ญาติเหยื่อ “คุณหนูไฮโซ” เดินทางรับค่าปลงศพกับบริษัทประกันภัย 3 ราย โดยได้รับค่าสินไหมทดแทนรายละ 2 แสนบาท ขณะที่แม่บุญธรรม “ดร.ศาสตรา เช้าเที่ยง” เผยพอใจกับทุกฝ่ายที่ดูแลเป็นอย่างดี ระบุหลังแม่ “แพรวา” ขอขมาศพแล้วเงียบหาย ย้ำยังรอดูท่าทีตำรวจที่เป็นคนกลางเรียกเจรจาเมื่อใด เพราะทำใจได้แล้วพร้อมคุยทุกเรื่อง ด้าน ตร.เรียกหญิงสาวเจ้าของเก๋งซีวิคสอบ 19 ม.ค.
วันนี้ (7 ม.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ญาติของผู้เสียชีวิต จำนวน 4 ราย จากเหตุการณ์ที่ น.ส.อรชร หรือแพรวา เทพหัสดิน ณ อยุธยา อายุ 16 ปี 6 เดือน ขับรถเก๋งฮอนด้าซีวิค ชนท้ายรถตู้โดยสารบนทางด่วนโทลล์เวย์ ได้เดินทางมาที่บริษัท ส่งเสริมประกันภัย จำกัด เพื่อรับค่าสินไหมทดแทนรายละ 200,000 บาท ดังนี้คือ นางทองพูน พานทอง มารับค่าปลงศพของนางนฤมล ปิดตาทานัง ลูกสาว รายที่ 2 นางรัตติยา คันธา มารับค่าปลงศพของนายปรัชญา คันธา ลูกชาย รายที่ 3 นางสุภัชร์ศวีร์ รัตนโฉมศรี มารับค่าปลงศพของนายอุกฤษฎ์ รัตนโฉมศรี สามี และรายสุดท้าย น.ส.ถวิล เช้าเที่ยง มารับเงินค่าปลงศพของ ดร.ศาสตรา เช้าเที่ยง ลูกชาย
นายสินชัย เอี่ยมเกิด ผู้อำนวยการฝ่ายสินไหมรถยนต์ของบริษัท ส่งเสริมประกันภัย จำกัด กล่าวว่า ทางบริษัทได้ทำการรับผิดชอบในส่วนของการจ่ายค่าปลงศพทุกราย และจ่ายให้เต็มวงเงินที่ทางรถยนต์ได้ทำประกันไว้ คือรายละ 200,000 บาท โดยในวันนี้ได้จ่ายไปแล้วจำนวน 4 ราย ซึ่งในวันที่ 12 ม.ค.จะนัดญาติของผู้เสียชีวิตมารับอีก 3 ราย ส่วนอีก 2 รายยังอยู่ระหว่างขั้นตอนยื่นรับค่าสินไหมทดแทน ซึ่งทางบริษัทขอยืนยันว่าจะจ่ายให้ครบทุกรายและเต็มวงเงินอย่างแน่นอน
ด้าน น.ส.ถวิลกล่าวว่า ตนค่อนข้างพอใจกับทุกฝ่ายที่ให้ความสำคัญและดูแลเป็นอย่างดี แต่ญาติของ น.ส.แพรวายังไม่ได้ติดต่อเพื่อพูดคุยเรื่องค่าชดเชย โดยตั้งแต่ทางฝั่งคู่กรณีได้ไปขอขมาศพแล้วก็เงียบเฉยไป ซึ่งตนรอดูอยู่ว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เป็นคนกลางจะเรียกเจรจาเมื่อไหร่ เพราะตอนนี้ตนทำใจได้แล้ว และพร้อมที่จะพูดคุยหรือตกลงด้วยทุกเรื่อง
น.ส.ถวิลกล่าวด้วยว่า ยังรู้สึกเสียใจอยู่ แต่ตอนนี้รู้สึกเสียดายมากกว่า ซึ่งเสียดายความรู้ความสามารถที่ลูกมี เพราะว่าหากลูกยังมีชีวิตอยู่ก็น่าจะทำคุณประโยชน์ให้ประเทศชาติได้มากกว่านี้ เนื่องจากตอนนี้ลูกชายกำลังทำงานวิจัยอยู่ แต่ก็ต้องมาเสียชีวิตไปเสียก่อน ซึ่งทาง สวทช.ได้มีกำหนดการทำบุญให้ลูกของตนด้วยในวันจันทร์ที่ 10 ม.ค. นี้ด้วย
