สองคนร้ายควบ จยย.รัวยิงเอ็ม 16 บ้านสองพี่น้องนักธุรกิจใจกลางกรุงซอยทองหล่อ 3-สุขุมวิท 53 เจ้าหน้าที่ได้หลักฐานจากกล้องวงจรปิดหน้าบ้านเหยื่อจับภาพคนร้ายไว้ได้ คาดปมหนี้สินทางธุรกิจ และคนร้ายน่าเป็นกลุ่มเดียวกัน เนื่องจากเคยถูกยิงบ้านมาแล้วแต่ไม่เคยมีใครได้รับบาดเจ็บ
วันนี้ (19 มี.ค.) เมื่อเวลา 03.45 น. ร.ต.ท.สุชิน พงษ์คำพันธ์ ร้อยเวร สน.ทองหล่อ ได้รับแจ้งเกิดเหตุคนร้ายยิงอาวุธสงคราม เข้าไปในบ้านเลขที่ 95 ซอยทองหล่อ 3 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม. ซึ่งมีนายสุรพงษ์ เตชะวิบูลย์ เป็นเจ้าของบ้าน และบ้านเลขที่ 190 ซอยสุขุมวิท 53 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม. ซึ่งมีนายสุพจน์ เตชะวิบูลย์ เป็นเจ้าของบ้าน จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.สำเริง สวนทอง ผกก.สน.ทองหล่อ พ.ต.ท.ศุภกรณ์ แก้วทอง รอง ผกก.สส.สน.ทองหล่อ
ที่เกิดเหตุบ้านเลขที่ 95 ซอยทองหล่อ 3 พบปลอกกระสุนเอ็ม 16 ตกอยู่จำนวน 15 ปลอก และจุดเกิดเหตุที่ 2 บ้านเลขที่ 190 ซอยสุขุมวิท 53 พบปลอกกระสุนเอ็ม 16 จำนวน 25 ปลอกตกอยู่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้รวบรวมไว้เป็นหลักฐาน อย่างไรก็ตาม มีรถยนต์และตัวบ้านได้รับความเสียหายเล็กน้อย แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ
จากการสอบสวนสวนเบื้องต้นทราบว่า คนร้ายเป็นชาย 2 คน ขึ่จักรยานยนต์ไม่ทราบยี่ห้อ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียนขับมาจอดที่หน้าบ้านเลขที่ 95 ก่อนแล้วสาดกระสุนเข้าไป จากนั้นได้ขับขี่ไปยิงต่อที่บ้านเลขที่ 190 ซึ่งบ้านสองหลังเป็นเครือญาติพี่น้องกัน ก่อนที่คนร้ายจะขับจักรยานยนต์หลบหนีไปทางซอยสุขุมวิท 53
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบบ้านเลขที่ 190 มีกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพคนร้ายไว้ได้ จึงได้มอบภาพหลักฐานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปตามสืบหาเบาะแสตัวคนร้ายนำตัวมาดำเนินคดีต่อไป ขณะเดียวกัน บ้านหลังดังกล่าวเคยถูกยิงด้วยอาวุธปืนมาแล้วหนึ่งครั้ง เบื้องต้นสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นเรื่องของหนี้สิน เนื่องจากบ้านหลังดังกล่าวประกอบธุรกิจจนทำให้มีหนี้สิน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อเวลา 10.00 น. พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง ผบก.น. 5 และ พ.ต.อ.สมบัติ มิลินทจินดา ผกก.สส.บก.น.5 ได้เดินทางเข้าร่วมประชุมที่ สน.ทองหล่อ เพื่อติดตามคลี่คลายคดีดังกล่าว ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าคนร้ายน่าจะเป็นกลุ่มเดียวกัน
ต่อมาเมื่อเวลา 16.00 น. พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อม พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.น.และ พล.ต.ต.สุเมธ เรืองสวัสดิ์ รอง ผบช.น.ได้เดินทางมาร่วมประชุมกับชุดคลี่คลายคดีที่ห้องปฏิบัติการสายตรวจ สน.ทองหล่อ โดย พล.ต.ท.วรพงษ์ ใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมง ก่อนเดินทางกลับโดยให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวเพียงสั้นๆ ว่า เท่าที่ดูรายงานจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ทองหล่อ ทราบว่า มีกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพคนร้ายเอาไว้ได้ แต่ตนไม่ได้รับผิดชอบเรื่องติดตามความคืบหน้าทางคดี วันนี้แต่เดินทางมากำชับเรื่องมาตรการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ปฏิบัติเท่านั้น
