“อัศวิน” ถกศูนย์ปราบปรามผู้มีอิทธิพล และมือปืนรับจ้าง สั่งจับตาเป็นพิเศษเลือกตั้งท้องถิ่น กำชับให้ฝ่ายสืบสวนปูพรมพูดคุยกับผู้มีอิทธิพลให้รู้ว่าเจ้าหน้าที่จับตาเฝ้าระวัง ไม่ควรเข่นฆ่าคู่แข่ง กระตุ้นต่อมขยันให้เจ้าหน้าที่เร่งจับกุมคนร้ายตามหมายจับค้างเก่า หวั่นอาวุธสงครามทะลักเข้าไทยจากปัญหาชายแดน
วันนี้ (8 ก.พ.) เมื่อเวลา 14.00 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ที่ปรึกษา (สบ10) ด้านการสืบสวน เป็นประธานการประชุมศูนย์ปราบปรามผู้มีอิทธิพลและมือปืนรับจ้าง โดยมี ผบก.ศูนย์สืบสวนสอบสวนของทุกภาคเข้าร่วมประชุม
พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า ในวันนี้เป็นการประชุมหารือในเรื่องการปราบปรามผู้มีอิทธิพล และมือปืนรับจ้าง ซึ่งเป็นการประชุมครั้งที่ 3 เพื่อประเมินการดำเนินการหลังจากที่ได้มีการมอบนโยบายการทำงานไปก่อนหน้านี้ ว่า มีความคืบหน้าและมีอุปสรรคในจุดใด เพื่อจะได้หาทางแก้ไขปัญหา นอกจากนี้ จะมีการประเมินสถิติการก่อเหตุในอดีตและปัจจุบัน ว่า มีจำนวนมากขึ้นหรือไม่ รวมทั้งจะมีการเร่งรัดให้ดำเนินการในส่วนของหมายจับค้างเก่า ว่า แต่ละพื้นที่มีการดำเนินจับกุมไปมากน้อยเพียงใดไม่ใช่มีการขออนุมัติหมายจับและไม่มีการดำเนินการอะไรเลย หากเป็นเช่นนั้นหมายจับที่ค้างเก่าก็คงไม่แตกต่างไปจากเศษกระดาษทั่วไป
พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวอีกว่า ทางศูนย์ปราบปรามผู้มีอิทธิพลและมือปืนรับจ้าง ยังมีการกำชับให้เจ้าหน้าที่แต่ละพื้นที่เน้นหนักในเรื่องของการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมด้วย เพราะการตั้งศูนย์ดังกล่าวขึ้นมาถือเป็นการแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุเท่านั้น แต่ปัจจัยสำคัญของการแก้ไขปัญหา คือ ป้องกันไม่ให้มีการเหตุอาชญากรรมเกิดขึ้น เนื่องจากเมื่อมีเหตุเกิดขึ้นถือว่า ความสูญเสียได้เกิดขึ้นแล้วเช่นกัน ดังนั้น เราต้องคิดว่า จะทำอย่างไรไม่ให้มีเหตุอาชญากรรมเกิดขึ้นอีก
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีพื้นที่ที่ต้องจับตามองเป็นพิเศษหรือไม่ พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า ในตอนนี้ถือว่ามีความน่าเป็นห่วงทุกพื้นที่ แต่ที่เรามีความวิตกกังวลมากที่สุด คือ การเลือกตั้งท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็น อบต.หรือ อบจ.เพราะมีการแข่งขันกันสูง เช่น เมื่อคิดว่า ผลการเลือกตั้งสู้ไม่ได้ก็มีการจ้างวานให้ไปสังหารคู่แข่ง ซึ่งปัจจุบันความคิดของคนจะเป็นอย่างนี้ไปหมดแล้ว แต่ทางตร.ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้มีการกำชับให้ฝ่ายสืบสวนเข้าไปพูดคุยกับผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่นว่า ทางเจ้าหน้าที่กำลังจับตาดูอยู่และไม่ควรทำพฤติกรรมเช่นนั้น ซึ่งถ้าเราสามารถดำเนินการได้ ผลการเกิดเหตุอาชญากรรมน่าจะลดลงไปได้จำนวนมาก
