xs
xsm
sm
md
lg

ตร.ยันไม่พกอาวุธ ไม่ใช้กำลังกับม็อบ เน้นเจรจาชุมนุมสันติ

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


ม็อบแดงจัดขบวนรถบรรทุก 6 ล้อ จยย. กระบะ วิ่งสร้างความเดือดร้อนจราจรอัมพาต แบ่งบางส่วนแยกย้ายตามวัด กดดันทหารถอนกำลัง ขณะที่ โฆษก บช.น. ยันเจ้าหน้าที่จะไม่ใช้กำลังกับผู้ชุมนุมอย่างเด็ดขาด ไม่มีการพกอาวุธ มีเพียงโล่รักษาความปลอดภัยแต่ละจุดเข้มงวด

วันนี้ (27 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงว่า เมื่อเวลา 10.30 น. นายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง แกนนำ นปช. นายสุพร อัตถาวงศ์ หรือแรมโบ้อีสาน และนายพายัพ ปั้นเกตุ อดีต ส.ส.ไทยรักไทย จ.สิงห์บุรี นำกลุ่มผู้ชุมนุมจากลานพระรูปทรงม้าประมาณ 2,000 คน เข้าปิดล้อมอาคารรัฐสภา โดยมี พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าเจรจาต่อรอง แต่มีเหตุกระทบกระทั่งกับเจ้าหน้าที่เล็กน้อย

“ไพร่แดง” เผา รธน.ปี 50 ประท้วง

ส่วนบริเวณแยกพิชัย โดย เจ๋ง ดอกจิก นำผู้ชุมนุมคนเสื้อแดงกว่า 500 คน เข้ามาสมทบกับกลุ่มผู้ชุมนุมที่อาคารรัฐสภา โดยมี พ.ต.อ.สุทิน ทรัพย์พ่วง รอง ผบก.น.8 นำกำลังเจ้าหน้าที่เจรจา ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถยื้อกลุ่มผู้ชุมนุมได้ประมาณครึ่งชั่วโมง จนต้องปล่อยให้เข้าไป จากนั้นผู้ชุมนุมทั้งสองกลุ่มเดินทางมาถึงอาคารรัฐสภา พร้อมทั้งปิดล้อมไว้ จากนั้นแกนนำแจ้งให้ประชาชนประกบตำรวจและทหารเพื่อส่งเข้ากลับ กรม กอง พร้อมทั้งขอเข้าตรวจสอบว่ามีเจ้าหน้าที่ทหารยังรักษาการณ์อยู่หรือไม่ ซึ่งทาง พล.ต.ต.วิชัย ได้เจรจาให้ส่งตัวแทน 20 รายเข้าไปดูในอาคารรัฐสภา แต่นายอริสมันต์ไม่ยอม และยืนยันว่าจะนำผู้ชุมนุมเข้าไปทั้งหมด ในส่วนของแกนนำคนอื่นๆเกรงว่าหากปล่อยให้ผู้ชุมนุมเข้าไปตามที่นายอริสมันต์ ประกาศจะควบคุมไม่อยู่ จึงให้นายอริสมันต์พร้อมตัวแทนเข้าไปตรวจว่ายังมีทหารตั้งกำลังหรือไม่ ซึ่งพบว่ามีเพียงเจ้าหน้าที่ทหาร 4-5 นาย ควบคุมรถฉีดน้ำเท่านั้น

นอกจากนี้ยังมีตัวแทนบางส่วนเข้าตรวจสอบที่สวนสัตว์เขาดิน แต่กำลังทหารถอนกำลังออกไปก่อนหน้านี้แล้ว เมื่อทำการตรวจค้นแล้ว กลุ่มผู้ชุมนุมได้นำรัฐธรรมนูญปี 2550 มาเผาหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 ท่ามกลางเสียงโห่ร้องของผู้ชุมนุมตลอดเวลา

