ตร.ห้วยขวาง จับกุมผู้ต้องหามอมยารูดทรัพย์ สร้อยคอ - แหวนทองคำ โทรศัพท์มือถือ ของหนุ่มคู่ขาที่นัดพบกันทางอินเทอร์เน็ต ย่ามใจนัดให้เหยื่อโอนเงิน 2 หมื่นบาทมาไถ่ของคืน เลยถูกซ้อนแผนรวบตัวได้
วันนี้ ( 13 ก.พ.) เมื่อเวลา 10.30 น. พล.ต.ต.สุเมธ เรืองสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 พ.ต.อ.บุญส่ง นามกรณ์ ผกก.สน.ห้วยขวาง พ.ต.ท.รณกร วงศ์ภูมณี สว.สส.สน.ห้วยขวาง และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ห้วยขวาง แถลงข่าวจับกุม นายณภคพงษ์ หรือ เอก โกศัลยวัตร อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 808/389 หมู่ 1 แขวงและเขตคลองกุ่ม กทม.ในข้อหาลักทรัพย์ผู้อื่นในเวลากลาง คือ หรือรับของโจร พร้อมของกลาง สร้อยคอทองคำ แหวนทองคำ สร้อยข้อมือทองคำ กว่า 33 รายการ ยานอนหลับชนิดเม็ดสีฟ้า 1ขวดเล็ก และโทรศัพท์มือถือโนเกีย รุ่น N70 สีดำ 1 เครื่อง
พล.ต.ต.สุเมธ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 6 ก.พ.ที่ผ่านมา นายสุรเดช มูลศาสตร์ ได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ สน.ห้วยขวาง ว่า ถูกนายเอก ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง ที่รู้จักกันทางอินเทอร์เน็ต ขโมยทรัพย์สินไป โดยก่อนเกิดเหตุผู้เสียหายได้นัดให้นายเอกมาพบที่บ้านพัก พรีเมียร์เพลส เลขที่ 10/1 ถนนประชาราษฎร์บำเพ็ญ 12 แขวงและเขตห้วยขวาง กทม.เมื่อเจอกัน นายเอก ก็ได้นำยาเม็ดสีฟ้าออกมาให้กิน โดยบอกว่าเป็นยาปลุกเซ็กซ์ชั้นดี สามารถกระตุ้นอารมณ์ทางเพศได้จึงหลงเชื่อกินเข้าไป จากนั้นก็หลับไปโดยไม่รู้ตัว มารู้สึกตัวอีกทีก็พบว่านายเอกได้หายตัวไปแล้ว และทรัพย์สินของตนเองก็หายไปทั้งหมด 11 รายการ รวมถึงโทรศัพท์มือถือด้วย
รอง ผบช.น.กล่าวต่อไปว่า หลังเกิดเหตุผู้เสียหายได้โทรศัพท์เข้าไปที่เครื่องของตนเอง ปรากฏว่า โทร.ติดแต่ไม่มีคนรับสาย จึงโทรศัพท์ไปหานายเอก ซึ่ง นายเอก ก็ไม่รับสาย แต่นายเอก กลับส่งข้อความกลับมาว่า หากอยากได้ทรัพย์สินคืนให้โอนเงินจำนวน 20,000 บาท มาให้ โดยให้โอนเข้าบัญชีของ น.ส.นุชจรี ซึ่งเจ้าหน้าที่สืบทราบภายหลังว่า น.ส.นุชจรี เป็นพนักงานขายเสื้อผ้าอยู่ที่ห้างเดอะมอลล์ บางกะปิ จึงเดินทางไปตรวจสอบ โดย น.ส.นุชจรี ยอมรับว่า รู้จักกับ นายเอก จริง เนื่องจากนายเอกเป็นลูกค้าประจำของที่ร้าน และนายเอกได้มาขอยืมบัตรเอทีเอ็ม โดยอ้างว่า จะให้เพื่อนโอนเงินมาให้ แต่ตนเองไม่มีบัตรเอทีเอ็ม จึงบอกว่า จะให้ยืมบัญชี เพราะเห็นว่าเป็นลูกค้าประจำของที่ร้าน เจ้าหน้าที่จึงวางแผนให้ผู้เสียหายโทรศัพท์ไปบอกนายเอก ว่า ได้โอนเงินเข้าบัญชีของ น.ส.นุชจรี แล้ว แล้วก็ซุ่มรอกระทั่งนายเอก เดินทางมาหา น.ส.นุชจรี เพื่อขอยืมบัตรเอทีเอ็มไปกดเงิน เจ้าหน้าที่จึงเข้าจับกุมตัวเอาไว้ได้ พร้อมของกลางทั้งหมดอยู่ในกระเป๋าสะพายของนายเอก
จากการสอบสวนเบื้องต้น นายเอก ให้การภาคเสธว่า ของดังกล่าวเป็นของตนเองทั้งหมด โดยได้มาจากการประกอบธุรกิจส่วนตัว มีเพียงโทรศัพท์มือถือเครื่องเดียวเท่านั้นที่เป็นของ นายสุรเดช ที่ตนยึดเอาไว้ เนื่องจาก นายสุรเดช ติดเงินตนอยู่จำนวน 20,000 บาท ซึ่งหาก นายสุรเดช โอนเงินมาให้แล้วก็จะคืนให้ ไม่ได้จะเอาไว้เป็นของตัวเอง แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจาก นายเอก มีประวัติก่อคดีมาแล้ว 5 ครั้ง ประกอบด้วย คดีวิ่งราวทรัพย์ สน.ห้วยขวาง คดีฉ้อโกง สน.พหลโยธิน และ สน.พญาไท คดีลักทรัพย์ในเวลากลางคืน สน.ทองหล่อ และ สน.บางยี่ขัน จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
