จนท.ไฟฟ้าฯ ชี้ เด็กโดนไฟดูดดับ เหตุ “จับราวเหล็ก-ดึงบล็อกไฟขาด”

เจ้าหน้าที่การไฟฟ้านครหลวง เข้าให้ปากคำกรณี 2 เด็กชายจมน้ำเสียชีวิตต่อพนักงานสอบสวน สน.เตาปูน แจงเกิดจากตัวเด็กเล่นน้ำแล้วดึงท่อร้อยสายไฟติดกับบล็อกจ่ายกระแสไฟริมทางหลุดสายไฟขาด ทำให้ไฟฟ้ารั่ว ชี้ 2 จุดทำให้เสียชีวิต “เด็กจับราวเหล็ก-ดึงบล็อกไฟขาด” ขณะที่ผู้ปกครองของผู้ตาย เดินทางรับศพทั้งสอง ยังอยู่ในอาการเศร้าโศกทำใจไม่ได้ ยังไม่ชัดสาเหตุการเสียชีวิต

วันนี้ (4 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณี ด.ช.ชวลิต หรือ ไบท์ ลีลาขจรจิต อายุ 13 ปี กับ ด.ช.คณิตพัฒน์ หรือ เก่ง ศิริศาสตราวุธ อายุ 13 ปี พร้อมเพื่อนรวม 6 คน ได้ชวนกันลงไปว่ายน้ำเล่นในคลองเปรมประชากร หลังสำนักงานเขตบางซื่อ และทั้งคู่ได้หยอกล้อกันจน ด.ช.ชวลิต เอามือไปคว้าสายไฟของกล่องจ่ายกระแสไฟฟ้าเสาไฟส่องทางจนเกิดกระแสไฟฟ้าปะทุขึ้นมาก่อนที่เด็กจะเสียชีวิตไปทั้งคู่ นั้น

เมื่อเวลา 12.00 น.ที่ สน.เตาปูน เจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายของการไฟฟ้านครหลวง เดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.(หญิง) วรัญญา เกิดเอี่ยม พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.เตาปูน เจ้าของคดี ก่อนเปิดเผยว่า วันนี้ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน พร้อมทั้งนำเจ้าหน้าที่ของการไฟฟ้าฯเข้ามาให้ปากคำเกี่ยวกับเรื่องกระแสไฟฟ้า โดยทางพนักงานการไฟฟ้าแจ้งกับฝ่ายกฎหมายว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาจากตัวของเด็กที่ลงไปเล่นน้ำ แล้วมือไปดึงท่อร้อยสายไฟที่อยู่ติดกับบล็อกจ่ายกระแสไฟเสาไฟริมทางเดินหลุด ทำให้สายไฟขาด และเกิดไฟฟ้ารั่วขึ้น แต่ทางการไฟฟ้านครหลวงไม่สามารถปัดความรับผิดชอบได้ โดยเมื่อเช้าที่ผ่านมาทางผู้บริหารของการไฟฟ้านครหลวงเพลินจิตได้ได้มีการประชุมร่วมกัน โดยเบื้องต้นจะมีการช่วยเหลือทางด้านมนุษย์ธรรมกับผู้เสียชีวิตทั้งสองราย

ด้านเจ้าหน้าที่การไฟฟ้านครหลวง เปิดเผยว่า สำหรับสาเหตุที่เด็กเสียชีวิต เกิดมาจาก 2 จุด คือ จุดที่เด็กจับราวเหล็ก และจุดที่เด็กดึงบล็อกไฟและเสียชีวิต โดยจุดที่ต่อบล็อกไฟนั้นทางการไฟฟ้าฯ มีมาตรฐานมีการห่อหุ้มอย่างดี ที่จะเชื่อมต่อไปยังเสาไฟทางเดิน และโดยปกติการปิดเปิดจะมีการควบคุมอยู่ที่เขตสามเสน โดยจะปิดในเวลากลางวันและเปิดในเวลากลางคืน ตั้งแต่เวลา 18.00 น.

อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่เกิดเหตุ ทางการไฟฟ้านครหลวงได้ทำซ่อมแซมดวงไฟที่ชำรุดตลอดเส้นทางถนนประชาชื่น จึงมีการจ่ายกระแสไฟ เพื่อทดสอบดวงไฟที่ชำรุด ซึ่งเป็นจังหวะที่เด็กทั้งสองลงไปเล่นน้ำกับเพื่อน โดย ด.ช.ชวลิต ได้เอามือไปคว้าท่อร้อยสายไฟ ซึ่งติดอยู่กับบล็อกจ่ายกระแสไฟริมทางเดิน ทำให้สายไฟขาด และหลุดออกมาจนเกิดกระแสไฟฟ้ารั่วสู่ราวเหล็ก ทำให้ ด.ช.ชวลิต เสียชีวิตทันที ส่วน ด.ช.คณิตพัฒน์ ที่กำลังขึ้นจากน้ำและไปจับเข้าที่ราวเหล็กทำให้ถูกกระแสไฟที่รั่วช็อต และตกลงน้ำเสียชีวิตดังกล่าว

ทางด้าน ร.ต.ท.หญิงวรัญญา กล่าวว่า ขณะนี้คงยังต้องรอสอบปากคำผู้ปกครองของเด็กทั้งสองคนที่เสียชีวิตก่อน เนื่องจากขณะนี้ผู้ปกครองของเด็กทั้งสองคนยังไม่มาให้การ เพราะอยู่ในอาการเศร้าโศก คงต้องรอสัก 2-3 วัน

ในวันเดียวกัน เวลา 12.00 น.ที่สถาบันนิติเวช น.ส.ฐิติพร ศิริศาสตราวุธ อายุ 48 ปี น.ส.สุดอารีย์ อุมา อายุ 18 ปี มารดา และพี่สาวของ ด.ช.คณิตพัฒน์ ศิริศาสตราวุธ ได้เดินทางมารับศพด.ช.คณิตพัฒน์ โดย น.ส.ฐิติพร กล่าวว่า เมื่อคืนตนกับลูกสาวนอนไม่หลับ และทำใจไม่ได้ที่จะต้องสูญเสียลูกชายไป เพราะมันรวดเร็วมาก ต้องคอยถามลูกสาวว่า น้องจากไปแล้วจริงๆ เหรอ

ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตของลูกยังไม่แน่ใจว่ามาจากสาเหตุใด อยากจะฟังคำชี้แจงจากเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตบางซื่ออีกที สำหรับศพจะไปบำเพ็ญกุศลที่ วัดธรรมาภิรตาราม หรือวัดสะพานสูง ศาลา 2

ด้าน นายนพรัตน์ แก้วพลาย อายุ 34 ปี บิดา และนายสมหวัง ลีลาขจรจิตร อายุ 60 ปี ตา พร้อมด้วยครอบครัว ของ ด.ช.ชวลิต ลีลาขจรจิต อายุ 13 ปี ได้เดินทางมารับศพ ด.ช.ชวลิต โดย นายสมหวัง กล่าวว่า ต้องการให้สำนักงานเขตบางซื่อ ชี้แจงถึงสาเหตุที่ไม่ยอมสับคัตเอาต์เพื่อตัดไฟในช่วงกลางวัน ซึ่งปกติจะต้องสับคัตเอาต์อยู่แล้ว และสาเหตุใดจึงปล่อยให้สายไฟหลุดออกจากท่อร้อยสายไฟ และสภาพการเดินสายไฟที่อยู่ใกล้กับคลองก็ทรุดโทรมมาก หรือจะบอกว่าคลองเล่นน้ำไม่ได้ก็ต้องมีป้ายเตือนห้ามลงเล่นน้ำ

“สำนักงานเขตต้องเข้ามาดูแล ไม่ใช่เป็นเขตเอาแต่เก็บตังค์ ไม่ดูแลจุดนี้ ส่วนเงินแสนที่ว่าจะให้นั้น จะบอกว่าเงินแสนก็แลกกับชีวิตได้ไหม เด็กที่ลงเล่นน้ำก็ต้องการจะว่ายน้ำเป็น” นายสมหวัง กล่าว

ด้าน นายนพรัตน์ กล่าวว่า ได้ดูเอกสารที่ระบุสาเหตุการเสียชีวิตของลูกชาย ว่า ขาดอากาศหายใจ จมน้ำตาย ทำให้รู้สึกสงสัย เพราะจริงๆ แล้วก่อนที่ลูกชายจะจมน้ำนั้นได้ถูกไฟช็อตก่อน โดยตนมีรูปที่ได้จากมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งเป็นหลักฐาน ซึ่งเป็นภาพที่ศีรษะจุ่มน้ำ และขาพาดกับบันไดเหล็ก หากแพทย์ระบุสาเหตุเช่นนี้ เกรงว่า สำนักงานเขตจะอ้างว่าสาเหตุการเสียชีวิตของลูกชายไม่ได้เกิดจากความบกพร่องของสายไฟ และไม่รับผิดชอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนศพจะนำไปบำเพ็ญกุศลที่วัดเดียวกับ ด.ช.คณิตพัฒน์ ที่ศาลา 1