xs
xsm
sm
md
lg

ศาลส่งตัวแก๊งโจรกรรมบัตรเครดิต เป็นผู้ร้ายข้ามแดนให้สหรัฐฯ

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


ศาลส่งตัว ชาวมาเลเซียจำเลยแก๊งโจรกรรมข้อมูลบัตรเครดิตรายใหญ่ เป็นผู้ร้ายข้ามแดนไปดำเนินคดีที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ตามคำร้องขอ หลังโจรกรรมบัตรเครดิตรายใหญ่ในสหรัฐอเมริกา และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สร้างความเสียหายกว่า 150 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณกว่า 5,000 ล้านบาท

วันนี้ (4 มี.ค.) ที่ห้องพิจารณาคดี 711 ศาลอาญา ศาลอ่านคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำ อผ.5/2552 ที่พนักงานอัยการต่างประเทศ เป็นโจทก์ยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ นายเอฟเอ็นยู แอลเอ็นยุ หรือ เดลปีเอโร หรือ กุ่ย ก๊อก เส็ง อายุ 44 ปี ชาวมาเลเซีย เป็นจำเลย ส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนไปดำเนินคดีที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อจำเลยเป็นหนึ่งในแก๊งโจรกรรมข้อมูลบัตรเครดิตรายใหญ่ในสหรัฐอเมริกา และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สร้างความเสียหายกว่า 150 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณกว่า 5,000 ล้านบาท

โจทก์ฟ้องและนำสืบว่า จำเลยกระทำความผิดข้อหาร่วมกันสมคบกันไว้ในครอบครอง ซึ่งอุปกรณ์เข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต และลักลอบค้าอุปกรณ์เข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นความผิดที่มีโทษเทียบเท่ากฎหมายไทย ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 7, 8, 9, 12 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 269/1, 269/3, 269/7 และ พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจข้อมูลบัตรเครดิต พ.ศ.2545 มาตรา3, 9, 43 มีโทษจำคุกไม่น้อยกว่า 1 ปี และไม่เป็นความผิดทางการเมือง คดียังไม่ขาดอายุความ เนื่องจากเป็นคดีเร่งด่วน ตามข้อ 10 แห่งสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างราชอาณาจักรไทยและประเทศสหรัฐอเมริกา ขอให้ศาลมีคำสั่งส่งจำเลยเป็นผู้ร้ายข้ามแดน

ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า มีปัญหาต้องวินิจฉัยว่า จำเลยเป็นบุคคลเดียวกันกับที่ทางการสหรัฐฯ ต้องการตัวหรือไม่ เห็นว่า หลังจากที่ศาลได้ออกหมายจับจำเลย ตามที่ทางการสหรัฐฯ ร้องขอผ่านกระทรวงการต่างประเทศ โดยระบุรูปพรรณสัณฐาน และภาพถ่ายของหมายจับ ต่อมาวันที่ 13 ม.ค.2552 เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมจำเลยได้ และจำเลยรับว่าเป็นบุคคลเดียวกันกับคนในภาพ เห็นว่า เจ้าหน้าที่สืบสวนราชการลับของประเทศสหรัฐฯ ได้ติดตามสืบสวนการโจรกรรมข้อมูลบัตรเครดิต ที่จำเลยกระทำมาตั้งแต่ปี 2548 ก่อนจะให้สายลับติดต่อขอซื้อข้อมูลบัตรเครดิตจากจำเลยที่กรุงเทพฯ เมื่อปี 2552 และจากการตรวจสอบพาสปอร์ตของจำเลย เลขที่ A10696072 ตรงกับชื่อของจำเลย เป็นบุคคลเดียวกับในภาพถ่าย แสดงว่า หน่วยราชการลับของสหรัฐฯ ติดตามตัวจำเลยมาเป็นเวลานาน วางแผนกันเป็นขั้นตอน สอดคล้องกับคำให้การของจำเลยที่ระบุว่าเป็นบุคคลเดียวกันตามหมายจับและภาพถ่าย

แม้ต่อมาจำเลยจะอ้างในชั้นศาลว่าไม่ใช่บุคคลคนเดียวกัน และไม่เคยเดินทางไปประเทศสหรัฐฯ แต่เชื่อว่าจำเลยอาจจะเดินทางเข้าประเทศสหรัฐฯทางช่องทางอื่นได้ คำปฏิเสธของจำเลยเป็นเพียงคำกล่าวอ้างลอยๆ ไม่มีน้ำหนักหักล้างพยานหลักฐานโจทก์ ประกอบกับความผิดของจำเลยไม่ใช่ความผิดทางการเมือง และมีความผิดเทียบเท่ากับกฎหมายไทยหลายบท มีโทษจำคุกไม่ต่ำกว่า 1 ปี จึงรับฟังได้ว่าจำเลยเป็นบุคคลเดียวกับที่ทางการสหรัฐฯขอส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดน จึงให้ขังจำเลยไว้มีกำหนด 30 วัน เมื่อครบกำหนดจึงให้ส่งตัวจำเลยเป็นผู้ร้ายข้ามแดนให้ประเทศสหรัฐอเมริกาต่อไป ตามสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนระหว่างราชอาณาจักรไทย และประเทศสหรัฐอเมริกา
เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ควบคุมตัวนายกุ่ย ก๊อก เส็ง อายุ 44 ปี ชาวมาเลเซ๊ย ผู้ต้องหาคดีโจรกรรมบัตรเคดิตรายใหญ่ ออกจากห้องพิจารณาคดี

กำลังโหลดความคิดเห็น