ด้าน พ.ต.ท.ฉัตรชัย เอี่ยมอ่อง พนักงานสอบสวน (สบ 2) สน.วิภาวดี กล่าวถึงความคืบหน้าคดีว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายเรียกตัวเจ้าของรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้าซีวิค คันที่ น.ส.แพรวาขับไปก่อเหตุ ให้มาพบพนักงานสอบสวนในวันที่ 19 ม.ค.นี้ โดยออกหมายเรียกไปตามชื่อที่ปรากฎอยู่ในหมายเลขทะเบียนรถของกรมขนส่งทางบก โดยขณะนี้ทราบเพียงว่าเจ้าของรถคันดังกล่าวเป็นผู้หญิง และพักอาศัยอยู่ที่จังหวัดภูเก็ต แต่ไม่สามารถให้ชื่อจริงได้ เพราะอยู่ในขั้นตอนการสอบสวน อีกทั้งยังต้องรอสอบปากคำถึงความเกี่ยวข้องกับรูปคดีด้วยว่ามีความข้องเกี่ยวกับทาง น.ส.แพรวาอย่างไร และเป็นผู้อนุญาตให้ น.ส.แพรวาขับรถคันดังกล่าวหรือไม่
พ.ต.ท.ฉัตรชัยกล่าวด้วยว่า ก่อนหน้านี้ได้มีผู้หญิงคนหนึ่งอ้างกับเจ้าหน้าที่ว่าเป็นเจ้าของรถคันดังกล่าว แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่เชิญตัวมาสอบปากคำหรือปักใจเชื่อ เนื่องจากจะต้องเชิญเจ้าของรถ ซึ่งมีชื่อตรงกับเจ้าของทะเบียนรถมาให้ปากคำก่อน เพื่อสอบสวนถึงที่มาที่ไปของรถคันดังกล่าวว่าใครกันแน่ที่เป็นเจ้าของรถเก๋งฮอนด้าซีวิค สีขาวที่แท้จริง
พ.ต.ท.ฉัตรชัยกล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ฝ่ายญาติผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บยังไม่ได้ประสานมายังตำรวจ เพื่อให้นัดฝั่งคู่กรณีมาเจรจาไกล่เกลี่ยตกลงชดใช้ค่าสินไหมและค่าอื่นๆ เนื่องจากขณะนี้ฝ่ายผู้เสียหายกำลังปรึกษาทีมกฎหมาย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพื่อหาข้อยุติว่าจะเรียกร้องแบบไหน ซึ่งตำรวจเป็นเพียงคนกลางประสานทั้งสองฝ่ายให้มาตกลงกันเท่านั้น ส่วนสำนวนคดีนั้นคืบหน้าไปประมาณ 70% แล้ว ขาดเอกสารจากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องกับคดี และสอบปากคำเจ้าของซีวิคตัวจริง ก่อนรวบรวมส่งฟ้องอัยการ
ตร.เร่งประสานเจรจาค่าเสียหายเหยื่อ “แพรวา”
“แพรวา” พูดสั้นๆ มันเป็นอุบัติเหตุ ขอโทษค่ะ! ตำรวจยึดสมานฉันท์ เน้นเจรจา
“แพรวา” จูงมือพ่อแม่-ทนายเข้ามอบตัวรับทราบ 2 ข้อหา!
“แพรวา” มอบตัวพรุ่งนี้พ่วงเจ้าของซีวิคโดนดำเนินคดีด้วย!
5 ม.ค. “แพรวา” มอบตัว! ตร.พร้อมสอบแต่ไม่คุมตัวไว้ ชี้เป็นเยาวชน
“แพรวา 9 ศพ” พร้อมเข้ารับทราบข้อกล่าวหา 5 ม.ค.!
“วัยรุ่นซีวิค” เปิดปากรับผิดประมาทจนก่ออุบัติเหตุ ปฏิเสธเล่นบีบี-โพสต์ FB ระบุอายุ 17 ปี
“แค่น้ำใจ-เสียใจ” พ่อ-เพื่อน “น้องฝ้าย” เหยื่อตีนผีทีนเอจขอ!
สภาทนายชี้พ่อ-แม่ "ตีนผีทีนเอจ" ต้องร่วมรับผิด
เหยื่อ “ตีนผีทีนเอจ” ตายเพิ่มศพที่ 9 แม่แพรวาออกขอโทษลดกระแสสังคม!
