สามีเก่าหอบเงินกะเอาไปให้ลูก 2 คน เจอผัวใหม่ของเมียเก่านุ่งผ้าขาวม้าตัวเก่งที่เมื่ออดีตตัวเองเคยใส่ โมโหสุดขีดตามไปต่อว่าเมียเก่าจนมีปากเสียงรุนแรง เหลียวมองเจอหน้าผัวใหม่ถือไม้หน้าสามรอท่า จึงคว้ามีดสปาร์ต้าแทงเข้าแขนผัวใหม่แต่หนีทัน อารมณ์ค้างฉุนขาดหันไปกระหน่ำแทงอดีตเมียเสียชีวิต ชาวบ้านช่วยจับตัวมือมีดไว้แถมรุมตืบอ่วม
วันนี้(13 มี.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. ร.ต.ท.เกรียงไกร ทองไพร ร้อยเวรสน.พระโขนง ได้รับแจ้งมีเหตุฆ่ากันตาย ภายใน ซอยขวัญจันทร์ 2 ถนนอ่อนนุช แขวงและเขตสวนหลวง กทม. จึงได้รุดตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยแพทย์ ร.พ.จุฬาฯ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน(พฐ.) จนท.มูลนิธิป่อเต็กตึ้ง
ที่เกิดเหตุปลูกเป็นห้องแถวแบ่งให้เช่า มีชาวบ้านมุงดูเหตุการณ์เป็นจำนวนมาก โดยชาวบ้านได้ควบคุมตัวชายผู้ก่อเหตุไว้ 1 คน อยู่ในสภาพถูกรุมประชาทัณฑ์จนสะบักสะบอม ทราบชื่อคือ นายพิรมย์ สังฆะ อายุ 47 ปี (อดีตสามี) อยู่บ้านเลขที่ 12 หมู่ 1 ต.หูทำนพ อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์
จากการสอบถามพยานเบื้องต้น ทราบว่า นายภิรมย์เป็นคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุแทงนางสมเพียร สังขะ อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 222 หมู่ 2 ต.ไร่ขี อ.ลืออำนา จ.อำนาจเจริญ จนเสียชีวิต จึงควบคุมตัวไว้สอบสวนเพิ่มเติมและแจ้งข้อหาดำเนินคดีต่อไป ตรวจสอบบริเวณหน้าห้องเลขที่ 503 เจ้าหน้าที่พบศพนางสมเพียร อยู่ในสภาพนอนตะแคงขวาเสียชีวิตจมกองเลือด สวมเสื้อแขนกุด สีชมพูกางเกงขา 3 ส่วน สีครีม มีบาดแผลถูกฟันด้วยอาวุธมีดเข้าที่ต้นแขนขวา 2 แผล ต้นแขนซ้าย 1 แผล และถูกแทงเข้าที่ใต้ราวนมข้างซ้ายอีก 1 แผลตัดขั้วหัวใจ นอกจากนี้ยังพบมีดสปาร์ต้าเปื้อนเลือดตกอยู่ในที่เกิดเหตุ 1 เล่ม ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวน นายพิรมย์ อดีตสามีของนางสมเพียร ให้การว่า ตนเองมีอาชีพขับรถสองแถว ก่อนเกิดเหตุได้เดินทางมาหาผู้ตาย เพื่อจะนำเงินมาให้ลูก 2 คน ที่อยู่กับผู้ตาย ซึ่งโดยปกติตนจะนำเงินมาให้ทุก ๆ 2 เดือน เมื่อมาถึงบ้านก็พบ นายไพโรจน์ มูลแก้ว อายุ 47 ปี ซึ่งเป็นสามีใหม่ นอนอยู่ภายในห้องโดยนุ่งผ้าขาวม้าที่ตนเองเคยนุ่งครั้งเมื่ออยู่กินกับผู้ตาย จึงเกิดความโมโห ตนจึงได้เดินออกไปตามผู้ตายเพื่อพูดคุยกัน แต่กลับมีปากเสียงกันอย่างรุนแรง โดยมีนายไพโรจน์ ยืนถือไม้หน้าสามอยู่ข้าง ๆ ขณะเดียวกันตนได้เหลือบไปเห็นมีดเล่มดังกล่าววางอยู่ในห้องซึ่งเป็นของสามีใหม่ของผู้ตาย ตนเห็นว่าตกลงปัญหากันไม่ได้ด้วยอารมณ์ชั่ววูบจึงได้คว้ามีดไล่แทงนายไพโรจน์แต่โดนเข้าที่แขนก่อนที่นายไพโรจน์จะวิ่งหนีไป ด้วยอารมณ์ที่โกรธต่อเนื่องจึงหันไป กระหน่ำแทงอดีตภรรยา จนสิ้นใจตายต่อหน้าสามีใหม่ที่อยู่ในเหตุการณ์ด้วย โดยที่ไม่มีใคร สามารถช่วยเหลือได้ทัน หลังเกิดเหตุ ชาวบ้าน จึงได้ช่วยกันจับตัวผู้ต้องหาไว้ พร้อมกับรุมประชาทัณฑ์ จนได้รับบาดเจ็บ และรอส่งมอบตัวให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ คุมตัวไปดำเนินคดีทันที
