“นครบาล” เผยยอดสถิติอุบัติเหตุรอบปีที่ผ่านมา 37,000 ครั้ง เสียชีวิต 456 ราย ทรัพย์เสียหาย 400 ล้าน ชี้สาเหตุทำให้ตายมากสุด ขับเร็วกว่ากฎหมายกำหนด เมาสุรา รองลงมาขับตัดหน้ากระชั้นชิด ย้ำจะเน้นตั้งด่านจับกุมผู้ขับขี่เมาสุรา - รถใช้ความเร็วสูงให้มากขึ้น เพราะเป็นสาเหตุให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน
วันนี้ (24 มี.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) รับผิดชอบงานจราจร กล่าวถึงการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ผู้ใช้รถใช้ถนนลดอุบัติเหตุในพื้นที่ กทม. ว่าผู้ขับขี่ควรให้ความระมัดระวังไม่ประมาทเคารพกฎหมายข้อบังคับจราจรอย่างเคร่งครัด และที่สำคัญผู้ขับขี่ต้องมีวินัยจราจร ส่วนคนที่ไร้วินัยจราจรนั้นเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ต้องบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งจากนี้ไปตำรวจนครบาลจะเน้นการตั้งด่านจับกุมผู้ขับขี่ที่เมาสุรา และรถใช้ความเร็วให้มากขึ้น เพราะเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน
อย่างไรก็ตาม จากสถิติอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นรอบปี 2553 ที่ผ่านมาในพื้นที่ กทม.รายงานยอดอุบัติเหตุเกิดขึ้นทั้งหมดกว่า 37,000 ครั้ง โดยมีประชาชนประสบเหตุกว่า 64,000 ราย เสียชีวิต 456 ราย เป็นชาย 356 ราย หญิง 91 ราย บาดเจ็บสาหัส 957 ราย บาดเจ็บไม่รุนแรง 15,000 ราย ทรัพย์สินเสียหายกว่า 400 ล้านบาท
รอง ผบช.น.กล่าวต่อไปว่า สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุมากที่สุดคือ ขับตามกระชั้นชิด ตัดหน้ากระชั้นชิด ขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ขับรถขณะเมาสุรา และแซงผิดกฎหมาย ขณะที่สาเหตุที่ทำให้เสียชีวิตมากที่สุด คือ ขับรถเร็วกว่ากฎหมายกำหนด และเมาสุรา รองลงมาคือ ขับตัดหน้ากระชั้นชิด แซงผิดกฎหมาย