“นครบาล” เตรียมส่งมอบคดีเคทอง ให้ “สอบสวนกลาง” สานงานต่อ ระบุคดีดังกล่าวหน้าที่รับผิดชอบเป็นของตำรวจสอบสวนกลางโดยตรง ส่วนนครบาลมีหน้าที่สอบสวนใน กทม.เท่านั้น เชื่อ “เคทอง” ไม่อยู่ในพื้นที่ กทม.คาดอาจอยู่แถวตะเข็บชายแดน
วันนี้ (4 มี.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รับผิดชอบงานด้านการสอบสวน กล่าวถึงกรณีขออนุมัติหมายจับนายพรวัฒน์ ทองสมบูรณ์ ฉายาเคทอง ลูกน้องคนสนิท พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล “เสธ.แดง” ปล่อยข่าวผ่านวิดีโอคลิปวันที่ 26 ก.พ.เผยแพร่ทางอินเทอร์เน็ต ว่า ได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.สมชาย เชยกลิ่น ผกก.สน.ลาดกระบัง นำพยานหลักฐานทางคดีที่สืบสวนรวบรวม ไปขออนุมัติศาลจังหวัดมีนบุรีออกหมายจับนายพรวัฒน์ ตามความผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 ใน 2 ข้อหา ฐานความผิดเกี่ยวกับการใช้สื่อ ยุยงปลุกปั่นทำให้เกิดความวุ่นวาย สร้างความปั่นป่วนวุ่นวายในบ้านเมือง ปลุกระดมการก่อเหตุป่วนเมือง ทำให้หวาดกลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสียหาย ผ่านทาง Voice of Change ในช่วงเช้าที่ผ่านมา เชื่อว่า ศาลจะพิจารณาออกหมายจับตามที่พนักงานสอบสวนเสนอ ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการ หากผลออกมาเมื่อไหร่จะแจ้งสื่อมวลชนให้ทราบทันที
พล.ต.ต.อำนวย กล่าวต่อว่า เมื่อค่ำวันที่ 3 มี.ค.ที่ผ่านมา คณะทำงานฝ่ายสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้เข้าตรวจศูนย์อินเทอร์เน็ตดาต้าเซ็นเตอร์ อาคารโทรคมนาคม ย่านบางรัก ซึ่งเป็นสถานที่ที่ นายพรวัฒน์ เข้าไปใช้แคมฟอกซ์ในห้องสนทนา “ โพสต์ข้อความป่วนเมือง” ก่อนเกิดเหตุระเบิดธนาคารกรุงเทพ 4 จุด ยึดเซิร์ฟเวอร์ของกลางได้ 1 อัน ใช้ประกอบเป็นหลักฐานในการดำเนินคดี ซึ่งคดีลักษณะเช่นนี้กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เป็นผู้รับผิดชอบโดยตรง และมีหน่วยงานที่ดูแลความผิดด้านเทคโนโลยีและคอมพิวเตอร์อยู่แล้ว มีอำนาจสืบสวนสอบสวนผู้เกี่ยวข้องทางคดีได้ทุกพื้นที่ทั่วประเทศอยู่แล้ว ขณะที่ตำรวจนครบาลเองมีอำนาจการสอบสวนเพียงแค่ใน กทม.เท่านั้น และจากแนวทางการสืบสวนของคณะทำงานกองบัญชาการตำรวจนครบาล มีรายงานแน่ชัดแล้วว่า นายพรวัฒน์ไม่ได้กบดานในพื้นที่ กทม.อย่างแน่นอน คาดว่า จะหลบหนีไปในพื้นที่อื่นแล้ว แถวตะเข็บชายแดน ฉะนั้น เพื่อง่ายต่อการคลี่คลายคดีทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล มีแนวโน้มจะโอนคดีนี้ให้ บช.ก.เป็นผู้ดำเนินการต่อโดยจะมีการโอนเอกสารข้อมูลและสำนวนคดีของนายพรวัฒน์ให้ บช.ก.ทำต่อ เพื่อจะได้ไม่ต้องแบ่งการทำงานออกเป็น 2 ส่วน และไม่เกิดการทำงานที่ซ้ำซ้อนกัน หากศาลอนุมัติหมายจับเมื่อไหร่ บช.ก.ก็มีอำนาจทำต่อเนื่องได้ทันที