ต่อมาเวลา 11.00 น. ผู้ชุมนุมจัดขบวนทัพโดยมีรถบรรทุก 6 ล้อ รถกระบะ และ จักรยานยนต์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นวิน จยย.และเด็กแว๊น กว่า 2,000 คน ขับมุ่งหน้าจากถนนเพชรบุรี และดินแดง มารวมตัวกันบริเวณถนนศรีอยุธยา หน้าโรงพยาบาลสงฆ์ ทำให้เจ้าหน้าที่ ขสมก. วิทยุสั่งห้ามรถเมล์หยุดวิ่ง ซึ่งส่งผลกระทบทำให้ประชาชนที่ใช้รถประจำทางได้รับความเดือดร้อน นอกจากนี้ ถนนสายดังกล่าวและใกล้เคียงกลายเป็นอัมพาตตลอดสาย

ยังกล้ายกตีนตบเขตพระราชฐาน
ระหว่างทางมีชาวบ้านสวมเสื้อแดงมาให้กำลังใจประปราย โดยเฉพาะพ่อค้าหาบเร่แผงลอย รปภ.และคนงานก่อสร้าง จากนั้นขบวนคนเสื้อแดงมุ่งหน้าไปยังสวนสัตว์เขาดิน เพื่อขอตรวจค้นอาวุธเจ้าหน้าที่ทหารและขับไล่ให้กลับ กรม กอง ตามที่แกนนำได้ประกาศไว้ ขณะผ่านวังสวนจิตร เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร เจ้าหน้าที่ กทม. และกลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนได้ขอร้องให้ผู้ชุมนุมอยู่ในความสงบห้ามบีบแตรรถ หรือเขย่าตีนตบเพราะเป็นเขตพระราชฐาน แต่ผู้ชุมนุมบางส่วนยังคงฝ่าฝืนคำสั่งหยิบตีนตบมาเขย่าและตะโกนด่าทอนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯให้ยุบสภาอยู่ตลอดเวลา

จากนั้นหัวขบวนก็เข้ามาถึงลานพระบรมรูปทรงม้า และทยอยเข้าไปสมทบกับผู้ชุมนุมบางส่วนที่สวนสัตว์เขาดิน ส่วนบริเวณสองข้างทางคนงานกำลังเร่งก่อสร้างร้านค้าในงานกาชาด ขณะที่บริเวณ บช.น. เจ้าหน้าที่ปราบปราบจลาจลได้นำแท่งคอนกรีตและลวดหนามมาขึงไว้เพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมบุกเข้ามาได้

ม็อบกระจายตามวัด จ้องกดดันทหารถอนกำลัง
ขณะเดียวกัน ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล เมื่อเวลา 13 00 น. พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษก บช.น. กล่าวถึงสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ว่า ตนได้รับมอบหมายจากศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) ให้รายงานสถานการณ์ปัจจุบันให้กับพี่น้องประชาชนได้รับทราบเริ่มตั้งแต่เมื่อเช้ากลุ่มผุ้ชุมนุมได้รวมตัวกันบริเวณสะพานผ่านฟ้า จากนั้นได้แยกย้ายกันไปตามจุดต่างๆ โดยมีภารกิจกดดันเจ้าหน้าที่ทหารให้ถอนกำลังจากจุดพักกำลังพลต่างๆ กลับเข้าสู่ที่ตั้ง ซึ่งผู้ชุมนุมได้แยกขบวนออกไปประมาณ 7-8 จุด เช่น วัดตรีทศเทพ วัดบวรนิเวศวิหาร วัดโสมนัสฯ วัดแคนางเลิ้ง สนามม้านางเลิ้ง สวนสัตว์เขาดิน และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร วิทยาเขตพณิชยการพระนคร

