ปส.แถลงจับแก๊งยาเสพติดเครือข่ายใหญ่ทางภาคเหนือ ส่งสายลับปลอมตัวเข้าล่อซื้อยาบ้า 1 แสนเม็ด นัดส่งยาที่ร้านอาหารในอำเภอแม่สาย ก่อน จนท.แสดงตัวเข้าจับกุมรวบผู้ต้องหาได้ทั้งหมดพร้อมของกลาง สารภาพ ทำหน้าที่รับจ้างขนยามาส่งได้ค่าจ้างคนละ 5 หมื่น ส่วนยาบ้าเป็นของนายสามชาวพม่า เผย หากยาบ้าล็อตนี้เข้าสู่ท้องตลาดมีราคาถึง 24 ล้านบาท
วันนี้ (10 มี.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น.ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) พล.ต.ท.อติเทพ ปัญจมานนท์ ผบช.ปส. นายชาติชาย สุทธิกลม อธิบดีกรมราชทัณฑ์ นายสุขุม โอภาสนิพัทธ์ ผอ.สำนักปราบปรามยาเสพติด พล.ต.ต.หาญพล นิตย์วิบูลย์ รอง ผบช.ปส. พล.ต.ต.ชินภัทร สารสิน ผบก.ปส.3 ร่วมแถลงข่าวจับกุมนายนทีกานต์ อินสอน อายุ 51 ปี นายอำนวย จีระยา อายุ 36 ปี นายตะวัน ไทยเหนือ อายุ 36 ปี และนายแสง ชาวไทยใหญ่ อายุ 31 ปี พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 100,000 เม็ด รถกระบะยี่ห้ออีซูซุ หมายเลขทะเบียน บร 1843 เชียงราย รถ จยย.หมายเลขทะเบียน คขท-880 เชียงราย และโทรศัพท์มือถือจำนวน 5 เครื่อง
พล.ต.ท.อติเทพ เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.ปส.ได้รับการประสานข้อมูลจากเจ้าหน้าที่กรมราชทัฑณ์ถึงแหล่งค้ายาเสพติดรายใหญ่เครือข่ายทางภาคเหนือ จ.เชียงราย จึงสั่งการให้ กก.2 บก.ปส.3 ทำการสืบสวนจนทราบว่า นายนทีกานต์ เป็นเอเยนต์ลักลอบจำหน่ายยาบ้าในท้องที่ จ.เชียงราย จึงวางแผนจับกุมโดยอำพรางตัวเข้าล่อซื้อยาบ้าจำนวน 100,000 เม็ด ในราคาเม็ดละ 80 บาท รวมเป็นเงินจำนวน 8 ล้านบาท โดยนัดส่งมอบเงินที่ร้านอาหารลาบลุงแอ เลขที่ 80/1 ม.4 ถนนแม่สาย-เชียงแสน ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย
พล.ต.ท.อติเทพ กล่าวต่อว่า จากนั้น นายนทีกานต์ นายอำนวย และ นายแสง ได้เดินทางมาตรวจนับเงินค่ายาบ้า เมื่อตรวจนับเงินเรียบร้อยแล้ว ทั้งหมดก็พาเจ้าหน้าที่ที่ปลอมตัวเข้าไปรับยาบ้าที่บริเวณถนนเลียบคลอง สายเกาะช้าง-แม่สาย ต.ศรีเมืองชุม อ.แม่สาย โดยมีนายตะวัน เป็นคนรอส่งมอบยาบ้า เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงตัวเข้าจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมด ก่อนควบคุมตัวมาสอบปากคำ ทั้งนี้หากยาบ้าล็อตนี้เล็ดลอดออกสู่ท้องตลาด จะมีมูลค่าประมาณ 24 ล้านบาท
จากการสอบสวน นายตะวัน ให้การรับสารภาพว่า ยาบ้าทั้งหมดมีนายสาม ชาวพม่า นำมาส่งที่บริเวณชายแดนไทย-พม่า ทาง ต.ท่าขี้เหล็ก จากนั้นตนก็จะขนยามาส่งขายยังพื้นที่ในจ.เชียงราย โดยจะได้รับค่าจ้างคนละ 50,000 บาท แต่ก็มาถูกตำรวจจับกุมได้ดังกล่าว
ด้าน นายชาติชาย กล่าวว่า ในการจับกุมเครือข่ายยาเสพติดในปัจจุบัน จะมีการสั่งการจากภายในเรือนจำเป็นจำนวนมาก จึงได้วางนโยบายในการจับกุมและปราบปรามอย่างต่อเนื่อง จากนั้นทางกรมราชทัณฑ์ได้สืบทราบพฤติการณ์ของเครือข่ายยาเสพติดดังกล่าว จึงประสานไปยัง บช.ปส.เพื่อบูรณาการปราบปรามยาเสพติดร่วมกันจับกุมนักค้ายาเสพติดให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด
เบื้องต้นแจ้งเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายโดยผิดกฏหมาย ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป