“ปทีป” เผย รู้ชื่อเล่นคนร้ายอีกรายยิงอาร์พีจีกลาโหมแล้ว รับ กทม.กว้างใหญ่ไพศาล มีโอกาสก่อเหตุง่าย เน้นวางกำลังเข้มทุกจุด เพิ่มดูแลบนทางด่วน ย้ำให้ลูกน้องเป็นกลางมีวินัย แต่จะบังคับจิตใจไม่ได้ ระบุ ยังไม่ออกหมายจับพันธมิตรฯ บุกสนามบิน และไม่เคยเห็นโผย้าย “สมเพียร”
วันนี้ (25 มี.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาราชการแทน ผบ.ตร.กล่าวถึงสถานการณ์การดูแลความปลอดภัยพื้นที่ กทม.ในช่วงที่รัฐบาลประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคง และมีการชุมนุมของกลุ่ม นปช.ว่า อย่างที่ทราบกันแล้ว หลังสุดที่มีการลอบยิงจรวดอาร์พีจีใส่กระทรวงกลาโหม แต่พลาดเป้า ซึ่งเจ้าหน้าที่ทราบตัวคนร้ายและได้ออกหมายจับไปแล้ว 1 คน ซึ่งขณะนี้กำลังหาอีกคนหนึ่ง โดยทราบมาว่ารู้ชื่อเล่นแล้ว ซึ่งต้องหาชื่อจริง และออกหมายจับต่อไป
ชี้ กทม.กว้างใหญ่ไพศาล บึ้มเกิดง่าย
อย่างไรก็ตาม จากรายงานข่าวทราบว่า คนร้ายยังอยู่ในประเทศ ส่วนเรื่องการระวังป้องกัน คือการตั้งด่านเข้มในเรื่องของการตรวจตรา การใช้อาสาสมัครและขอความช่วยเหลือกับประชาชน เราดำเนินการทั้งทหารตำรวจและประชาชนได้ช่วยกันอย่างเต็มกำลังความสามารถ ซึ่งเราคิดว่าทำเต็มกำลังที่เรามีอยู่แล้ว ส่วนที่ยังมีการก่อเหตุอยู่นั้น มันมีโอกาสที่เขาทำได้ เพราะพื้นที่ กทม.กว้างใหญ่ไพศาลมาก เราจะดูทุกตารางเมตรคงไม่ได้ แต่ยืนยันว่า เราวางกำลังเต็มที่ ทุกจุด อย่างช่วงหลังมีการก่อเหตุยิงระเบิดบนทางด่วน เราได้เพิ่มกำลังดูแลบนทางด่วนด้วย ทั้งที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลอยู่แล้วก็ตาม
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในแนวทางการสืบสวนหาตัวคนร้ายมีประเด็นกรณีเจ้าหน้าที่รัฐสร้างสถานการณ์หรือไม่ พล.ต.อ.ปทีป กล่าวว่า อย่าเพิ่งไปคิด เอาเป็นว่า ทำอย่างไรอย่าให้เกิดดีกว่า และถ้าเกิดแล้วทำยังไงจับคนร้ายให้ได้ กรณีที่เจ้าหน้ารัฐสร้างสถานการณ์อาจจะเป็นกรณีการข่าวที่พูดกันไป สวนในแง่การสอบสวน อย่างกรณีแบงก์กรุงเทพ ที่เราจับคนร้ายได้ก็รู้อยู่ว่าอะไรคืออะไร แต่หากกรณีที่เราจับคนร้ายไม่ได้ ก็ถือว่าเป็นเรื่องการข่าวไป วิเคราะห์วิจารณ์กันไป ส่วนจะไปคาดโทษพื้นที่ไหนที่ปล่อยปละละเลยให้มีการเกิดเหตุระเบิดก็ให้เป็นนโยบายของแต่ละ บช.ไป นโยบายจากทาง ตร.ไม่มี