ย้ำม็อบอย่าฝ่าฝืน กม. ทำลายทรัพย์สิน

พล.ต.ต.ปิยะกล่าวว่า จุดพักต่างๆ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร พักกำลังพลอยู่ บางจุดไม่มีเจ้าหน้าที่ ทหาร ซึ่งมีการเจรจากันเรื่อยมา เพื่อป้องกันการกระทบกระทั่งกัน จากนั้นทหารได้ถอนกำลังเข้าสู่ที่ตั้งแล้วหลายจุด เช่น สนามม้านางเลิ้ง วัดตรีทศเทพ วัดบวรนิเวศน์ สวนสัตว์เขาดิน รัฐสภาและในหลายๆ จุดนั้น ทาง ศอ.รส.ได้ลดแรงกดดัน นำเจ้าหน้าที่ทหารเข้าสู่ที่ตั้งก่อน และให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลความสงบเรียบร้อยแทนทหารทั้งหมดแล้ว อย่างไรก็ตามขณะนี้ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 กำลังเจรจาต่อรองกับกลุ่มผู้ชุมนุม ที่พยายามรื้อเครื่องกีดขวางต่างๆ เพื่อตรวจสอบอาวุธเจ้าหน้าที่ ซึ่ง พล.ต.ต.วิชัย ได้ขอให้ส่งตัวแทนมาเท่านั้น และอย่าฝ่าฝืนกฎหมาย การบุกรุกเข้าไปยังสถานที่ราชการ หรือทำลายสิ่งของสาธารณะ เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย

พล.ต.ต.ปิยะกล่าวอีกว่า ขณะนี้เหตุการณ์ทุกพื้นที่เท่าที่ตรวจสอบยังไม่มีการกระทำที่ผิดกฎหมาย ซึ่งยังอยู่ในขั้นตอนการเจรจาต่อรองอยู่ ส่วนด้านการจราจรนั้นพบว่าบริเวณทางด่วนอาจณรงค์ พื้นที่โดยรอบถนนราชดำเนิน ทางลงสะพานปิ่นเกล้า สะพานพระราม 8 สู่ถนนราชดำเนินยังเคลื่อนตัวไม่สะดวก ก็คงต้องอาศัยเวลา

“ขอยืนยันอีกครั้งว่า เจ้าหน้าที่จะไม่ใช้กำลังกับผู้ชุมนุมอย่างเด็ดขาด ไม่มีการพกอาวุธ การยืนกำลังเพื่อเป็นการรักษาแนว และเจรจาต่อรอง จะมีเพียงโล่เท่านั้น ทุกจุดไม่ว่าฐานที่ตั้ง หรือจุดที่วางกำลังอยู่ ซึ่งมีทั้งหมด 41 กองร้อย รวมทั้งกำลัง ณที่ตั้งอีกจำนวนหนึ่ง” โฆษก บช.น.กล่าว

บึ้มกรมศุลฯ มุ่งเช็กขัดแย้งภายในองค์กรหรือไม่

พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวถึงคดีระเบิดที่เกิด กทม.หลายจุดว่า ส่วนใหญ่เป็นระเบิดขนาดเอ็ม 67 ที่ผ่านมาก็มีหลักฐานเป็นกระเดื่องที่เก็บมาตรวจสอบ ซึ่งกำลังตรวจสอบกันอยู่ว่ามีส่วนเชื่อมโยงกับเรื่องการเมืองหรือไม่ ซึ่งบางคดีเป็นการคดีอาญาปกติก็ได้ เช่นที่เหตุการณ์ลอบวางระเบิดที่ตลาดปัฐวิกรณ์ แขวงการทางธนบุรี และคดียิงบ้านนักธุรกิจ ท้องที่ทองหล่อ ซึ่งเป็นเรื่องส่วนตัวหลายคดี ส่วนคดีปาระเบิดในกรมศุลกากรนั้นต้องตรวจสอบว่าเป็นเรื่องความขัดแย้งภายในองค์กรหรือไม่เพราะหน่วยงานดังกล่าวไม่ได้เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งทางการเมือง

พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษก บช.น.
กำลังโหลดความคิดเห็น