นครบาลเตือนคนกรุงเลี่ยงเส้นทาง “ไพร่แดง” เคลื่อนขบวนวงกว้างรอบเมือง 10 โมงเช้า ถึง 5 โมงเย็นพรุ่งนี้ แนะปรับเปลี่ยน 3 เส้นทางเหนือ-ใต้-ฝั่งธนฯ ขณะที่ ตร.ฝึกซ้อมกองร้อยควบคุมฝูงชนเต็มรูปแบบรับมือม็อบยื้ดเยื้อ
วันนี้ (19 มี.ค.) เมื่อเวลา 15.40 น. พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รับผิดชอบงานจราจร แถลงมาตรการจัดการจราจรกรณีผู้ชุมนุมดาวกระจายในวันพรุ่งนี้ (20 มี.ค.) ว่า ได้รับการประสานจากแกนนำว่าจะมีการเคลื่อนขบวนในเวลา 10.00 น.เป็นขบวนใหญ่ขบวนเดียวใช้รถยนต์ในการเคลื่อนไหวประมาณ 1 พันคัน มีขบวนรถจักรยานยนต์เป็นแนวหน้า ใช้เวลาในการเคลื่อนไหวตลอดทั้งวัน คาดว่าเสร็จสิ้นกิจกรรมในเวลา 17.00 น.
รอง ผบช.น.กล่าวต่อไปว่า เท่าที่ได้รับการยืนยันจากแกนนำ ณ เวลานี้ 15.30 น. หากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ผู้ชุมนุมจะใช้เส้นทางในวงกว้างทั่ว กทม. จึงอยากฝากเตือนพี่น้องประชาชนให้หลีกเลี่ยงเส้นทางการเคลื่อนขบวน ดังนี้ หัวขบวนเริ่มเคลื่อนออกจากสะพานผ่านฟ้าลีลาศ เวลาประมาณ 10.00 น. เข้าสู่เส้นทางถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ผ่านแยกอโศกเพชร เลี้ยวซ้ายเข้าถนนรัชดาภิเษก มุ่งหน้าแยกลาดพร้าว เลี้ยวขวาเข้าถนนลาดพร้าว ต่อเนื่องแยกบางกะปิ เลี้ยวขวาแยกลำสาลี เข้าถนนรามคำแหง มุ่งหน้าแยกคลองตัน ต่อเนื่องคลองตัน 71 ใช้เส้นทางสุขุมวิทขาเข้า เลี้ยวซ้ายกล้วยน้ำไท เข้าถนนพระราม 4 เลี้ยวซ้ายแยกสีลม ผ่านถนนสีลมตลอดสาย เลี้ยวขวาเข้าถนนเจริญกรุง ต่อเนื่องวงเวียนโอเดียน เข้าเยาวราช เมื่อถึงจุดนี้ผู้ชุมนุมอาจแบ่งแยกเป็น 2 แนวทาง คือ ทางแรกกลับสู่สะพานผ่านฟ้าฯ หรือแนวทางที่ 2 มุ่งหน้าสะพานพุทธ แยกบ้านแขก วงเวียนใหญ่ แยกท่าพระ สามแยกไฟฉาย เลี้ยวเข้าอรุณอมริมทร์ ช้เส้นทางจรัญสนิทวงศ์ตลอดสาย เลี้ยวขวาแยกบางพลัด ขึ้นสะพานกรุงธนฯ เข้าถนนสามเสน กลับสู่ถนนราชดำเนินและสะพานผ่านฟ้าฯ ณ ที่ตั้ง