“แพรวา-ตีนผีทีนเอจ” ขวัญผวา ถูกขู่เอาชีวิต!
ภาพฟ้องเก๋งซิ่งสะบัดชนรถตู้ก่อนคร่า 8 ศพ!
ซีวิคซิ่งชนรถตู้บนด่วน “โทลล์เวย์” ผู้โดยสารร่วงลงมาตาย 8 ศพ เจ็บอีก 7
วันนี้ (7 ม.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ญาติของผู้เสียชีวิต จำนวน 4 ราย จากเหตุการณ์ที่ น.ส.อรชร หรือแพรวา เทพหัสดิน ณ อยุธยา อายุ 16 ปี 6 เดือน ขับรถเก๋งฮอนด้าซีวิค ชนท้ายรถตู้โดยสารบนทางด่วนโทลล์เวย์ ได้เดินทางมาที่บริษัท ส่งเสริมประกันภัย จำกัด เพื่อรับค่าสินไหมทดแทนรายละ 200,000 บาท ดังนี้คือ นางทองพูน พานทอง มารับค่าปลงศพของนางนฤมล ปิดตาทานัง ลูกสาว รายที่ 2 นางรัตติยา คันธา มารับค่าปลงศพของนายปรัชญา คันธา ลูกชาย รายที่ 3 นางสุภัชร์ศวีร์ รัตนโฉมศรี มารับค่าปลงศพของนายอุกฤษฎ์ รัตนโฉมศรี สามี และรายสุดท้าย น.ส.ถวิล เช้าเที่ยง มารับเงินค่าปลงศพของ ดร.ศาสตรา เช้าเที่ยง ลูกชาย
นายสินชัย เอี่ยมเกิด ผู้อำนวยการฝ่ายสินไหมรถยนต์ของบริษัท ส่งเสริมประกันภัย จำกัด กล่าวว่า ทางบริษัทได้ทำการรับผิดชอบในส่วนของการจ่ายค่าปลงศพทุกราย และจ่ายให้เต็มวงเงินที่ทางรถยนต์ได้ทำประกันไว้ คือรายละ 200,000 บาท โดยในวันนี้ได้จ่ายไปแล้วจำนวน 4 ราย ซึ่งในวันที่ 12 ม.ค.จะนัดญาติของผู้เสียชีวิตมารับอีก 3 ราย ส่วนอีก 2 รายยังอยู่ระหว่างขั้นตอนยื่นรับค่าสินไหมทดแทน ซึ่งทางบริษัทขอยืนยันว่าจะจ่ายให้ครบทุกรายและเต็มวงเงินอย่างแน่นอน
ด้าน น.ส.ถวิลกล่าวว่า ตนค่อนข้างพอใจกับทุกฝ่ายที่ให้ความสำคัญและดูแลเป็นอย่างดี แต่ญาติของ น.ส.แพรวายังไม่ได้ติดต่อเพื่อพูดคุยเรื่องค่าชดเชย โดยตั้งแต่ทางฝั่งคู่กรณีได้ไปขอขมาศพแล้วก็เงียบเฉยไป ซึ่งตนรอดูอยู่ว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เป็นคนกลางจะเรียกเจรจาเมื่อไหร่ เพราะตอนนี้ตนทำใจได้แล้ว และพร้อมที่จะพูดคุยหรือตกลงด้วยทุกเรื่อง
น.ส.ถวิลกล่าวด้วยว่า ยังรู้สึกเสียใจอยู่ แต่ตอนนี้รู้สึกเสียดายมากกว่า ซึ่งเสียดายความรู้ความสามารถที่ลูกมี เพราะว่าหากลูกยังมีชีวิตอยู่ก็น่าจะทำคุณประโยชน์ให้ประเทศชาติได้มากกว่านี้ เนื่องจากตอนนี้ลูกชายกำลังทำงานวิจัยอยู่ แต่ก็ต้องมาเสียชีวิตไปเสียก่อน ซึ่งทาง สวทช.ได้มีกำหนดการทำบุญให้ลูกของตนด้วยในวันจันทร์ที่ 10 ม.ค. นี้ด้วย
