หนุ่มศรีสะเกษโดดสะพานคู่ขนานลอยฟ้า ตรงข้ามปากซอยบรมราชชนนี 20 กระแทกพื้นเสียชีวิต ห่างจากจุดเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ พบเก๋งอัลฟาฯ จอดอยู่ โดยเจ้าของรถเผยขับรถผ่านจุดเกิดเหตุทันใดนั้นผู้ตายกระโดดลงจากสะพานกระแทกพื้นถนนอย่างแรง ตกใจเบรกรถไม่ทันจึงทับร่างแล้วลากผู้ตายไปไกล 3 เมตร ขณะที่เจ้าหน้าที่ตรวจประวัติผู้ตายพบเคยถูกจับในคดีเสพยาเสพติดเมื่อปี 2549 และ 2553
วันนี้ (11 ก.พ.) เมื่อเวลา 09.20 น. ร.ต.ท.ไพโรจน์ สกุลเล็ก พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.ตลิ่งชัน ได้รับแจ้งเหตุชายกระโดดลงมาจากสะพานคู่ขนานลอยฟ้าขาเข้า ตรงข้ามปากซอยบรมราชชนนี 20 แขวงและเขตตลิ่งชัน กทม. จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน แพทย์นิติเวช โรงพยาบาลศิริราช และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุบนพื้นถนนในช่องทางด่วนขาเข้า พบศพนายนันฐกร เบ้าหลอม อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 79 หมู่ 6 ต.หนองไฮ อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ สภาพศพนอนหงายจมกองเลือด ใบหน้ายุบ ขาซ้ายหัก สวมเสื้อยืดสีน้ำตาล นุ่งกางเกงยีนส์สีน้ำเงิน ใส่รองเท้าคัตชูสีดำ ใกล้กันพบกระเป๋าสะพายสีดำภายในมีเอกสารสำเนาทะเบียนราษฎรของผู้ตาย 1 แผ่น นามบัตรและเบอร์โทรศัพท์จำนวนหนึ่ง แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ติดต่อไปยังหมายเลขโทรศัพท์ดังกล่าวที่พบกลับไม่มีใครรู้จักผู้ตาย ซึ่งเจ้าหน้าที่จึงเก็บหลักฐานที่พบทั้งหมดไปตรวจสอบ นอกจากนี้ ห่างออกไปประมาณ 1 เมตร พบรถเก๋งยี่ห้ออัลฟาโรมิโอ สีฟ้า จอดนิ่งอยู่ มีนายวรเศรษฐ ทองธรรรมโรจน์ เป็นเจ้าของรถ ยืนรอให้การต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจในที่เกิดเหตุ
จากการสอบสวนนายวรเศรษฐให้การว่า ได้ขับรถมุ่งหน้ามาตามเส้นทางดังกล่าวเพื่อไปทำธุระ แต่เมื่อขับมาถึงจุดเกิดเหตุ ผู้ตายได้กระโดดลงมาจากบนสะพานและกระแทกกับพื้นถนนอย่างแรง ทำให้ตนตกใจมากและเบรกรถไม่อยู่จึงทับผู้ตายและลากไปไกลประมาณ 3 เมตร ซึ่งตนไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ทำให้เบรกรถไม่ทันเป็นเหตุสุดวิสัยจริงๆ
ด้าน ร.ต.ท.ไพโรจน์เปิดเผยว่า เบื้องต้นจากการสอบสวนพยานในที่เกิดเหตุยังไม่มีใครรู้ว่าผู้ตายขึ้นไปบนสะพานได้อย่างไร แต่มีคนเห็นเดินวนเวียนไปมาอยู่บนสะพานเท่านั้น ก่อนที่จะตัดสินใจกระโดดลงมา เบื้องต้นคนขับรถเก๋งที่ทับผู้ตายไม่น่าจะมีความผิด จึงยังไม่ได้แจ้งข้อหาใดๆ หลังจากนี้จะมอบศพให้มูลนิธิส่งศพไปชันสูตรที่สถาบันนิติเวช รพ.ศิริราช อย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนติดต่อญาติของผู้ตายมาสอบปากคำและรับศพไปบำเพ็ญกุศลต่อไป ทั้งนี้ จากการตรวจสอบประวัติผู้ตายพบว่าเคยถูกจับกุมในคดีเสพยาเสพติดในท้องที่ สน.ธรรมศาลา เมื่อปี 2549 และถูกจับเมื่อปี 2553 อีกครั้งในคดีเสพยาเช่นกันในท้องที่อำเภอพนมทวน จังหวัดกาญจนบุรี