กองปราบฯ ให้ประกันตีราคา 7.5 หมื่นบาท “พสิษฐ์ ศักดาณรงค์” ผู้ต้องหาคดีปล่อยคลิปฉาวศาลรัฐธรรมนูญ ขณะที่เจ้าตัวปฏิเสธให้รายละเอียดเชิงลึกกับสื่อ บอกแค่ “เขาไม่ให้ผมพูด” ก่อนเผ่นขึ้นวอลโว่ป้ายแดง ด้านรองผบก.ป.เผย ให้ประกันครั้งนี้ไม่มีข้อแม้ใด เพราะไม่ใช่คดีความมั่นคงของชาติ ส่วนกระแส “พสิษฐ์” โผล่ รพ.ศิริราช ไม่แน่ใจ อ้างเจ้าตัวบอกหลบอยู่ฮ่องกงตั้งแต่แรก
วันนี้ (30 มี.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น.ที่กองปราบปราม นายพสิษฐ์ ศักดาณรงค์ อายุ 40 ปี อดีตเลขานุการศาลรัฐธรรมนูญ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 2568/2553 ลงวันที่ 16 พฤศจิกายน 2553 ข้อหาเป็นเจ้าพนักงานรู้หรืออาจรู้ความลับในราชการ กระทำการใดๆ อันมิชอบด้วยหน้าที่ให้ผู้อื่นล่วงรู้ความลับนั้น และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะทำให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14 หลังถูกกล่าวหาว่า ลักลอบบันทึกคลิปวิดีโอการประชุมของคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พร้อมด้วย นายประชุม ทองมี ทนายความเดินทางเข้ามอบตัวต่อ พ.ต.อ.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต รองผบก.ป. พ.ต.อ.ปิยะ เจริญสุข ผกก.1 บก.ป. พ.ต.ท.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รองผกก.1 บก.ป. พ.ต.ท.เกรียงไกร ขวัญไตรรัตน์ พงส.(สบ3) กก.1 บก.ป. เพื่อต่อสู้คดีดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พนักงานสอบสวนได้ให้ นายพสิษฐ์ ดูคลิปวิดีโอ คดียุบพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมทั้งสอบถามถึงคลิปดังกล่าว แต่เจ้าตัวไม่ขอให้การถึงคลิปดังกล่าวแต่อย่างใด
ต่อมาเมื่อเวลา 13.00 น.พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำ นายพสิษฐ์ เสร็จสิ้นโดยใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง โดย นายพสิษฐ์ ได้ยื่นเงินสดจำนวน 75,000 บาท ขอประกันตัว ซึ่งทางพนักงานสอบสวนได้อนุญาตให้ประกันตัวออกไป อย่างไรก็ตาม ระหว่างที่เดินออกจากห้องพนักงานสอบสวน ผู้สื่อข่าวหลายสำนักเข้าไปขอสัมภาษณ์ นายพสิษฐ์ แต่เจ้าตัวกล่าวเพียงสั้นๆ ว่า “เขาไม่ให้ผมพูด” ก่อนรีบเดินทางขึ้นรถวอลโว่สีดำทะเบียนป้ายแดงออกไป
พ.ต.อ.นัยวัฒน์ กล่าวภายหลังสอบปากคำเสร้จสิ้นว่า จากการสอบปากคำ ผู้ต้องหาไม่ขอให้การใดๆ เกี่ยวกับคดี และที่พนักงานสอบสวนให้ประกันตัวไปก็ไม่ได้มีข้อแม้อะไร เพราะคดีดังกล่าวไม่ใช่เป็นคดีความมั่นคงของชาติ ส่วนกระแสข่าวที่เจ้าตัวไปโผล่ที่โรงพยาบาลศิริราชนั้นไม่แน่ใจ แต่จากการสอบถามเจ้าตัวทราบว่า ได้หลบหลบหนีอยู่ที่ฮ่องกงตั้งแต่เกิดเรื่องแล้ว และจะมอบตัวตั้งแต่เกิดเรื่องใหม่ๆ แต่มีคนเตือนว่าอย่าเพิ่งกลับมา เพราะจะไม่ปลอดภัย ทั้งนี้ ที่เข้ามอบตัวตอนนี้เพราะคิดว่าน่าจะปลอดภัย แม้จะมีคนยังเตือนอยู่
พ.ต.อ.นัยวัฒน์ กล่าวต่อว่า ทางเราไม่ได้ส่งกำลังเจ้าหน้าที่ไปรักษาความปลอดภัยให้นายพสิษฐ์ เพราะเขาไม่ได้ร้องขอ ซึ่งคิดว่าเขาน่าจะมีมาตรการรักษาความปลอดภัยของเขาอยู่แล้ว ซึ่งได้กำชับให้พนักงานสอบสวนเร่งทำสำนวนคดีนี้อยู่ โดยเชื่อว่าไม่เกินสัปดาห์นี้จะส่งสำนวนฟ้องต่ออัยการได้ พร้อมได้ฝากบอกผ่านทางทนายของ นายพสิษฐ์ ว่า ให้ติดต่อกับ น.ส.ชุติมา ผู้ต้องหาอีกคนให้เข้ามอบตัว เพราะเชื่อว่ายังหลบหนีอยู่ในเมืองไทย