ด้าน พ.ต.ท.ฉัตรชัย เอี่ยมอ่อง พนักงานสอบสวน (สบ 2) สน.วิภาวดี กล่าวถึงความคืบหน้าคดีว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายเรียกตัวเจ้าของรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้าซีวิค คันที่ น.ส.แพรวาขับไปก่อเหตุ ให้มาพบพนักงานสอบสวนในวันที่ 19 ม.ค.นี้ โดยออกหมายเรียกไปตามชื่อที่ปรากฎอยู่ในหมายเลขทะเบียนรถของกรมขนส่งทางบก โดยขณะนี้ทราบเพียงว่าเจ้าของรถคันดังกล่าวเป็นผู้หญิง และพักอาศัยอยู่ที่จังหวัดภูเก็ต แต่ไม่สามารถให้ชื่อจริงได้ เพราะอยู่ในขั้นตอนการสอบสวน อีกทั้งยังต้องรอสอบปากคำถึงความเกี่ยวข้องกับรูปคดีด้วยว่ามีความข้องเกี่ยวกับทาง น.ส.แพรวาอย่างไร และเป็นผู้อนุญาตให้ น.ส.แพรวาขับรถคันดังกล่าวหรือไม่
พ.ต.ท.ฉัตรชัยกล่าวด้วยว่า ก่อนหน้านี้ได้มีผู้หญิงคนหนึ่งอ้างกับเจ้าหน้าที่ว่าเป็นเจ้าของรถคันดังกล่าว แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่เชิญตัวมาสอบปากคำหรือปักใจเชื่อ เนื่องจากจะต้องเชิญเจ้าของรถ ซึ่งมีชื่อตรงกับเจ้าของทะเบียนรถมาให้ปากคำก่อน เพื่อสอบสวนถึงที่มาที่ไปของรถคันดังกล่าวว่าใครกันแน่ที่เป็นเจ้าของรถเก๋งฮอนด้าซีวิค สีขาวที่แท้จริง
พ.ต.ท.ฉัตรชัยกล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ฝ่ายญาติผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บยังไม่ได้ประสานมายังตำรวจ เพื่อให้นัดฝั่งคู่กรณีมาเจรจาไกล่เกลี่ยตกลงชดใช้ค่าสินไหมและค่าอื่นๆ เนื่องจากขณะนี้ฝ่ายผู้เสียหายกำลังปรึกษาทีมกฎหมาย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพื่อหาข้อยุติว่าจะเรียกร้องแบบไหน ซึ่งตำรวจเป็นเพียงคนกลางประสานทั้งสองฝ่ายให้มาตกลงกันเท่านั้น ส่วนสำนวนคดีนั้นคืบหน้าไปประมาณ 70% แล้ว ขาดเอกสารจากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องกับคดี และสอบปากคำเจ้าของซีวิคตัวจริง ก่อนรวบรวมส่งฟ้องอัยการ
ตร.เร่งประสานเจรจาค่าเสียหายเหยื่อ “แพรวา”
“แพรวา” พูดสั้นๆ มันเป็นอุบัติเหตุ ขอโทษค่ะ! ตำรวจยึดสมานฉันท์ เน้นเจรจา
“แพรวา” จูงมือพ่อแม่-ทนายเข้ามอบตัวรับทราบ 2 ข้อหา!
“แพรวา” มอบตัวพรุ่งนี้พ่วงเจ้าของซีวิคโดนดำเนินคดีด้วย!
5 ม.ค. “แพรวา” มอบตัว! ตร.พร้อมสอบแต่ไม่คุมตัวไว้ ชี้เป็นเยาวชน
“แพรวา 9 ศพ” พร้อมเข้ารับทราบข้อกล่าวหา 5 ม.ค.!
“วัยรุ่นซีวิค” เปิดปากรับผิดประมาทจนก่ออุบัติเหตุ ปฏิเสธเล่นบีบี-โพสต์ FB ระบุอายุ 17 ปี
“แค่น้ำใจ-เสียใจ” พ่อ-เพื่อน “น้องฝ้าย” เหยื่อตีนผีทีนเอจขอ!
สภาทนายชี้พ่อ-แม่ "ตีนผีทีนเอจ" ต้องร่วมรับผิด
เหยื่อ “ตีนผีทีนเอจ” ตายเพิ่มศพที่ 9 แม่แพรวาออกขอโทษลดกระแสสังคม!
“แพรวา-ตีนผีทีนเอจ” ขวัญผวา ถูกขู่เอาชีวิต!
ภาพฟ้องเก๋งซิ่งสะบัดชนรถตู้ก่อนคร่า 8 ศพ!
ซีวิคซิ่งชนรถตู้บนด่วน “โทลล์เวย์” ผู้โดยสารร่วงลงมาตาย 8 ศพ เจ็บอีก 7