ผบช.น.นำกำลังออกมาขอร้องให้แก๊งเสื้อแดงที่จอดรถอยู่ริมรั้วบช.น.และสวนอัมพร ไปจอดที่ลานพระบรมรูปทรงม้า เพื่อป้องกันมือที่สามเข้ามาก่อเหตุหลังเจอวัตถุต้องสงสัยซุกอยู่ริมรั้วกระทรวงต่างประเทศ ทำให้พวกที่กำลังนอนพักผ่อนและเมาได้ที่ เกิดความไม่พอใจ ยกพวกกรูกันมาล้อมกรอบตำรวจอยู่นาน 30 นาที ก่อนจะเจรจาชี้แจงจนยอมเคลื่อนย้ายไปจอดที่อื่น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 23.00 น.วานนี้ (13 มี.ค.) หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.พญาไท ได้รับแจ้งว่ามีวัตถุต้องสงสัยที่ริมรั้วกระทรวงกาารต่างประเทศ ทาง พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.น. พล.ต.ต.บุญส่ง พานิชอัตรา รอง ผบช.น.และ พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ ฉันทวรลักษณ์ รอง ผบก.น.1 ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ บก.จร.และตำรวจจราจร สน.ดุสิต ออกมาประชาสัมพันธ์ให้กลุ่มผู้ชุมนุมที่จอดรถอยู่บริเวณริมทางเท้าฝั่งตรงข้ามกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) และถนนศรีอยุธยาช่องทางคู่ขนานติดกับรั้วสวนอัมพร ให้ขยับรถเลื่อนไปจอดภายในลานพระบรมรูปทรงม้า ด้านหน้าพระที่นั่งอนันตสมาคม เพื่อป้องกันการแฝงตัวของมือที่สามเข้ามาก่อเหตุ ทำให้กลุ่มเสื้อแดงบางกลุ่มที่กำลังพักผ่อนนอนหลับอยู่บนรถ และดื่มสุราจนเมาได้ที่เกิดไม่พอใจคิดว่าถูกตำรวจขับไล่จนเกิดมีปากเสียงกัน ขณะที่มีบางส่วนวิ่งไปขอความช่วยเหลือจากการ์ด นปช.ที่อยู่ในละแวกใกล้เคียงทำให้มีคนเสื้อแดงพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ และ จ.หนองคาย กว่า 500 คน กรูกันมาสมทบ
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงพยายามนำแผงเหล็กมาวางแนวสกัดกั้นบริเวณแยกพระบรมรูปทรงม้า และใช้รถขนผู้ต้องขังมาจอดขวางถนนเอาไว้แต่ก็ไม่สามารถหยุดยั้งกลุ่มผู้ชุมนุมได้ ทำให้แผงเหล็กถูกยกออกไป ส่วนรถขนผู้ต้องขังก็ต้องเคลื่อนย้ายออกจากจุดปะทะ เพื่อป้องกันการถูกทุบทำลาย ระหว่างนั้นกองร้อยควบคุมฝูงชนจำนวน 1 กองร้อย ที่ประจำการอยู่ใน บช.น. ก็ต้องเคลื่อนกำลังออกมาตั้งแนวรับ อยู่บริเวณประตูทางเข้าที่ตั้ง
จนเวลาผ่านไปประมาณ 30 นาที พล.ต.ต.บุญส่ง พานิชอัตรา รอง ผบช.น.ซึ่งกำลังถูกกลุ่มผู้ชุมนุมล้อมกรอบเอาไว้ ก็ได้พยายามชี้แจงว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตพระราชฐาน ทางตำรวจเพียงต้องการขอร้องให้ผู้ชุมนุม ขยับรถออกไปจอดบริเวณลานพระบรมรูปทรงม้าก็เท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาที่จะขับไล่กันแต่อย่างใด จากนั้นสถานการณ์จึงคลี่คลายไปได้ด้วยดี
ด้าน พล.ต.ท.สัณฐานซึ่ งยืนสังเกตการณ์อยู่กับกองร้อยควบคุมฝูงชนบริเวณด้านหน้า บช.น. กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเพียงการเข้าใจผิดกันเท่านั้น เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติได้เจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุมจนเข้าใจกันดีแล้ว ส่วนสถานการณ์ทั่วไปขณะนี้ยังคงเป็นปกติ ไม่ได้รับรายงานการจับกุมผู้กระทำผิดกฎหมายหรือเหตุร้ายแรง โดยเฉพาะกำลังพลที่ใช้ในการป้องกันเหตุในคืนนี้นั้นมีขวัญและกำลังใจดีเยี่ยม และคงไม่ต้องมีการเรียกเสริมกำลังกันแต่อย่างใด