เจ้าหน้าที่จึงเรียกให้หยุด เพื่อแสดงตัวขอตรวจค้น แต่เจ้าตัวกลับเร่งเครื่องหลบหนีทันที ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องขับรถติดตามไป จน นายธนิต ขี่รถ จยย.เสียหลักล้มลง เจ้าหน้าที่จึงเข้าควบคุมตัว พร้อมทั้งตรวจค้นในตัวก็พบยาบ้า จำนวน 5 เม็ด จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน ก่อนนำตัวไปสอบปากคำที่ สน.โคกคราม

จากการสอบสวน นายธนิต ให้การรับสารภาพว่า ตนขี่รถ จยย.เข้าไปประกบเหยื่อที่เป็นนักเรียน นักศึกษา จากนั้นก็จะอ้างตัวเป็นตำรวจสายสืบ ยืมโทรศัพท์มือถือมาใช้ โดยจะเลือกรุ่นที่มียี่ห้อ และราคาแพง สามารถถ่ายภาพกับวิดีโอ และเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ จากนั้นก็จะรีบเร่งเครื่องหลบหนีไปทันที ก่อนจะนำไปขายต่อให้ร้านรับซื้อโทรศัพท์มือถือในซอยลาดพร้าว 87 ในราคา 1,000-3,000 บาท จากนั้นจะนำเงินไปซื้อยาบ้ามาเสพ พอเงินหมดก็จะออกตระเวนไปหาเหยื่อรายใหม่ โดยทำมาแล้วประมาณ 40 ครั้ง ส่วนโทรศัพท์ที่มีราคาแพงสุดที่ตนขายได้ในขณะนี้ คือ ไอโฟน 4 ขายได้ถึงเครื่องละ 3,000 บาท

พล.ต.ต.สุเมธ กล่าวด้วยว่า เบื้องต้นได้แจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมายและวิ่งราวทรัพย์ ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.โคกคราม ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ หากผู้เสียหายรายใดสงสัยว่าเคยถูก นายธนิต อ้างตัวเป็นตำรวจแล้วชิงโทรศัพท์มือถือไป ก็สามารถเดินทางมาดูตัวและแจ้งความเพิ่มเติมได้ที่ สน.โคกคราม
กำลังโหลดความคิดเห็น