ผู้สื่อข่าวถามว่า ปัญหาในพื้นที่ชายแดนจะมีผลทำให้อาวุธสงครามเข้ามาในประเทศมากขึ้นหรือไม่ พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า ในเรื่องนี้เรามีความเป็นห่วงอยู่เช่นกัน แต่ทางทหารและเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่น่าจะดูแลอยู่แล้ว ซึ่งทำให้ปัญหาในเรื่องนี้น่าจะมีแนวโน้มที่ลดลงได้
วันนี้ (8 ก.พ.) เมื่อเวลา 14.00 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ที่ปรึกษา (สบ10) ด้านการสืบสวน เป็นประธานการประชุมศูนย์ปราบปรามผู้มีอิทธิพลและมือปืนรับจ้าง โดยมี ผบก.ศูนย์สืบสวนสอบสวนของทุกภาคเข้าร่วมประชุม
พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า ในวันนี้เป็นการประชุมหารือในเรื่องการปราบปรามผู้มีอิทธิพล และมือปืนรับจ้าง ซึ่งเป็นการประชุมครั้งที่ 3 เพื่อประเมินการดำเนินการหลังจากที่ได้มีการมอบนโยบายการทำงานไปก่อนหน้านี้ ว่า มีความคืบหน้าและมีอุปสรรคในจุดใด เพื่อจะได้หาทางแก้ไขปัญหา นอกจากนี้ จะมีการประเมินสถิติการก่อเหตุในอดีตและปัจจุบัน ว่า มีจำนวนมากขึ้นหรือไม่ รวมทั้งจะมีการเร่งรัดให้ดำเนินการในส่วนของหมายจับค้างเก่า ว่า แต่ละพื้นที่มีการดำเนินจับกุมไปมากน้อยเพียงใดไม่ใช่มีการขออนุมัติหมายจับและไม่มีการดำเนินการอะไรเลย หากเป็นเช่นนั้นหมายจับที่ค้างเก่าก็คงไม่แตกต่างไปจากเศษกระดาษทั่วไป
พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวอีกว่า ทางศูนย์ปราบปรามผู้มีอิทธิพลและมือปืนรับจ้าง ยังมีการกำชับให้เจ้าหน้าที่แต่ละพื้นที่เน้นหนักในเรื่องของการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมด้วย เพราะการตั้งศูนย์ดังกล่าวขึ้นมาถือเป็นการแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุเท่านั้น แต่ปัจจัยสำคัญของการแก้ไขปัญหา คือ ป้องกันไม่ให้มีการเหตุอาชญากรรมเกิดขึ้น เนื่องจากเมื่อมีเหตุเกิดขึ้นถือว่า ความสูญเสียได้เกิดขึ้นแล้วเช่นกัน ดังนั้น เราต้องคิดว่า จะทำอย่างไรไม่ให้มีเหตุอาชญากรรมเกิดขึ้นอีก
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีพื้นที่ที่ต้องจับตามองเป็นพิเศษหรือไม่ พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า ในตอนนี้ถือว่ามีความน่าเป็นห่วงทุกพื้นที่ แต่ที่เรามีความวิตกกังวลมากที่สุด คือ การเลือกตั้งท้องถิ่น ไม่ว่าจะเป็น อบต.หรือ อบจ.เพราะมีการแข่งขันกันสูง เช่น เมื่อคิดว่า ผลการเลือกตั้งสู้ไม่ได้ก็มีการจ้างวานให้ไปสังหารคู่แข่ง ซึ่งปัจจุบันความคิดของคนจะเป็นอย่างนี้ไปหมดแล้ว แต่ทางตร.ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้มีการกำชับให้ฝ่ายสืบสวนเข้าไปพูดคุยกับผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่นว่า ทางเจ้าหน้าที่กำลังจับตาดูอยู่และไม่ควรทำพฤติกรรมเช่นนั้น ซึ่งถ้าเราสามารถดำเนินการได้ ผลการเกิดเหตุอาชญากรรมน่าจะลดลงไปได้จำนวนมาก
ผู้สื่อข่าวถามว่า ปัญหาในพื้นที่ชายแดนจะมีผลทำให้อาวุธสงครามเข้ามาในประเทศมากขึ้นหรือไม่ พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า ในเรื่องนี้เรามีความเป็นห่วงอยู่เช่นกัน แต่ทางทหารและเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่น่าจะดูแลอยู่แล้ว ซึ่งทำให้ปัญหาในเรื่องนี้น่าจะมีแนวโน้มที่ลดลงได้