“ทางการข่าวเรารู้มาเป็นระยะๆ ว่า จะเกิดเหตุโซนนี้ เราได้วางกำลังสรุปแล้ว คือว่า ระวังทุกโซนรอบกรุงเทพฯ เราเน้นไม่ออก เพราะมีสถานที่สำคัญอยู่รอบกรุงเทพฯไปหมด แต่ที่เน้นมากเลย คือ ทำเนียบรัฐบาล รัฐสภา บ้านบุคคลสำคัญ ที่อยู่ในกรุงเทพฯ และรอบกรุงเทพฯทั้งหมด ส่วนกลุ่มต้องสงสัยเราจับตาดูทั้งหมด กลุ่มของใครตอบไม่ได้” รรท.ผบ.ตร.กล่าว
กำชับมีวินัยเป็นกลาง-รับบังคับจิตใจข้างในไม่ได้
เมื่อถามว่า ที่ไม่สามารถจับกุมคนร้ายก่อเหตุวางระเบิดได้ เพราะมีตำรวจมะเขือเทศ หรือ ทหารแตงโม ซึ่งจิตใจฝักใฝ่เลือกข้างไปแล้ว ได้มองเรื่องนี้อย่างไร พล.ต.อ.ปทีป กล่าวว่า ถ้าจิตใจฝักใฝ่ ก็คงไปบังคับไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องของจิตใจข้างใน แต่ในแง่ของการแสดงออกนั้น เป็นข้าราชการต้องมีวินัย การปฏิบัติตัวต้องยึดมั่นของความเป็นกลาง ซึ่งตำรวจทุกคนต้องมี และเป็นนโยบายอยู่แล้ว ส่วนกรณีที่วันที่ 27 มี.ค.นี้ ซึ่งมีการประชุมสภาโลก ซึ่งจะมีแขกต่างประเทศกว่า 100 ประเทศ มาร่วมประชุม ที่โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ ย่านราชประสงค์ นั้น เราก็ต้องดูแลเป็นพิเศษอยู่แล้วเพราะอยู่ในช่วงที่ นปช. มีแผนดาวกระจายด้วย
ยันยังไม่มีหมายจับ พธม.บุกสนามบิน
พล.ต.อ.ปทีป กล่าวถึงความคืบหน้าคดี กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ปิดสนามบิน โดยปฏิเสธว่า ตนไม่ได้เป็นคนไประงับพนักงานสอบสวนคดีดังกล่าวที่ไปขออนุมัติศาลออกหมายจับ ซึ่งยืนยันว่า ยังไม่มีการออกหมายจับใครในคดีนี้ โดยเรื่องที่ตนเห็นก็ยังไม่มีอะไร มีแต่กระดาษรายงานความคืบหน้ามา ตนก็ตรวจดู ก็พบว่า เป็นคดีที่มีพยาน 1,500-1,800 คน แล้วมีผู้ที่อาจจะเกี่ยวข้องตกเป็นผู้ต้องหาและมีจำนวนเยอะ ในทางการสอบสวนก็ต้องแยกได้ว่า แต่ละคนมีพฤติกรรมเป็นอย่างไร โดยทางพนักงานสอบสวนจะต้องแยกเป็นรายบุคคลให้ได้ ทั้งนี้ นโยบายตนก็คือต้องแยกพฤติกรรมเป็นรายคนให้ได้
ย้ำไม่เคยเห็นเรื่องโผย้าย “สมเพียร”
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ที่ปรึกษา (สบ10) ยืนยันว่า ได้ขึ้นไปพูดคุยกับ พล.ต.อ.ปทีป แล้ว กรณีต้องการช่วยเหลือให้ พล.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา ผกก.สภ.บันนังสตา ย้ายออกจากพื้นที่ ก่อนที่จะมีการทำคำสั่ง บช.ภ.9 พล.ต.อ.ปทีป กล่าวว่า รอง ผบ.ตร.ทุกคนก็เข้ามาฝากลูกน้องของตนเองทั้งนั้น แต่มาฝากใครบ้าง มันเยอะ และตนไม่เห็นกรณีของ พล.ต.อ.สมเพียร เลย