ตำรวจ สน.ลาดพร้าวรวบรวมเงิน 1 แสนบาท สมทบทุน “กองทุนจ่าเพียร” ขณะที่โฆษตตำรวจระบุ วันพรุ่งนี้จะมีการประชุมอนุ ก.ตร. ซึ่งคาดว่าจะมีเรื่องการพูดคุยถึงการซื้อขายตำแหน่ง และข้อร้องเรียนของ พล.ต.อ.สมเพียร มาพิจารณา
วันนี้ (22 มี.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะโฆษก ตร. เป็นตัวแทน ตร.รับมอบเงินบริจาค 100,000 บาท จาก พ.ต.อ.บุญส่ง นามกรณ์ ผกก.สน.ลาดพร้าว ซึ่งเป็นเงินที่ตำรวจ ครอบครัวและประชาชนในพื้นที่ร่วมกันบริจาคเพื่อสบทบ “กองทุนจ่าเพียรเพื่อตำรวจกล้า 3 จังหวัดชายแดนใต้”
พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวว่า ขอบคุณตำรวจลาดพร้าว และประชาชนในพื้นที่ที่ตระหนักถึงความดีของ พล.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา และตำรวจที่ปฏิบัติงานใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงภัย ต้องทำงานห่างไกลครอบครัว การที่ทุกคนให้การช่วยเหลือ ห่วงใย ถือเป็นกำลังใจที่ยิ่งใหญ่ ทำให้ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ขณะนี้มีขวัญ และกำลังใจมากขึ้น ส่วนผู้ที่ต้องการบริจาคเงินสบทบกองทุนสามารถบริจาคได้ที่ธนาคารกรุงเทพ สาขาอาคารมาลีนนท์ เลขบัญชีกระแสรายวัน 014-300-3838
พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวว่า เงินกองทุนนี้จะนำไปสนับสนุนตำรวจ และครอบครัวผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากการปฏิบัติงานใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ นอกเหนือจากสิทธิประโยชน์ที่ทางตำรวจมอบให้ ยังมีการรับมอบเงินไปเรื่อยๆ ขึ้นกับจำนวนประชาชนที่ไปบริจาค ส่วนการจัดการกองทุนนี้จะมีการตั้งคณะทำงาน จากทั้งตำรวจ สถานโทรทัศน์ช่อง 3 ซึ่งร่วมก่อตั้งกองทุน และตำรวจที่เคยบาดเจ็บจากเหตุการณ์ใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ และจะนำเรื่องนี้เสนอต่อรัฐบาลเพื่อมีส่วนร่วมในการสบทบทุนดูแลตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ ขอให้เชื่อมั่นว่าเงินส่วนนี้เป็นเงินของประชาชนไม่ใช่เงินของรัฐบาล และจะส่งให้ถึงครอบครัวของตำรวจผู้บาดเจ็บเสียชีวิตจริง
“สำหรับการประชุมคณะอนุ ก.ตร.เกี่ยวกับการร้องทุกข์ของ พล.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา และการประชุมเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ต่างๆ ในภาพรวมของข้าราชการตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ รวม 9 ประการในวันพรุ่งนี้ (23 มี.ค.) คาดว่าจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจน ทั้งกรณีการแต่งตั้งโยกย้ายไม่เป็นธรรม ที่พล.ต.อ.สมเพียร มาเรียกร้อง อนุ ก.ตร.ในการดูแลขบวนการแต่งตั้งโยกย้าย การซื้อขายตำแหน่ง และสิ่งที่ร้องขอมาไม่ได้รับการปฏิบัติ เพื่อดูว่าข้อมูลที่ทาง ผบช.ภ.9 และ ศชต.ที่ชี้แจงมาให้ ตร.มีความบกพร่องอย่างไร เป็นไปตามระเบียบที่ ตร.และ ก.ตร.กำหนดไว้หรือไม่ โดยจะมีการชี้แจงหลังการประชุมให้ทราบต่อไป” โฆษก ตร.กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะสามารถหาผู้รับผิดชอบกรณีที่เกิดขึ้นได้หรือไม่ พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวว่า ในการประชุมคงเป็นการดูเรื่องกฎระเบียบว่ามีการดำเนินการบกพร่องตรงไหน ส่วนเรื่องสิทธิประโยชน์ของตำรวจใต้ 9 ข้อจะเป็นการถกเรื่องข้อมูลที่ทุกฝ่ายนำมาเสนอในที่ประชุม คาดว่าได้ข้อสรุปในวันพรุ่งนี้ช่วงเย็นว่าสิทธิที่เสนอมาว่าจะได้รับอะไรบ้าง
พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวถึงเป้าหมายการประชุม คณะอนุ ก.ตร.ว่ายังไม่ทราบเป้าหมายชัดเจนแต่น่าจะเกี่ยวข้อง 2 ประเด็น คือ การแต่งตั้งเป็นไปตามกฏ ก.ตร. หรือกฎหมายที่ ตร.ตั้งไว้หรือไม่ และการย้ายข้ามกองบัญชาการนั้น การใช้ดุลพินิจของทั้ง 2 กองบัญชาการถูกต้องหรือไม่ถ้าพบว่าหน่วยงานใดบกพร่องต้องมีข้อมูลหลักฐานชัดเจนว่าผิดอย่างไรเพื่อตอบข้อสงสัยของสังคมได้ ไม่ต้องการคำตอบคลุมเครือ เพราะ อนุ ก.ตร.ทราบว่าทั้งตำรวจและประชาชนรอคำตอบอยู่ ซึ่งจะมีการพิจารณาทั้งด้านคุณธรรม จริยธรรมด้วย
