ภาคเอกชนมอบสิ่งของเพื่อใช้ในการสนับสนุนและร่วมรณรงค์ในโครงการ “ถนนปลอดภัย” เพื่อให้กับประชาชนที่ใช้รถใช้ถนนได้เดินทางกลับภูมิลำเนาอย่างปลอดภัย และช่วยลดอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยตำรวจทางหลวง ห่วงอาการ “ง่วงแล้วขับ” มากที่สุด เพราะไม่มีตัวชี้วัด
วันนี้ (29 มี.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น.ที่กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) พล.ต.ต.นรบุญ แน่นหนา ผบก.ทล.รับมอบสิ่งของต่างๆ จากภาคเอกชน เพื่อใช้ในการสนับสนุนและร่วมรณรงค์ในโครงการ “ถนนปลอดภัย” เพื่อให้กับประชาชนที่ใช้รถใช้ถนนได้เดินทางกลับภูมิลำเนาอย่างปลอดภัย และช่วยลดอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ โดยได้รับซองกันน้ำพร้อมอุปกรณ์ขับขี่ปลอดภัย 5,000 ชุด น้ำดื่ม 10,000 ขวด หมวกนิรภัย 100 ใบ กระเป๋ากันง่วง 3,000 ใบ แผนที่ 3,000 แผ่น คู่มือขับขี่รถปลอดภัย 6,000 เล่ม รวมทั้งอุปกรณ์เช็ดกระจกรถ และกรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุฟรี 30 วัน ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ให้กับประชาชน 100,000 คน
พล.ต.ต.นรบุญ กล่าวว่า มาตรการดูแลประชาชนที่ใช้เส้นทางหลวงในการเดินทางในปีนี้ ตำรวจทางหลวงเน้นมาตรการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด รวมทั้งให้บริการอำนวยความสะดวกในการเดินทาง และประชาสัมพันธ์เพื่อลดอุบัติเหตุ แต่การบังคับใช้กฎหมายสามารถดูแลได้เฉพาะในส่วนของผู้ที่เมาแล้วขับ และขับรถเร็ว หรือฝ่าฝืนกฎจราจรเท่านั้น ซึ่งเราเป็นห่วงประชาชนในกรณีที่ง่วงแล้วขับ เพราะในส่วนนี้ไม่มีตัวชี้วัด หรือกฎหมายบังคับ จึงต้องแสวงหาความร่วมมือจากภาคเอกชน เพื่อให้การสนับสนุนในการมอบอุปกรณ์ เพื่อแก้ปัญหา รวมทั้งรณรงค์เพื่อให้ตระหนักถึงการเกิดอุบัติเหตุจากการขับรถขณะง่วงนอน โดยปี 2553 ที่ผ่านมา พบว่า มียอดผู้เสียชีวิตบนทางหลวงในช่วงเทศกาลสงกรานต์ จำนวน 35 คน ปีนี้ตำรวจทางหลวงซึ่งได้รับความร่วมมือจากหลายส่วน เชื่อว่า จะสามารถลดยอดผู้เสียชีวิต และอุบัติเหตุได้มากกว่าปีก่อน โดยตั้งเป้าไว้อย่างน้อยให้ลดลงกว่าเดิมร้อยละ 10
ผู้สื่อข่าวถามป้ายประชาสัมพันธ์ของตำรวจทางหลวงที่ทีข้อความว่า “เขตห้ามตาย” ที่ตั้งอยู่บริเวณ กม.51 พล.ต.ต.นรบุญ กล่าวว่า ป้ายดังกล่าวเป็นผลงานของ พ.ต.อ.ดิเรก ปลั่งดี ผกก.1 บก.ทล.เป็นผู้คิด เพื่อเป็นการกระตุ้นความรู้สึกผู้ใช้รถใช้ถนนให้ได้คิดว่าไม่ควรขับขี่รถอย่างประมาท จนบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต สำหรับเส้นทางที่เป็นห่วงในช่วงสงกรานต์ คือ บริเวณ กม.62 แถวบางปะอิน ที่มีการสร้างสะพานยูเทิร์น และเส้นขึ้นเหนือแถวอุตรดิตถ์ นครสวรรค์ อาจทำให้ช่องการจราจรลดลง และทำให้เกิดปัญหาการจราจรติดขัด เมื่อมีผู้ใช้เส้นทางจำนวนมาก และเส้นทางภาคใต้ที่ได้รับผลกระทบฝนตกหนักในช่วงนี้ จนทำให้ถนนชำรุด และสะพานขาด
