“ผู้การแต้ม” ซักซ้อมหน่วยปราบจลาจล 1,800 นาย พร้อมหน่วยจู่โจมอีก 90 นาย เพื่อรองรับสถานการณ์ผู้ชุมนุมเคลื่อนไหว โดยได้จำลองเหตุการณ์เสมือนจริงกรณีกลุ่มพันธมิตรฯ พยายามบุกเข้าไปในรัฐสภา โดยตำรวจเตรียมโล่และกระบอง แก๊สน้ำตาฉีดผลักดันไม่ให้ผู้ชุมนุมบุกเข้าสภาได้
วันนี้ (10 ก.พ.) เมื่อเวลา 15.00 น.ที่บริเวณรัฐสภา พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์พื้นที่รัฐสภา ได้ทำการซักซ้อมหน่วยปราบจลาจล (ปจ.) จำนวน 12 กองร้อย หรือประมาณ 1,800 นาย และหน่วยจู่โจมอีก 90 นาย เพื่อรองรับสถานการณ์กรณีกลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เคลื่อนไหวปิดล้อมการประชุมลงมติแก้ไขรัฐธรรมนูญ วาระ 3 โดยมีการจำลองเหตุการณ์เสมือนจริงกรณีกลุ่มผู้ชุมนุมพยายามบุกเข้าไปในรัฐสภา โดยทางตำรวจเตรียมมาตรการในการผลักดัน โดยใช้โล่และกระบอง การเจรจา การใช้แก๊สน้ำตา การใช้เครื่องแอลเรด และการใช้น้ำฉีด เพื่อผลักดันไม่ให้ผู้ชุมนุมบุกเข้าไปภายในรัฐสภาได้
พล.ต.ต.วิชัย กล่าวว่า เนื่องจากสถานการณ์ในช่วงนี้ไม่เรียบร้อยมีการชุมนุม โดยพื้นที่รัฐสภาซึ่งถือเป็นเป้าหมายของกลุ่มผู้ชุมนุมวันนี้ จึงได้มีการบูรณาการกำลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปจ. ทั้งหมดที่ดูแลพื้นที่ เพื่อวางยุทธวิธีไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมเข้ามายังบริเวณรัฐสภาได้ จึงต้องมีการฝึกให้เหมือนสถานการณ์จริงตามขั้นตอนแผนกรกฎ 52 โดยยืนยันว่า หากจำเป็นต้องใช้แก๊สน้ำตาในการผลักดันผู้ชุมนุมก็จะไม่เหมือนเหตุการณ์วันที่ 7 ต.ค.แน่นอน
วันนี้ (10 ก.พ.) เมื่อเวลา 15.00 น.ที่บริเวณรัฐสภา พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์พื้นที่รัฐสภา ได้ทำการซักซ้อมหน่วยปราบจลาจล (ปจ.) จำนวน 12 กองร้อย หรือประมาณ 1,800 นาย และหน่วยจู่โจมอีก 90 นาย เพื่อรองรับสถานการณ์กรณีกลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เคลื่อนไหวปิดล้อมการประชุมลงมติแก้ไขรัฐธรรมนูญ วาระ 3 โดยมีการจำลองเหตุการณ์เสมือนจริงกรณีกลุ่มผู้ชุมนุมพยายามบุกเข้าไปในรัฐสภา โดยทางตำรวจเตรียมมาตรการในการผลักดัน โดยใช้โล่และกระบอง การเจรจา การใช้แก๊สน้ำตา การใช้เครื่องแอลเรด และการใช้น้ำฉีด เพื่อผลักดันไม่ให้ผู้ชุมนุมบุกเข้าไปภายในรัฐสภาได้
พล.ต.ต.วิชัย กล่าวว่า เนื่องจากสถานการณ์ในช่วงนี้ไม่เรียบร้อยมีการชุมนุม โดยพื้นที่รัฐสภาซึ่งถือเป็นเป้าหมายของกลุ่มผู้ชุมนุมวันนี้ จึงได้มีการบูรณาการกำลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปจ. ทั้งหมดที่ดูแลพื้นที่ เพื่อวางยุทธวิธีไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมเข้ามายังบริเวณรัฐสภาได้ จึงต้องมีการฝึกให้เหมือนสถานการณ์จริงตามขั้นตอนแผนกรกฎ 52 โดยยืนยันว่า หากจำเป็นต้องใช้แก๊สน้ำตาในการผลักดันผู้ชุมนุมก็จะไม่เหมือนเหตุการณ์วันที่ 7 ต.ค.แน่นอน