วันนี้ (22 มี.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะโฆษก ตร. เป็นตัวแทน ตร.รับมอบเงินบริจาค 100,000 บาท จาก พ.ต.อ.บุญส่ง นามกรณ์ ผกก.สน.ลาดพร้าว ซึ่งเป็นเงินที่ตำรวจ ครอบครัวและประชาชนในพื้นที่ร่วมกันบริจาคเพื่อสบทบ “กองทุนจ่าเพียรเพื่อตำรวจกล้า 3 จังหวัดชายแดนใต้”
พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวว่า ขอบคุณตำรวจลาดพร้าว และประชาชนในพื้นที่ที่ตระหนักถึงความดีของ พล.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา และตำรวจที่ปฏิบัติงานใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงภัย ต้องทำงานห่างไกลครอบครัว การที่ทุกคนให้การช่วยเหลือ ห่วงใย ถือเป็นกำลังใจที่ยิ่งใหญ่ ทำให้ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ขณะนี้มีขวัญ และกำลังใจมากขึ้น ส่วนผู้ที่ต้องการบริจาคเงินสบทบกองทุนสามารถบริจาคได้ที่ธนาคารกรุงเทพ สาขาอาคารมาลีนนท์ เลขบัญชีกระแสรายวัน 014-300-3838
พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวว่า เงินกองทุนนี้จะนำไปสนับสนุนตำรวจ และครอบครัวผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากการปฏิบัติงานใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ นอกเหนือจากสิทธิประโยชน์ที่ทางตำรวจมอบให้ ยังมีการรับมอบเงินไปเรื่อยๆ ขึ้นกับจำนวนประชาชนที่ไปบริจาค ส่วนการจัดการกองทุนนี้จะมีการตั้งคณะทำงาน จากทั้งตำรวจ สถานโทรทัศน์ช่อง 3 ซึ่งร่วมก่อตั้งกองทุน และตำรวจที่เคยบาดเจ็บจากเหตุการณ์ใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ และจะนำเรื่องนี้เสนอต่อรัฐบาลเพื่อมีส่วนร่วมในการสบทบทุนดูแลตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ ขอให้เชื่อมั่นว่าเงินส่วนนี้เป็นเงินของประชาชนไม่ใช่เงินของรัฐบาล และจะส่งให้ถึงครอบครัวของตำรวจผู้บาดเจ็บเสียชีวิตจริง
“สำหรับการประชุมคณะอนุ ก.ตร.เกี่ยวกับการร้องทุกข์ของ พล.ต.อ.สมเพียร เอกสมญา และการประชุมเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ต่างๆ ในภาพรวมของข้าราชการตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่ใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ รวม 9 ประการในวันพรุ่งนี้ (23 มี.ค.) คาดว่าจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจน ทั้งกรณีการแต่งตั้งโยกย้ายไม่เป็นธรรม ที่พล.ต.อ.สมเพียร มาเรียกร้อง อนุ ก.ตร.ในการดูแลขบวนการแต่งตั้งโยกย้าย การซื้อขายตำแหน่ง และสิ่งที่ร้องขอมาไม่ได้รับการปฏิบัติ เพื่อดูว่าข้อมูลที่ทาง ผบช.ภ.9 และ ศชต.ที่ชี้แจงมาให้ ตร.มีความบกพร่องอย่างไร เป็นไปตามระเบียบที่ ตร.และ ก.ตร.กำหนดไว้หรือไม่ โดยจะมีการชี้แจงหลังการประชุมให้ทราบต่อไป” โฆษก ตร.กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะสามารถหาผู้รับผิดชอบกรณีที่เกิดขึ้นได้หรือไม่ พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวว่า ในการประชุมคงเป็นการดูเรื่องกฎระเบียบว่ามีการดำเนินการบกพร่องตรงไหน ส่วนเรื่องสิทธิประโยชน์ของตำรวจใต้ 9 ข้อจะเป็นการถกเรื่องข้อมูลที่ทุกฝ่ายนำมาเสนอในที่ประชุม คาดว่าได้ข้อสรุปในวันพรุ่งนี้ช่วงเย็นว่าสิทธิที่เสนอมาว่าจะได้รับอะไรบ้าง
พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวถึงเป้าหมายการประชุม คณะอนุ ก.ตร.ว่ายังไม่ทราบเป้าหมายชัดเจนแต่น่าจะเกี่ยวข้อง 2 ประเด็น คือ การแต่งตั้งเป็นไปตามกฏ ก.ตร. หรือกฎหมายที่ ตร.ตั้งไว้หรือไม่ และการย้ายข้ามกองบัญชาการนั้น การใช้ดุลพินิจของทั้ง 2 กองบัญชาการถูกต้องหรือไม่ถ้าพบว่าหน่วยงานใดบกพร่องต้องมีข้อมูลหลักฐานชัดเจนว่าผิดอย่างไรเพื่อตอบข้อสงสัยของสังคมได้ ไม่ต้องการคำตอบคลุมเครือ เพราะ อนุ ก.ตร.ทราบว่าทั้งตำรวจและประชาชนรอคำตอบอยู่ ซึ่งจะมีการพิจารณาทั้งด้านคุณธรรม จริยธรรมด้วย