ตร.นำตัวมือบึ้มตลาดคลองเตยชี้จุดเกิดเหตุ เจ้าตัวยังปฎิเสธ อ้างได้ไปดูแผงค้าถูกระเบิดจริง แต่ไม่มีส่วนก่อเหตุ ขณะที่กำลังนำตัวผู้ต้องหาไปชี้จุด ประธานสมาพันธ์ผู้ค้าตลาดคลองเตยได้พูดจาดูหมิ่นเจ้าหน้าที่ด้วยถ้อยคำหยาบคาย จน จนท.ลีเกิ้ลฯ สุดทนชกต่อยแกนนำคลองเตยต่อหน้า ผบก.น.5 โดนควบคุมตัวดำเนินคดีทั้งคู่
วันนี้ (10 ก.พ.) เมื่อเวลา 12.00 น. พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง ผบก.น.5 พ.ต.อ.ธนิต เหรียญเจริญ ผกก.สน.ท่าเรือ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ท่าเรือ ควบคุมตัว นายสรยุทธ หรือโอ๋ ชื่นบาน อายุ 36 ปี อาชีพรับจ้างสักยันต์ อยู่บ้านเลขที่ 563 ซอยสมเด็จพระเจ้าตากสิน 21 แขวงสำเหร่ เขตธนบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.71/2553 ไปชี้จุดเกิดเหตุภายในตลาดคลองเตย หลังถูก พ.ต.อ.สมบัติ มิลินทจินดา ผกก.สส.บก.น.5 นำกำลังเข้าจับกุมได้ที่บ้านหลังดังกล่าว เมื่อเวลา 23.00 น.วานนี้ (9 ก.พ.)
ทั้งนี้ หลังถูกจับกุม นายสรยุทธให้การปฎิเสธว่า ได้ไปดูแผงค้าขายที่ถูกระเบิดที่บริเวณตลาดคลองเตยจริง แต่ไม่มีส่วนก่อเหตุ โดยก่อนเกิดเหตุนายวิวัฒน์ หรือซี เทพสุภา ได้ชวนตนไปดูพระที่ห้องพักที่อยู่ในอาคารเอเอแมนชั่น ถนนเจริญนคร แขวงบางลำภูล่าง เขตพระนคร จากนั้นนายวิวัฒน์ ได้รับโทรศัพท์จากนางมะณี หรือเจ๊น้อย กระตือหน แม่ของแฟนสาวว่าถูกล้อมกรอบอยู่ภายในแผงค้า นายวิวัฒน์จึงชวนตนกับเพื่อนที่อยู่ในห้องคือนายจิระศักดิ์ หรือปุ้ย แพบรรยง นายปรมี หรือปอ เทพมณี นายเอก หรือใหม่ กลิ่นแก้ว ขับขี่รถจักรยานยนต์มากัน 3 คัน
นายสรยุทธให้การต่อว่า เมื่อมาถึงแผงค้าพบว่าตำรวจกับกลุ่มวัยรุ่นกำลังล้อมกรอบ นางมะณี และ น.ส.สุภัทรา แฟนสาวของนายวิวัฒน์อยู่ ต่อมามีชายฉกรรจ์มาบอกให้พวกตนออกไปจากตลาด และจากนั้นไม่นานก็ได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้น ก่อนที่ผู้คนในตลาดจะรีบวิ่งกรูกันออกจากตลาดทันที ส่วนตนได้นั่งแท็กซี่กลับบ้าน โดยไม่รู้ว่าพวกที่เหลือแยกไปทางใด และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในเหตุระเบิด จนกระทั่งมีตำรวจมาจับกุมที่บ้าน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาร่วมกันกระทำให้เกิดระเบิดจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ และทรัพย์สินของผู้อื่นเสียหาย ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันพาอาวุธไปในเมืองหมู่บ้านทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ร่วมกันมีและใช้ลูกระเบิดอันเป็นเครื่องกระสุนที่นายทะเบียนออกใบอนุญาตให้ไม่ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังนำตัวนายสรยุทธไปชี้จุดที่กล่าวอ้างอยู่นั้น ระหว่างนั้นนายสุรเดช หรือเฮียจิ๋ว นิสภารมย์ อายุ 56 ปี ประธานสมาพันธ์ผู้ค้า ผู้อาศัย ตลาดคลองเตย ได้พูดจาดูหมิ่นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มารักษาความปลอดภัยด้วยถ้อยคำหยาบคาย จน พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง ผบก.น.5 ต้องหันกลับไปถามว่า “เมื่อกี๊คุณพูดอะไร” จังหวะนั้นเองนายพิเชษฐ์ กันบุรมย์ อายุ 40 ปี พนักงานบริษัท ลีเกิ้ลฯ ทำหน้าดูแลอยู่บริเวณตลาด 4 เกิดความไม่พอใจตรงเข้าไปต่อยนายสุรเดชต่อหน้า พล.ต.ต.อนุชัย และเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกหลายนาย ทางเจ้าหน้าที่จึงเข้าจับกุมตัวทั้งคู่มาดำเนินคดีที่ สน.ท่าเรือ