เวลา 17.40 น. พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.น.พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุเมธ เรืองสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พ.ต.อ.สำเริง สวนทอง ผกก.สน.ทองหล่อ และ พ.ต.อ.สมบัติ มิลินทจินดา ผกก.สส.น.5 ได้พากันเดินทางไปตรวจสอบบ้านที่เกิดเหตุทั้ง 2 หลัง โดยเดินทางไปตรวจสอบบ้านเลขที่ 190 ซอยสุขุมวิท 53 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม.ของ นายสุพจน์ เตชะวิบูลย์ อายุ 56 ปี ก่อนเดินทางไปตรวจสอบที่บ้านพักของ นายสุรพงษ์ เตชะวิบูลย์ อายุ 58 ปี ผู้เป็นพี่ชาย ตั้งอยู่เลขที่ 95 ซอยทองหล่อ 3 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม.โดยใช้เวลาสำรวจร่องรอยกระสุนปืนอาก้า ที่เจาะทะลุบริเวณประตูทางเข้าบ้านเข้าไปถูกรถยนต์ และใช้เวลาพูดคุยกับเจ้าของบ้านนานประมาณหลังละ 30 นาที จึงเดินทางกลับ
พ.ต.อ.สมบัติ มิลินทจินดา ผกก.สส.น.5 เปิดเผยว่า การประชุมร่วมกันของชุดคลี่คลายคดีวันนี้ทางผู้บังคับบัญชาได้มอบหมายให้ตำรวจท้องที่ สน.ทองหล่อ และ กก.สส.น.5 ร่วมกันตรวจหาหลักฐานจากกล้องวงจรปิดในละแวกจุดเกิดเหตุ และใกล้เคียง เพื่อหาเส้นทางที่คนร้ายใช้ในการหลบหนี นอกจากนี้ยังได้กำชับให้เพิ่มกำลังไปรักษาความปลอดภัยบ้านทั้ง 2 หลังให้มากยิ่งขึ้น ส่วนเรื่องการติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีนั้นคงต้องขอเวลาให้ตำรวจทำงานอีกสักระยะ
อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวมีรายงานว่า จากการสำรวจกล้องวงจรปิดบริเวณบ้านพักของ นายสุรพงษ์ เตชะวิบูลย์ พบภาพคนร้าย จำนวน 2 คน คือ มือปืนและคนขับรถ จยย.โดยทั้งคู่นั้นเป็นชาย สวมเสื้อคลุมแขนยาวสีดำ นุ่งกางเกงขายาวสีทึบ เหมือนกัน แต่ไม่สามารถระบุช่วงอายุและโครงหน้าได้เนื่องจากสวมหมวกนิรภัยบดบังใบหน้าทั้งคู่ ส่วนรถ จยย.ที่ใช้เป็นยานพาหนะน่าจะเป็นรถยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นฟีโน่ สีดำ-แดง ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน โดยคนร้ายที่เป็นคนขับได้ขับรถ จยย. มาจอดบริเวณข้างบ้านพักของ นายสุรพงษ์ ก่อนที่คนซ้อนท้ายจะแบกอาวุธปืนอาก้า ลงจากรถเดินมายิงใส่ประตู 2 นัด ซึ่งขณะนั้นมี รปภ.ของบริษัทใกล้เคียงกันออกมาเห็นเหตุการณ์พอดี คนร้ายจึงหันไปตะโกนสั่งให้ รปภ.หมอบลงกับพื้นห้ามเงยหน้าขึ้นมาดู แล้วจึงลั่นไกกระหน่ำยิงใส่ประตูบ้านอีก 1 ชุด รวมทั้งสิ้น 15 นัด ก่อนจะกระโดดซ้อนท้ายรถ จยย.เพื่อนที่รออยู่ขับไปก่อเหตุที่บ้านพัก ของนายสุพจน์ เตชะวิบูลย์ ซึ่งอยู่ห่างกันไม่ถึง 500 เมตร
ส่วนผลการตรวจเช็คกล้องวงจรปิดภายในบ้านพักของ นายสุพจน์ เตชะวิบูลย์ ซึ่งมีอยู่รายล้อมบริเวณบ้านถึง 16 ตัวนั้น ปรากฏว่าไม่พบหลักฐานที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีมากนัก ทั้งที่ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 11 ก.พ.ที่ผ่านมา ก็เคยถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนพกสั้นยิงใส่ประตูบ้านมาแล้วครั้งหนึ่ง โดยครั้งนั้นคนร้ายได้ฝากร่องรอยกระสุนเอาไว้ที่ประตูบ้าน 3 นัด ซึ่งชนวนการก่อเหตุครั้งนี้ ตำรวจเชื่อว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับปมหนี้สินไม่ใช่เรื่องการเมืองอย่างแน่นอน