ผลสอบระบุชัดโยกย้าย “จ่าเพียร” บกพร่องจริง

“เอก” เผยผลประชุมคำสั่งโยกย้ายตำรวจภูธร ภาค 9  กรณี “จ่าเพียร” รับบกพร่องจริง เตรียมประชุมอีกครั้ง 1 เมษายน  เพื่อสรุปความเห็นอย่างเป็นทางการ  พร้อมดูแลโผโยกย้าย 3 จังหวัดใต้เป็นพิเศษ  ยังไร้วี่แววหาผู้รับผิดชอบ

วันนี้ (29 มี.ค.) เมื่อเวลา 19.00 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.เอก อังสนานนท์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพิจารณาเหตุจำเป็นในการแต่งตั้งและตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีข้อบกพร่องในคำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายของกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 กรณี พล.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา อดีต ผกก.บันนังสตา โดยใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง

พล.ต.ท.เอก กล่าวภายหลังการประชุมว่า คณะกรรมการทั้ง 10 คนได้เสนอความเห็นของตนเอง จนได้ข้อสรุปเป็นไปในทิศทางเดียวกันทั้งหมด ว่าการแต่งตั้งครั้งนี้มีข้อบกพร่องเกิดขึ้นจริง ทั้งในส่วนกระบวนการการแต่งตั้ง ซึ่งมีผลให้เห็นความบกพร่องด้านจริยธรรมและคุณธรรม ซึ่งข้อบกพร่องทางจริยธรรมนี้ เห็นได้จากมีประโยคหนึ่งในหนังสือเสนอความเห็นว่า พล.ต.อ.สมเพียร เป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความกล้าหาญและเสียสละในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงเสนอให้แต่งตั้งไป เพื่อเป็นการตอบแทนและให้พักผ่อน

“ไม่อยากพูดชี้ชัดในรายละเอียดว่ามีใครผิด หรือบกพร่องอย่างไร แต่พบความบกพร่องแน่นอน โดยในวันที่ 1 เม.ย.จะประชุมคณะกรรมการชุดนี้อีกครั้ง เพื่อสรุปความเห็นอย่างเป็นทางการ ก่อนเสนอให้ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รรท.ผบ.ตร.พิจารณา นอกจากนี้คณะกรรมการได้เสนอแนะว่า ตร.ควรพิจารณาในการใช้ดุลยพินิจแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจพื้นที่3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นกรณีพิเศษ แม้สังคมจะมองว่าเป็นเรื่องวัวหายแล้วล้อมคอกก็ต้องทำ” พล.ต.ท.เอก กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีคำสั่งของกองบัญชาการบกพร่อง ตามกฎหมายแล้วผู้ที่ต้องรับผิดชอบ คือ ผบช.ใช่หรือไม่ พล.ต.ท.เอก กล่าวว่า ตามกฎหมายเป็นอย่างนั้น แต่ตอนนี้ยังไม่สรุปว่าใครบกพร่อง จนกว่า พล.ต.อ.ปทีป จะมีความเห็น ซึ่งอาจจะถือตามนี้ก็ได้

เมื่อถามว่า บทสรุปของกรรมการชุดนี้จะนำไปสู่การตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัยผู้ใดหรือไม่ พล.ต.ท.เอก กล่าวว่า ก็เป็นไปได้หากพล.ต.อ.ปทีป เห็นด้วยตามที่คณะกรรมการชุดนี้สรุปว่าข้อเท็จจริงมีมูล

ขณะที่มีรายงานว่า การดำเนินการตรวจสอบในส่วนของ คณะอนุ ก.ตร.เกี่ยวกับการร้องทุกข์ ที่ดำเนินการตรวจสอบกรณีเดียวกัน ตามกฎหมายคงไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้ เนื่องจากผู้เสียหายในกรณีนี้ คือ พล.ต.อ.สมเพียร ได้เสียชีวิตไปแล้ว