ตร.โชคชัย บุกค้นบ้านเช่าหลังใหญ่หลังรร.สตรีวิทยา 2 จับ 16 สมาชิกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พร้อมของกลางหลายรายการ สารภาพรับจ้างจากนายทุนชาวจีนคนละ 2 หมื่น โทรศัพท์ตุ๋นเหยื่อ
วันนี้ (2 เม.ย.) เมื่อเวลา 18.30 น. ที่ สน.โชคชัย พล.ต.ต.สุธีร์ เนรกัณฐี ผบก.น.4 พ.ต.อ.พรชัย ขจรกลิ่น ผกก.สน.โชคชัย พ.ต.ท.จิรวัฒน์ ยอดกระโหม พ.ต.ต.คมสันต์ บดิกาญจน์ สว.สส. ร.ต.อ.กอบศักดิ์ โพธิ์วารี รอง สว.สส. ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จำนวน 16 คน แบ่งเป็นชาวจีน 13 คน ไต้หวัน 2 คน และไทย 1 คน อายุระหว่าง 18-32 ปี มีนายหลิน ชิง หมิง (LIN CHIN MING) อายุ 32 ปี ชาวไต้หวัน เป็นหัวหน้าคุมงาน พร้อมของกลางโทรศัพท์ 20 เครื่อง วิทยุสื่อสาร 3 เครื่อง คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก 4 เครื่อง และอุปกรณ์เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตอีกหลายรายการ โดยจับกุมได้ภายในบ้านเดี่ยวสองชั้น เนื้อที่ 80 ตร.ว. เลขที่ 6/147 ซ.สตรีวิทยา 2 แยก 15 แขวงและเขตลาดพร้าว
พล.ต.ต.สุธีร์เปิดเผยว่า ชุดสืบสวน สน.โชคชัย ได้สืบสวนจับกุมคดียาเสพติดโดยจับกุมนายเปายิง แสงลี่ อายุ 26 ปี ชาว อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย พร้อมของกลางยาไอซ์ 0.3 กรัม ได้จากบริเวณซอยโชคชัย 4 แยก 70 จากนั้นได้สอบสวนขยายผลทราบว่า พักอาศัยอยู่กับชาวต่างชาติเป็นจำนวนมากที่บ้านหลังหนึ่งในซอยสตรีวิทยา 2 โดยทำหน้าที่เป็นพ่อบ้าน จึงจัดชุดสืบสวนเข้าสังเกตการณ์พบว่าเป็นบ้านเช่าหลังใหญ่ และมีการติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิดซึ่งเป็นที่ผิดสังเกตจึงจู่โจมเข้าตรวจค้นพบกลุ่มผู้ต้องหากำลังนั่งโทรศัพท์และจดบันทึกรายการอยู่จึงยึดเอกสารและของกลางทั้งหมดมาตรวจสอบ
ผบก.น.4 กล่าวต่อว่า จากการสอบสวนทราบว่ากลุ่มผู้ต้องหาทั้งหมดมีพฤติการณ์เป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ มีนายทุนใหญ่ชาวจีนว่าจ้างให้มาทำงานนี้โดยให้เงินเดือนคนละประมาณ 20,000 บาท โดยมาเช่าบ้านหลังนี้ได้ 3 เดือน ค่าเช่าบ้านเดือนละ 30,000 บาท ส่วนชาวจีนและไต้หวันนั้นจะสลับกันเข้ามาทำงานนี้ แต่ที่เข้าประเทศมาครั้งแรกมีอยู่ 6 คน ที่เหลือเดินทางเข้าออกประเทศมาแล้วหลายครั้ง ส่วนการหลอกเหยื่อนั้นจะใช้รูปแบบเดิมคือระบบอินเตอร์เน็ตโทรข้ามประเทศกลับไปหลอกเหยื่อชาวจีน ซึ่งจากการตรวจสอบในคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กพบว่าส่วนใหญ่เป็นชาวจีนที่อยู่ในมณฑลฟูเจียน ซึ่งยังประเมินความเสียหายไม่ได้เนื่องจากผู้เสียหายอยู่ประเทศจีน
อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นได้แจ้งข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาทำงานในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนนายเปายิง แจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย