ตำรวจเตาปูน เข้าช่วยเด็กหญิง 6 ขวบ ถูกพ่อบังเกิดเกล้า “ขัง-บีบคอ-กล้อนผม” อยู่ภายในตึกพาณิชย์แถวบางซื่อ ก่อนที่พ่อเด็กกับแม่เลี้ยงจะโร่พบตำรวจปฏิเสธไม่เคยทำร้าย ไม่เคยบังคับให้อดข้าว หรือกักขังลูกสาว อ้างเด็กน้ำเหลืองไม่ดี ชอบแกะเกาจนเป็นแผลเอง
วันนี้ (9 มี.ค.) เมื่อเวลา 16.00 น. พ.ต.ท.สถิตย์ สังข์ประไพ รอง ผกก.ปป.สน.เตาปูน ได้รับแจ้งจากสถานีวิทยุ จส.100 ว่า มีเด็กหญิงถูกทำร้ายร่างกายและกักขังหน่วงเหนี่ยวไว้ที่บ้านเลขที่ 77 ถนนประชาราษฎร์ สาย 1 ซอย 36 แขวงและเขตบางซื่อ กทม.จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่สายตรวจเข้าไปตรวจสอบทันที
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์สูง 3 ชั้น 4 คูหา จากการตรวจสอบภายในห้องชั้น 3 ของอาคารดังกล่าว เจ้าหน้าที่พบเด็กหญิงเฟิร์น อายุ 6 ปี อยู่ในสภาพอิดโรย ถูกกล้อนผมจนสั้นเกรียน ศีรษะแตก ลำตัวเขียวช้ำไปทั้งตัว บริเวณลำคอมีรอยเล็บข่วน ข้อมือทั้งสองข้างบวม บริเวณด้านหลัง มีร่อยรอยคล้ายถูกบุหรี่จี้ ถูกขังอยู่ในห้องดังกล่าว โดยที่ไม่ได้ล็อกห้อง เจ้าหน้าที่จึงช่วยเหลือออกมาจากบ้านหลังดังกล่าว ก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลวิชรพยาบาล เพื่อตรวจร่างกายอย่างละเอียดอีกครั้งว่า มีร่อยรอยการถูกข่มขืนหรือไม่ เนื่องจากที่บริเวณเป้ากางเกงมีคราบเลือดอยู่
จากการสอบถามเด็กหญิงเฟิร์น เปิดเผยว่า พักอาศัยอยู่กับนายโล้น (ขอสงวนนามสกุล) ซึ่งเป็นพ่อแท้ๆ ของตัวเอง กับ นางวรรณ ซึ่งเป็นแม่เลี้ยง อยู่อาคารพาณิชย์หลังดังกล่าว แต่ถูกพ่อขังไว้ในห้อง พร้อมขู่ด้วยว่าหากหนีออกมาจากห้อง จะฆ่าให้ตาย แต่วันนี้รู้สึกหิวเลยหนีลงมาขอข้าวที่ร้านก๋วยเตี๋ยวซึ่งอยู่ชั้นล่างของบ้าน
“หนูไม่ใช่เด็กดื้อ แต่พ่อหาว่าหนูโกหก หนูถูกพ่อตีและกระทืบ ส่วนแม่ก็บีบคอจนหนูเจ็บไปทั้งตัว” เด็กหญิงเฟิร์น กล่าว
ต่อมา พ.ต.อ.วีระ จิรวีระ ผกก.สน.เตาปูน ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.เตาปูน เดินทางไปที่ห้องพักในอาคารพาณิชย์ดังกล่าว เพื่อเชิญตัว นายโล้น และ นางวรรณ มาสอบปากคำ แต่ปรากฏว่า ห้องถูกล็อกอยู่ เจ้าหน้าที่จึงวางกำลังเฝ้าไว้ และกระจายกำลังกันออกติดตามตัวมาสอบปากคำต่อไป
ต่อมาเวลา 20.30 น.นายโล้น อายุ 23 ปี พร้อม นางวรรณ อายุ 21 ปี พ่อและแม่เลี้ยงของน้องเฟิร์น เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.เตาปูน ก่อนให้การว่า หลังจากตนเลิกกับภรรยาเก่า ยายของน้องเฟิร์นก็ส่งลูกสาวซึ่งตอนนั้นอายุแค่ 10 เดือน ไปให้บ้านปากเกร็ดเลี้ยงดูจนอายุได้ 5 ขวบ ตนก็ไปทำเรื่องของน้องเฟิร์นมาเลี้ยงเอง
นายโล้น ให้การต่อว่า ตนและภรรยาไม่ได้ทำร้ายลูกสาว ตามที่ลูกสาวอ้างแต่อย่างใด ส่วนเรื่องบาดแผลตามร่างกายนั้น เกิดจากลูกสาวเป็นเด็กที่น้ำเหลืองไม่ดีตั้งแต่เกิดแล้ว และลูกสาวชอบแกะเกาอยู่ตลอดเวลาจนทำให้เป็นแผล และตนขอยืนยันว่าตนกับภรรยาไม่เคยใช้บุหรี่จี้ที่หลังลูกสาวแต่อย่างใด
"ยอมรับว่ามีตีบ้างเพราะลูกสาวเป็นเด็กดื้อ ให้กินข้าวก็ไม่ยอมกิน วันนี้ก่อนออกจากบ้านก็ไม่ได้ล็อกห้องไว้ เพียงแต่ปิดประตูห้องไว้เท่านั้น และก็ไม่ได้บังคับให้อดข้าวตามที่ลูกอ้าง เนื่องจากพวกตนหาให้กินอยู่ทุกวันแต่ลูกสาวไม่ยอมกินเอง" นายโล้น อ้าง
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จะส่งน้องเฟิร์นไปที่ บ้านพักเด็กและครอบครัว กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (บ้านราชวิถี) จากนั้นจะทำการการสอบปากคำน้องเฟิร์นและพ่อแม่เด็กอย่างละเอียดอีกครั้ง ทั้งนี้หากผลการตรวจร่างกายของน้องเฟิร์นจากแพทยืดรงพยาบาลวชิรพยาบาลออกมาว่า น้องเฟิร์นถูกทำร้ายร่างกายจริง ก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