วันนี้ (30 มี.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น.ที่กองปราบปราม นายพสิษฐ์ ศักดาณรงค์ อายุ 40 ปี อดีตเลขานุการศาลรัฐธรรมนูญ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 2568/2553 ลงวันที่ 16 พฤศจิกายน 2553 ข้อหาเป็นเจ้าพนักงานรู้หรืออาจรู้ความลับในราชการ กระทำการใดๆ อันมิชอบด้วยหน้าที่ให้ผู้อื่นล่วงรู้ความลับนั้น และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะทำให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14 หลังถูกกล่าวหาว่า ลักลอบบันทึกคลิปวิดีโอการประชุมของคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พร้อมด้วย นายประชุม ทองมี ทนายความเดินทางเข้ามอบตัวต่อ พ.ต.อ.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต รองผบก.ป. พ.ต.อ.ปิยะ เจริญสุข ผกก.1 บก.ป. พ.ต.ท.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รองผกก.1 บก.ป. พ.ต.ท.เกรียงไกร ขวัญไตรรัตน์ พงส.(สบ3) กก.1 บก.ป. เพื่อต่อสู้คดีดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พนักงานสอบสวนได้ให้ นายพสิษฐ์ ดูคลิปวิดีโอ คดียุบพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมทั้งสอบถามถึงคลิปดังกล่าว แต่เจ้าตัวไม่ขอให้การถึงคลิปดังกล่าวแต่อย่างใด
ต่อมาเมื่อเวลา 13.00 น.พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำ นายพสิษฐ์ เสร็จสิ้นโดยใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง โดย นายพสิษฐ์ ได้ยื่นเงินสดจำนวน 75,000 บาท ขอประกันตัว ซึ่งทางพนักงานสอบสวนได้อนุญาตให้ประกันตัวออกไป อย่างไรก็ตาม ระหว่างที่เดินออกจากห้องพนักงานสอบสวน ผู้สื่อข่าวหลายสำนักเข้าไปขอสัมภาษณ์ นายพสิษฐ์ แต่เจ้าตัวกล่าวเพียงสั้นๆ ว่า “เขาไม่ให้ผมพูด” ก่อนรีบเดินทางขึ้นรถวอลโว่สีดำทะเบียนป้ายแดงออกไป
พ.ต.อ.นัยวัฒน์ กล่าวภายหลังสอบปากคำเสร้จสิ้นว่า จากการสอบปากคำ ผู้ต้องหาไม่ขอให้การใดๆ เกี่ยวกับคดี และที่พนักงานสอบสวนให้ประกันตัวไปก็ไม่ได้มีข้อแม้อะไร เพราะคดีดังกล่าวไม่ใช่เป็นคดีความมั่นคงของชาติ ส่วนกระแสข่าวที่เจ้าตัวไปโผล่ที่โรงพยาบาลศิริราชนั้นไม่แน่ใจ แต่จากการสอบถามเจ้าตัวทราบว่า ได้หลบหลบหนีอยู่ที่ฮ่องกงตั้งแต่เกิดเรื่องแล้ว และจะมอบตัวตั้งแต่เกิดเรื่องใหม่ๆ แต่มีคนเตือนว่าอย่าเพิ่งกลับมา เพราะจะไม่ปลอดภัย ทั้งนี้ ที่เข้ามอบตัวตอนนี้เพราะคิดว่าน่าจะปลอดภัย แม้จะมีคนยังเตือนอยู่
พ.ต.อ.นัยวัฒน์ กล่าวต่อว่า ทางเราไม่ได้ส่งกำลังเจ้าหน้าที่ไปรักษาความปลอดภัยให้นายพสิษฐ์ เพราะเขาไม่ได้ร้องขอ ซึ่งคิดว่าเขาน่าจะมีมาตรการรักษาความปลอดภัยของเขาอยู่แล้ว ซึ่งได้กำชับให้พนักงานสอบสวนเร่งทำสำนวนคดีนี้อยู่ โดยเชื่อว่าไม่เกินสัปดาห์นี้จะส่งสำนวนฟ้องต่ออัยการได้ พร้อมได้ฝากบอกผ่านทางทนายของ นายพสิษฐ์ ว่า ให้ติดต่อกับ น.ส.ชุติมา ผู้ต้องหาอีกคนให้เข้ามอบตัว เพราะเชื่อว่ายังหลบหนีอยู่ในเมืองไทย
