“สมชาย แสวงการ” ส.ว.สรรหา วอน “ชัย ชิดชอบ” เลื่อนประชุมรัฐสภา หวั่นการประชุมท่ามกลางความขัดแย้ง เป็นการซ้ำเติมสถานการณ์บ้านเมืองให้เลวร้ายยิ่งขึ้น พร้อมหวั่นวาระสอดไส้ พิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตามเกมม็อบเสื้อแดงชุมนุมใหญ่ กดดันนายกฯ ยุบสภา
วันนี้ (14 มี.ค.)นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภาแบบสรรหา ให้ความเห็นต่อสถานการณ์บ้านเมือง หลังจากนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะประธานรัฐสภา มีหนังสือถึงสมาชิกรัฐสภา เมื่อวันศุกร์ที่ 12 มีนาคม เชิญสมาชิกรัฐสภาประชุมร่วมกันในวันอังคารที่ 16 มีนาคม เวลา 09.00 น. โดยมีระเบียบวาระสำคัญ คือ กรอบการเจรจาระหว่างประเทศ 9 ฉบับ อาทิ เรื่องที่คณะกรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้ว 3 เรื่อง ได้แก่ กรอบการเจรจาสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบกไทย-กัมพูชา ไทย-ลาว และร่างกรอบการเจรจาในกลไกของการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป ไทย-กัมพูชา รวมถึงเรื่องที่ค้างพิจารณากรอบการเจรจาทางเศรษฐกิจ 3 ฉบับ และกรอบการเจรจาทางเศรษฐกิจที่เสนอใหม่ 3 ฉบับ โดยนายสมชาย กล่าวว่าเรื่องดังกล่าว ขณะนี้สมาชิกวุฒิสภาจำนวนมากแสดงความเป็นห่วง โดยได้โทรศัพท์ไปสอบถามประธานวุฒิสภา เพื่อให้เลื่อนการประชุมออกไปก่อน เนื่องจากเห็นว่าการประชุมสภาในสถานการณ์บ้านเมืองที่มีการชุมนุมของกลุ่มคน เสื้อแดง เป็นการไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง ที่จะประชุมท่ามกลางความขัดแย้ง เปรียบเหมือนนำน้ำมันไปราดในกองเพลิง ยิ่งทำให้สถานการณ์รุนแรงเพิ่มขึ้น
นายสมชายกล่าวว่า เมื่อไปตรวจสอบวาระการประชุม ถือว่าเป็นวาระที่ค้างการพิจารณาและไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน แต่อย่างไรก็ตาม มีข้อน่าสังเกตว่า น่าจะมีวาระซ่อนเร้น คืออาจจะมีการพิจารณาวาระการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ที่ค้างการพิจารณาของสภา 2 ฉบับ คือ ร่างฉบับ หมอเหวง และร่างของพรรคร่วมรัฐบาล นำมาพิจารณาก็เป็นได้
“หากการเรียกประชุมรัฐสภาเพื่อพิจารณาวาระซ่อนเร้นแก้ไขรัฐธรรมนูญดังกล่าว เหมือนกับเป็นการเล่นตามเกมของกลุ่มผู้ชุมนุม ซึ่ง ส.ว.ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง อีกทั้งหากจะพิจารณาเรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ ต้องทำเพื่อประเทศชาติอย่างแท้จริง ไม่ใช่ทำเพื่อคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง พร้อมเชื่อว่าการประชุมจะไม่เกิดขึ้น และต้องเลื่อนไปก่อน” นายสมชายกล่าว
นายสมชายกล่าวต่อไปว่า โดยส่วนตัวมีความเชื่อมั่นในประสบการณ์ทางการเมืองของ นายชัย ชิดชอบ ที่เป็นผู้มีอาวุโส และทันเกมการเมือง ท่านน่าจะตัดสินใจทำในสิ่งที่ถูกต้อง และรับฟังความคิดเห็น อีกทั้งไม่ตกเป็นเครื่องมือของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่หากประธานฯชัย ไม่รับฟังและยังดื้อรั้น ประชุม จนสุดท้ายเกิดสงครามประชาชน และมีการนองเลือดอีกทั้ง ถือว่า ท่านประธานฯชัย ทำผิดต่อประเทศ
อย่างไรก็ตาม มีรายงานข่าวแจ้งว่า การชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงที่มีมูลเหตุของข้อเรียกร้องทำเพื่อคนคนเดียว คือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคดีอาญา นั้น ได้ตั้งโจทย์ไว้ว่าการชุมนุมจะต้องจบให้ได้ในวันที่ 17 มี.ค.นี้ ดังนั้นการเรียกประชุมสภาในวันที่ 16 มี.ค.จึงคิดเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ ว่าเรียกประชุมเพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญตามที่ผู้ชุมนุมเรียกร้องมา ก่อนหน้านี้ อีกทั้งหากย้อนไปดูการทำงานในบทบาท ประธานรัฐสภาของนายชัย ชิดชอบ ในครั้งรัฐบาล นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นนายกรัฐมนตรี ในขณะที่การเคลื่อนไหวของพันธมิตรฯ ต้องการให้เลื่อนการแถลงนโยบายของรัฐบาลออกไปก่อนแต่นายชัยก็ยังดื้อรั้นจนเกิดเหตุรุนแรงสลายกลุ่มผู้ชุมนุมพันธมิตรฯ ในวันที่ 7 ต.ค.51
อีกทั้งการเรียกร้องของกลุ่มคนเสื้อแดงในครั้งนี้ ได้มีการวิเคราะห์ของนักวิชาการและบรรดาผู้สันทัดกรณีทางการเมืองว่าเป็นการเคลื่อนไหวเพื่อกดดันให้นายกรัฐมนตรียุบสภา และจัดตั้งรัฐบาลแห่งชาติ โดยดึงพรรคเพื่อไทย เข้าร่วม เพื่อจุดประสงค์แก้ไขรัฐธรรมนูญ นำไปสู่การนิรโทษกรรม เปิดทางให้ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับประเทศ หรือทำเพื่อต้องการเปลี่ยนขั้วการเมืองโดยกลุ่มบุคคลที่ต้องการเข้ามามีอำนาจเป็นผู้ชักใยวางแผน