วันนี้ (29 มี.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น.ที่กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) พล.ต.ต.นรบุญ แน่นหนา ผบก.ทล.รับมอบสิ่งของต่างๆ จากภาคเอกชน เพื่อใช้ในการสนับสนุนและร่วมรณรงค์ในโครงการ “ถนนปลอดภัย” เพื่อให้กับประชาชนที่ใช้รถใช้ถนนได้เดินทางกลับภูมิลำเนาอย่างปลอดภัย และช่วยลดอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ โดยได้รับซองกันน้ำพร้อมอุปกรณ์ขับขี่ปลอดภัย 5,000 ชุด น้ำดื่ม 10,000 ขวด หมวกนิรภัย 100 ใบ กระเป๋ากันง่วง 3,000 ใบ แผนที่ 3,000 แผ่น คู่มือขับขี่รถปลอดภัย 6,000 เล่ม รวมทั้งอุปกรณ์เช็ดกระจกรถ และกรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุฟรี 30 วัน ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ให้กับประชาชน 100,000 คน
พล.ต.ต.นรบุญ กล่าวว่า มาตรการดูแลประชาชนที่ใช้เส้นทางหลวงในการเดินทางในปีนี้ ตำรวจทางหลวงเน้นมาตรการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด รวมทั้งให้บริการอำนวยความสะดวกในการเดินทาง และประชาสัมพันธ์เพื่อลดอุบัติเหตุ แต่การบังคับใช้กฎหมายสามารถดูแลได้เฉพาะในส่วนของผู้ที่เมาแล้วขับ และขับรถเร็ว หรือฝ่าฝืนกฎจราจรเท่านั้น ซึ่งเราเป็นห่วงประชาชนในกรณีที่ง่วงแล้วขับ เพราะในส่วนนี้ไม่มีตัวชี้วัด หรือกฎหมายบังคับ จึงต้องแสวงหาความร่วมมือจากภาคเอกชน เพื่อให้การสนับสนุนในการมอบอุปกรณ์ เพื่อแก้ปัญหา รวมทั้งรณรงค์เพื่อให้ตระหนักถึงการเกิดอุบัติเหตุจากการขับรถขณะง่วงนอน โดยปี 2553 ที่ผ่านมา พบว่า มียอดผู้เสียชีวิตบนทางหลวงในช่วงเทศกาลสงกรานต์ จำนวน 35 คน ปีนี้ตำรวจทางหลวงซึ่งได้รับความร่วมมือจากหลายส่วน เชื่อว่า จะสามารถลดยอดผู้เสียชีวิต และอุบัติเหตุได้มากกว่าปีก่อน โดยตั้งเป้าไว้อย่างน้อยให้ลดลงกว่าเดิมร้อยละ 10
ผู้สื่อข่าวถามป้ายประชาสัมพันธ์ของตำรวจทางหลวงที่ทีข้อความว่า “เขตห้ามตาย” ที่ตั้งอยู่บริเวณ กม.51 พล.ต.ต.นรบุญ กล่าวว่า ป้ายดังกล่าวเป็นผลงานของ พ.ต.อ.ดิเรก ปลั่งดี ผกก.1 บก.ทล.เป็นผู้คิด เพื่อเป็นการกระตุ้นความรู้สึกผู้ใช้รถใช้ถนนให้ได้คิดว่าไม่ควรขับขี่รถอย่างประมาท จนบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต สำหรับเส้นทางที่เป็นห่วงในช่วงสงกรานต์ คือ บริเวณ กม.62 แถวบางปะอิน ที่มีการสร้างสะพานยูเทิร์น และเส้นขึ้นเหนือแถวอุตรดิตถ์ นครสวรรค์ อาจทำให้ช่องการจราจรลดลง และทำให้เกิดปัญหาการจราจรติดขัด เมื่อมีผู้ใช้เส้นทางจำนวนมาก และเส้นทางภาคใต้ที่ได้รับผลกระทบฝนตกหนักในช่วงนี้ จนทำให้ถนนชำรุด และสะพานขาด