วันนี้(13 มี.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. ร.ต.ท.เกรียงไกร ทองไพร ร้อยเวรสน.พระโขนง ได้รับแจ้งมีเหตุฆ่ากันตาย ภายใน ซอยขวัญจันทร์ 2 ถนนอ่อนนุช แขวงและเขตสวนหลวง กทม. จึงได้รุดตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยแพทย์ ร.พ.จุฬาฯ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน(พฐ.) จนท.มูลนิธิป่อเต็กตึ้ง
ที่เกิดเหตุปลูกเป็นห้องแถวแบ่งให้เช่า มีชาวบ้านมุงดูเหตุการณ์เป็นจำนวนมาก โดยชาวบ้านได้ควบคุมตัวชายผู้ก่อเหตุไว้ 1 คน อยู่ในสภาพถูกรุมประชาทัณฑ์จนสะบักสะบอม ทราบชื่อคือ นายพิรมย์ สังฆะ อายุ 47 ปี (อดีตสามี) อยู่บ้านเลขที่ 12 หมู่ 1 ต.หูทำนพ อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์
จากการสอบถามพยานเบื้องต้น ทราบว่า นายภิรมย์เป็นคนร้ายที่ลงมือก่อเหตุแทงนางสมเพียร สังขะ อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 222 หมู่ 2 ต.ไร่ขี อ.ลืออำนา จ.อำนาจเจริญ จนเสียชีวิต จึงควบคุมตัวไว้สอบสวนเพิ่มเติมและแจ้งข้อหาดำเนินคดีต่อไป ตรวจสอบบริเวณหน้าห้องเลขที่ 503 เจ้าหน้าที่พบศพนางสมเพียร อยู่ในสภาพนอนตะแคงขวาเสียชีวิตจมกองเลือด สวมเสื้อแขนกุด สีชมพูกางเกงขา 3 ส่วน สีครีม มีบาดแผลถูกฟันด้วยอาวุธมีดเข้าที่ต้นแขนขวา 2 แผล ต้นแขนซ้าย 1 แผล และถูกแทงเข้าที่ใต้ราวนมข้างซ้ายอีก 1 แผลตัดขั้วหัวใจ นอกจากนี้ยังพบมีดสปาร์ต้าเปื้อนเลือดตกอยู่ในที่เกิดเหตุ 1 เล่ม ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวน นายพิรมย์ อดีตสามีของนางสมเพียร ให้การว่า ตนเองมีอาชีพขับรถสองแถว ก่อนเกิดเหตุได้เดินทางมาหาผู้ตาย เพื่อจะนำเงินมาให้ลูก 2 คน ที่อยู่กับผู้ตาย ซึ่งโดยปกติตนจะนำเงินมาให้ทุก ๆ 2 เดือน เมื่อมาถึงบ้านก็พบ นายไพโรจน์ มูลแก้ว อายุ 47 ปี ซึ่งเป็นสามีใหม่ นอนอยู่ภายในห้องโดยนุ่งผ้าขาวม้าที่ตนเองเคยนุ่งครั้งเมื่ออยู่กินกับผู้ตาย จึงเกิดความโมโห ตนจึงได้เดินออกไปตามผู้ตายเพื่อพูดคุยกัน แต่กลับมีปากเสียงกันอย่างรุนแรง โดยมีนายไพโรจน์ ยืนถือไม้หน้าสามอยู่ข้าง ๆ ขณะเดียวกันตนได้เหลือบไปเห็นมีดเล่มดังกล่าววางอยู่ในห้องซึ่งเป็นของสามีใหม่ของผู้ตาย ตนเห็นว่าตกลงปัญหากันไม่ได้ด้วยอารมณ์ชั่ววูบจึงได้คว้ามีดไล่แทงนายไพโรจน์แต่โดนเข้าที่แขนก่อนที่นายไพโรจน์จะวิ่งหนีไป ด้วยอารมณ์ที่โกรธต่อเนื่องจึงหันไป กระหน่ำแทงอดีตภรรยา จนสิ้นใจตายต่อหน้าสามีใหม่ที่อยู่ในเหตุการณ์ด้วย โดยที่ไม่มีใคร สามารถช่วยเหลือได้ทัน หลังเกิดเหตุ ชาวบ้าน จึงได้ช่วยกันจับตัวผู้ต้องหาไว้ พร้อมกับรุมประชาทัณฑ์ จนได้รับบาดเจ็บ และรอส่งมอบตัวให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ คุมตัวไปดำเนินคดีทันที