“เส้นทางที่ขบวนรถผู้ชุมนุมใช้ในครั้งนี้ ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด 28 สน.ด้วยกัน โดยแต่ละ สน.นั้นจะมีกำลังตำรวจจราจรคอยดูแลตามแยกต่างๆ โบกรถตัดขบวนเป็นระยะ ให้รถในเส้นทางอื่นสามารถไปได้ด้วย และมีกำลังตำรวจจาก บก.จร.เสริมการปฎิบัติท้องที่อีก 150 นาย และกำลังตำรวจสายตรวจสายสืบทั้งในและเครื่องแบบดูแลด้านความปลอดภัยตลอดเส้นทาง โดยมีการควบคุมสั่งการในภาพรวมอยู่ที่ บก.02 ฝากประชาสัมพันธ์ไปยังผู้ใช้รถใช้ถนนหลีกเลี่ยงเส้นทางดังกล่าวข้างต้นด้วย คาดว่าจะใช้เวลายาวนานถึง 17.00 น.ทีเดียว แต่หากแกนนำมีการปรับเปลี่ยนแนวทางใหม่ตามที่ตำรวจเสนอ คือ ให้แยกเป็น 3 สาย คือ เหนือ ใต้ และฝั่งธนฯ ก็จะสะดวกมากขึ้น ทั้งนี้ขึ้นอยุ่กับแกนนำผู้ชุมนุมว่าจะจัดการในการเคลื่อนขบวนอย่างไร ซึ่งตำรวจจะประสานกับแกนนำอีกครั้งในค่ำคืนนี้ เพื่อขอการยืนยันชัดเจนในการจัดการจราจรต่อไป” พล.ต.ต.ภาณุ กล่าว
ตร. ฝึกซ้อมกองร้อยควบคุมฝูงชนเต็มรูปแบบ
ในวันเดียวกัน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ที่ปรึกษา (สบ 10) ในฐานะ ปรท.ผบ.ตร. มีคำสั่งให้แต่งตั้งกองร้อยควบคุมฝูงชนประจำ ตร. พร้อมให้ฝึกซ้อมกำลังพลข้าราชการตำรวจทุหน่วยงานที่มีที่ตั้งภายใน ตร.ทั้งภาคทฤษฎี และปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์การชุมนุมยังคงยื้ดเยื้อและมีแนวโน้มเคลื่อนย้ายไปตามพื้นที่ต่างๆ และให้การรักษาความปลอดภัยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเป็นศูนย์กลางการบริหารงานตำรวจเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
ทั้งนี้ พล.ต.อ.อดุลย์ จึงมีหนังสือสั่งการให้กองร้อยควบคุมฝูงชน บช.ส. จำนวน 1 กองร้อย กก.ตชด.13 และกก.ตชด.31 จำนวน 2 กองร้อย รวมทั้งกองร้อยควบคุมฝูงชนประจำ ตร. 6 กองร้อย รวมทั้งสิ้น 9 กองร้อย ซักซ้อมกำลังพลปฏิบัติแผนในการควบคุมฝูงชน โดยครั้งนี้ได้จำลองเหตุการณ์การชุมนุมและซักซ้อมเต็มรูปแบบบริเวณลานรวมพล หน้า ตร.
วันนี้ (19 มี.ค.) เมื่อเวลา 15.40 น. พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รับผิดชอบงานจราจร แถลงมาตรการจัดการจราจรกรณีผู้ชุมนุมดาวกระจายในวันพรุ่งนี้ (20 มี.ค.) ว่า ได้รับการประสานจากแกนนำว่าจะมีการเคลื่อนขบวนในเวลา 10.00 น.เป็นขบวนใหญ่ขบวนเดียวใช้รถยนต์ในการเคลื่อนไหวประมาณ 1 พันคัน มีขบวนรถจักรยานยนต์เป็นแนวหน้า ใช้เวลาในการเคลื่อนไหวตลอดทั้งวัน คาดว่าเสร็จสิ้นกิจกรรมในเวลา 17.00 น.
