ผบช.น.มอบ ผบก.น.1 เร่งสอบ “พ.ต.ต.” สน.ดุสิต ร่วมเอี่ยวคดีอุ้มนักธุรกิจชาวลาวไปรีดค่าไถ่ 5 ล้าน พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง หากพบผิดจริงลงโทษไม่มีละเว้น
วันนี้ (21 ก.พ.) เมื่อเวลา 16.00 น. พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบช.น.เปิดเผยถึงกรณี พ.ต.ต.พัสกร บุตรเทศ อายุ 46 ปี สารวัตรสืบสวน สน.ดุสิต ที่ตกเป็นผู้ต้องหาร่วมกันอุ้ม นายวงไชย ธรรมวงศ์ อายุ 40 ปี นักธุรกิจชาวลาวพร้อมครอบครัวไปเรียกค่าไถ่ จำนวน 5 ล้านบาท ว่า ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 ประสานกับ พล.ต.ต.พนมพร อิทธิประเสริฐ ผบก.ภ.จว.นครพนม ให้มีการเร่งสืบสวนสอบสวนอย่างเร่งด่วน ตรงไปตรงมา พร้อมตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมด ซึ่งหากพบว่ามีส่วนเข้าไปร่วมกระทำความผิดจริงก็คงลงโทษไม่มีละเว้น
“คดีนี้มีผู้ร่วมขบวนการหลายคนและมีเจ้าหน้าที่หลายหน่วย คงต้องให้ท้องที่ดำเนินการสืบสวนสอบสวนอย่างละเอียด และเชื่อว่า คงไม่มีใครเข้าไปช่วยเหลือ เพราะคดีแบบนี้ คนที่ทำย่อมรู้อยู่แก่ใจว่ากระทำความผิดหรือไม่ ยิ่งเป็นเจ้าหน้าที่ด้วยแล้ว เข้าไปร่วมรับรู้ ร่วมมือกับคนร้ายได้อย่างไร คงต้องให้ความจริงเป็นเครื่องพิสูจน์ แต่ทางนครบาลไม่มีเลี้ยงคนแบบนี้อยู่แล้ว ผิดว่าไปตามผิด” ผบช.น.กล่าว
วันนี้ (21 ก.พ.) เมื่อเวลา 16.00 น. พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบช.น.เปิดเผยถึงกรณี พ.ต.ต.พัสกร บุตรเทศ อายุ 46 ปี สารวัตรสืบสวน สน.ดุสิต ที่ตกเป็นผู้ต้องหาร่วมกันอุ้ม นายวงไชย ธรรมวงศ์ อายุ 40 ปี นักธุรกิจชาวลาวพร้อมครอบครัวไปเรียกค่าไถ่ จำนวน 5 ล้านบาท ว่า ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 ประสานกับ พล.ต.ต.พนมพร อิทธิประเสริฐ ผบก.ภ.จว.นครพนม ให้มีการเร่งสืบสวนสอบสวนอย่างเร่งด่วน ตรงไปตรงมา พร้อมตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมด ซึ่งหากพบว่ามีส่วนเข้าไปร่วมกระทำความผิดจริงก็คงลงโทษไม่มีละเว้น
“คดีนี้มีผู้ร่วมขบวนการหลายคนและมีเจ้าหน้าที่หลายหน่วย คงต้องให้ท้องที่ดำเนินการสืบสวนสอบสวนอย่างละเอียด และเชื่อว่า คงไม่มีใครเข้าไปช่วยเหลือ เพราะคดีแบบนี้ คนที่ทำย่อมรู้อยู่แก่ใจว่ากระทำความผิดหรือไม่ ยิ่งเป็นเจ้าหน้าที่ด้วยแล้ว เข้าไปร่วมรับรู้ ร่วมมือกับคนร้ายได้อย่างไร คงต้องให้ความจริงเป็นเครื่องพิสูจน์ แต่ทางนครบาลไม่มีเลี้ยงคนแบบนี้อยู่แล้ว ผิดว่าไปตามผิด” ผบช.น.กล่าว