บึ้มผับเพื่อชีวิต “บ้านลุงใหญ่” รามอินทรา รถเสียหาย 3 คัน ขณะที่ผู้จัดการร้านยันทางร้านไม่เคยมีปัญหากับใคร ด้านเจ้าของรถคาดอาจเป็นการข่มขู่เพราะได้พาเพื่อนสาวที่เคยมาเที่ยวร้านนี้บ่อย แต่ตนเองไม่เคยมาเลยถูกเขม่น เพราะอาจมีหนุ่มชอบสาวเจ้าอยู่ ด้านตำรวจเชื่อเป็นเรื่องส่วนตัวไม่เกี่ยวการเมือง
วันนี้ (27 มี.ค.) เมื่อเวลา 03.30 น. พ.ต.ท.วันชัย สืบจากศรี พนักงานสอบสวน (สบ 2) สน.ลาดพร้าว ช่วยราชการ พนักงานสอบสวน สน.บางชัน รับแจ้งมีเหตุระเบิดที่ร้านอาหาร “บ้านลุงใหญ่” ตั้งอยู่ริมถนนรามอินทราขาออก แขวงและเขตคันนายาว จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้วรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ธีระพงษ์ คล้ายแก้ว ผกก.สน.บางชัน และกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.บางชัน
ที่เกิดเหตุอยู่ห่างจากห้างแฟชั่นไอส์แลนด์ประมาณ 300 เมตร จากการตรวจสอบที่บริเวณลานจอดรถพบรถเก๋ง ยี่ห้อเมอร์ซิเดสเบนซ์ สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน ภย-9988 กทม. ของนายวิรุฬ ต้นทนะเวชกุล อายุ 30 ปี จอดอยู่ริมกำแพงร้านในสภาพกระจกประตูหลังคนขับแตก และมีรูคล้ายเกิดจากรอยกระสุนปืน 1 รู ใกล้กันพบรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้าแอคคอร์ด สีดำ หมายเลขทะเบียน ฌร-6669 กทม. ของ น.ส.พิชญ์สนี เรืองคง อายุ 31 ปี จอดอยู่ในสภาพฝากระโปรงท้ายได้รับความเสียหาย และรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า วีออส สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน ชป-9567 กทม. ของนายคมกฤช เกตุสิงห์สร้อย อายุ 30 ปี จอดอยู่ในสภาพหลังคารถ กระจกหน้าด้านขวาแตก ที่เบาะคนขับมีรูคล้ายรอยกระสุนปืน และตัวถังรถด้านขวาเป็นรอยทั้งแถบ เจ้าหน้าที่จึงนำรถทั้ง 3 คัน ส่งให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบว่าเกิดจากสาเหตุใด
จากการตรวจสอบบริเวณโดยรอบจุดเกิดเหตุพบฝาครอบไฟส่องลานจอดรถ ซึ่งสูงประมาณ 3 เมตร ตกลงมาแตกกระจายเต็มพื้น นอกจากนี้ยังพบกิ่งของต้นมะม่วงสูงประมาณ 3 เมตร หักลงมาอยู่ที่พื้น และที่ลำต้นมีร่องรอยคล้ายถูกกระสุนปืนยิงจนกิ่งหักลงมา ส่วนที่ผนังกำแพงของลานจอดรถยังพบร่องรอยคล้ายรูกระสุนปืน 2 รูป เจ้าหน้าที่จึงเก็บรายละเอียดทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวน รปภ.ของร้านดังกล่าวให้การว่า ขณะเกิดเหตุได้ยินเสียงคล้ายระเบิดดังขึ้นมา 1 ครั้ง จากนั้นกิ่งต้นมะม่วงหักลงมา จึงรีบเดินไปก็พบว่ารถเก๋งของลูกค้าทั้ง 3 คันได้รับความเสียหาย จึงเข้าไปเรียกผู้จัดการร้านออกมาดู ก่อนจะเข้าไปประกาศให้เจ้าของรถทั้ง 3 คันทราบว่ารถได้รับความเสียหาย โดยไม่รู้ว่าใครเป็นคนทำ เนื่องจากไม่มีใครเห็นเหตุการณ์ และไม่มีกล้องวงจรปิดที่ลานจอดรถ
ด้าน นางวรินยุพา นิลนิยม อายุ 46 ปี ผู้จัดการร้านที่เกิดเหตุ กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุนั้น ตนกำลังจะปิดร้านแล้ว จู่ๆก็มีลูกน้องก็วิ่งไปบอกว่ามีระเบิด เลยรู้สึกตกใจจึงรีบวิ่งมาดู ปรากฏว่ารถเก๋งของลูกค้าได้รับความเสียหาย ก่อนจะรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบทันที อย่างไรก็ตามร้านนี้เปิดให้บริการมานานแล้ว และก็ไม่เคยมีเรื่องนี้เกิดขึ้นเลย อีกทั้งตนกับคนในร้านก็ไม่เคยมีเรื่องกับใครมาก่อนด้วย
ด้าน พ.ต.อ.ธีระพงษ์ คล้ายแก้ว ผกก.สน.บางชัน กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นยังไม่ทราบว่ารถเก๋ง ทั้ง 3 คันนั้นได้รับความเสียหายเพราะอะไร และเสียงที่ดังขึ้นยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นปืนหรือระเบิด แต่หากรถยนต์ถูกระเบิดจริงคงต้องได้รับความเสียหายมากกว่านี้
แต่จากการสอบสวนเจ้าของรถคันหนึ่งก็ทราบว่า เมื่อคืนเพิ่งพาเพื่อนสาวมาเที่ยวที่ร้านอาหาร โดยเพื่อนสาวคนดังกล่าวจะมาเที่ยวที่ร้านนี้เป็นประจำ แต่ตัวเจ้าของรถนั้นเพิ่งเคยมาเป็นครั้งแรก จึงอาจเป็นไปได้ว่าลูกค้ารายอื่นที่มาเที่ยวที่ร้านนี้ชอบพอเพื่อนสาวคนดังกล่าวอยู่ เมื่อเห็นมากับชายหนุ่มคนอื่นก็เลยเกิดความหึงหวงจึงก่อเหตุเพื่อข่มขู่ไม่ให้ไปยุ่งกับเพื่อนสาวคนนี้อีก
พ.ต.อ.ธีระพงษ์กล่าวด้วยว่า เบื้องต้นเชื่อว่าเรื่องนี้ไม่น่าจะเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมือง แต่อาจจะเป็นเรื่องส่วนตัวมากกว่า อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ยังไม่ตัดประเด็นอื่นทิ้งไป และต้องรอผลจากการตรวจสอบอีกครั้งว่า รถเก๋งทั้ง 3 คัน ได้รับความเสียหายเพราะอะไร ทั้งนี้ทางผู้บังคับบัญชาได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก พร้อมกำชับให้ สน.บางชัน เร่งติดตามจับกุมตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้ จึงได้สั่งให้ฝ่ายสืบสวนออกหาข้อมูล เพื่อเป็นเบาะแสในการติดตามตัวคนร้ายรายนี้แล้ว