รอง ผบช.น.กล่าวต่อไปว่า เท่าที่ได้รับการยืนยันจากแกนนำ ณ เวลานี้ 15.30 น. หากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ผู้ชุมนุมจะใช้เส้นทางในวงกว้างทั่ว กทม. จึงอยากฝากเตือนพี่น้องประชาชนให้หลีกเลี่ยงเส้นทางการเคลื่อนขบวน ดังนี้ หัวขบวนเริ่มเคลื่อนออกจากสะพานผ่านฟ้าลีลาศ เวลาประมาณ 10.00 น. เข้าสู่เส้นทางถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ผ่านแยกอโศกเพชร เลี้ยวซ้ายเข้าถนนรัชดาภิเษก มุ่งหน้าแยกลาดพร้าว เลี้ยวขวาเข้าถนนลาดพร้าว ต่อเนื่องแยกบางกะปิ เลี้ยวขวาแยกลำสาลี เข้าถนนรามคำแหง มุ่งหน้าแยกคลองตัน ต่อเนื่องคลองตัน 71 ใช้เส้นทางสุขุมวิทขาเข้า เลี้ยวซ้ายกล้วยน้ำไท เข้าถนนพระราม 4 เลี้ยวซ้ายแยกสีลม ผ่านถนนสีลมตลอดสาย เลี้ยวขวาเข้าถนนเจริญกรุง ต่อเนื่องวงเวียนโอเดียน เข้าเยาวราช เมื่อถึงจุดนี้ผู้ชุมนุมอาจแบ่งแยกเป็น 2 แนวทาง คือ ทางแรกกลับสู่สะพานผ่านฟ้าฯ หรือแนวทางที่ 2 มุ่งหน้าสะพานพุทธ แยกบ้านแขก วงเวียนใหญ่ แยกท่าพระ สามแยกไฟฉาย เลี้ยวเข้าอรุณอมริมทร์ ช้เส้นทางจรัญสนิทวงศ์ตลอดสาย เลี้ยวขวาแยกบางพลัด ขึ้นสะพานกรุงธนฯ เข้าถนนสามเสน กลับสู่ถนนราชดำเนินและสะพานผ่านฟ้าฯ ณ ที่ตั้ง
“เส้นทางที่ขบวนรถผู้ชุมนุมใช้ในครั้งนี้ ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด 28 สน.ด้วยกัน โดยแต่ละ สน.นั้นจะมีกำลังตำรวจจราจรคอยดูแลตามแยกต่างๆ โบกรถตัดขบวนเป็นระยะ ให้รถในเส้นทางอื่นสามารถไปได้ด้วย และมีกำลังตำรวจจาก บก.จร.เสริมการปฎิบัติท้องที่อีก 150 นาย และกำลังตำรวจสายตรวจสายสืบทั้งในและเครื่องแบบดูแลด้านความปลอดภัยตลอดเส้นทาง โดยมีการควบคุมสั่งการในภาพรวมอยู่ที่ บก.02 ฝากประชาสัมพันธ์ไปยังผู้ใช้รถใช้ถนนหลีกเลี่ยงเส้นทางดังกล่าวข้างต้นด้วย คาดว่าจะใช้เวลายาวนานถึง 17.00 น.ทีเดียว แต่หากแกนนำมีการปรับเปลี่ยนแนวทางใหม่ตามที่ตำรวจเสนอ คือ ให้แยกเป็น 3 สาย คือ เหนือ ใต้ และฝั่งธนฯ ก็จะสะดวกมากขึ้น ทั้งนี้ขึ้นอยุ่กับแกนนำผู้ชุมนุมว่าจะจัดการในการเคลื่อนขบวนอย่างไร ซึ่งตำรวจจะประสานกับแกนนำอีกครั้งในค่ำคืนนี้ เพื่อขอการยืนยันชัดเจนในการจัดการจราจรต่อไป” พล.ต.ต.ภาณุ กล่าว
ตร. ฝึกซ้อมกองร้อยควบคุมฝูงชนเต็มรูปแบบ
ในวันเดียวกัน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ที่ปรึกษา (สบ 10) ในฐานะ ปรท.ผบ.ตร. มีคำสั่งให้แต่งตั้งกองร้อยควบคุมฝูงชนประจำ ตร. พร้อมให้ฝึกซ้อมกำลังพลข้าราชการตำรวจทุหน่วยงานที่มีที่ตั้งภายใน ตร.ทั้งภาคทฤษฎี และปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์การชุมนุมยังคงยื้ดเยื้อและมีแนวโน้มเคลื่อนย้ายไปตามพื้นที่ต่างๆ และให้การรักษาความปลอดภัยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเป็นศูนย์กลางการบริหารงานตำรวจเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
ทั้งนี้ พล.ต.อ.อดุลย์ จึงมีหนังสือสั่งการให้กองร้อยควบคุมฝูงชน บช.ส. จำนวน 1 กองร้อย กก.ตชด.13 และกก.ตชด.31 จำนวน 2 กองร้อย รวมทั้งกองร้อยควบคุมฝูงชนประจำ ตร. 6 กองร้อย รวมทั้งสิ้น 9 กองร้อย ซักซ้อมกำลังพลปฏิบัติแผนในการควบคุมฝูงชน โดยครั้งนี้ได้จำลองเหตุการณ์การชุมนุมและซักซ้อมเต็มรูปแบบบริเวณลานรวมพล หน้า ตร.