โดยนายพิเชษฐ์ให้การว่า ที่ทำลงไปนั้นเป็นเพราะทนพฤติกรรมของนายสุรเดช ที่เป็นแกนนำป่วนตลาดมานานปีกว่าแล้ว วันนี้ทนไม่ได้เลยต่อยไป เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกาย ขณะที่นายสุรเดชก็ยังพูดจาต่อว่าการทำงานของตำรวจ และนายพิเชษฐ์ที่ลงมือทำร้ายร่างกายตนเองอยู่ตลอดเวลา จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องแยกตัวออกไปอีกห้อง ก่อนแจ้งข้อหาดูหมิ่นเจ้าพนักงาน
วันนี้ (10 ก.พ.) เมื่อเวลา 12.00 น. พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง ผบก.น.5 พ.ต.อ.ธนิต เหรียญเจริญ ผกก.สน.ท่าเรือ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ท่าเรือ ควบคุมตัว นายสรยุทธ หรือโอ๋ ชื่นบาน อายุ 36 ปี อาชีพรับจ้างสักยันต์ อยู่บ้านเลขที่ 563 ซอยสมเด็จพระเจ้าตากสิน 21 แขวงสำเหร่ เขตธนบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.71/2553 ไปชี้จุดเกิดเหตุภายในตลาดคลองเตย หลังถูก พ.ต.อ.สมบัติ มิลินทจินดา ผกก.สส.บก.น.5 นำกำลังเข้าจับกุมได้ที่บ้านหลังดังกล่าว เมื่อเวลา 23.00 น.วานนี้ (9 ก.พ.)
ทั้งนี้ หลังถูกจับกุม นายสรยุทธให้การปฎิเสธว่า ได้ไปดูแผงค้าขายที่ถูกระเบิดที่บริเวณตลาดคลองเตยจริง แต่ไม่มีส่วนก่อเหตุ โดยก่อนเกิดเหตุนายวิวัฒน์ หรือซี เทพสุภา ได้ชวนตนไปดูพระที่ห้องพักที่อยู่ในอาคารเอเอแมนชั่น ถนนเจริญนคร แขวงบางลำภูล่าง เขตพระนคร จากนั้นนายวิวัฒน์ ได้รับโทรศัพท์จากนางมะณี หรือเจ๊น้อย กระตือหน แม่ของแฟนสาวว่าถูกล้อมกรอบอยู่ภายในแผงค้า นายวิวัฒน์จึงชวนตนกับเพื่อนที่อยู่ในห้องคือนายจิระศักดิ์ หรือปุ้ย แพบรรยง นายปรมี หรือปอ เทพมณี นายเอก หรือใหม่ กลิ่นแก้ว ขับขี่รถจักรยานยนต์มากัน 3 คัน
นายสรยุทธให้การต่อว่า เมื่อมาถึงแผงค้าพบว่าตำรวจกับกลุ่มวัยรุ่นกำลังล้อมกรอบ นางมะณี และ น.ส.สุภัทรา แฟนสาวของนายวิวัฒน์อยู่ ต่อมามีชายฉกรรจ์มาบอกให้พวกตนออกไปจากตลาด และจากนั้นไม่นานก็ได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้น ก่อนที่ผู้คนในตลาดจะรีบวิ่งกรูกันออกจากตลาดทันที ส่วนตนได้นั่งแท็กซี่กลับบ้าน โดยไม่รู้ว่าพวกที่เหลือแยกไปทางใด และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในเหตุระเบิด จนกระทั่งมีตำรวจมาจับกุมที่บ้าน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาร่วมกันกระทำให้เกิดระเบิดจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ และทรัพย์สินของผู้อื่นเสียหาย ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันพาอาวุธไปในเมืองหมู่บ้านทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ร่วมกันมีและใช้ลูกระเบิดอันเป็นเครื่องกระสุนที่นายทะเบียนออกใบอนุญาตให้ไม่ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังนำตัวนายสรยุทธไปชี้จุดที่กล่าวอ้างอยู่นั้น ระหว่างนั้นนายสุรเดช หรือเฮียจิ๋ว นิสภารมย์ อายุ 56 ปี ประธานสมาพันธ์ผู้ค้า ผู้อาศัย ตลาดคลองเตย ได้พูดจาดูหมิ่นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มารักษาความปลอดภัยด้วยถ้อยคำหยาบคาย จน พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง ผบก.น.5 ต้องหันกลับไปถามว่า “เมื่อกี๊คุณพูดอะไร” จังหวะนั้นเองนายพิเชษฐ์ กันบุรมย์ อายุ 40 ปี พนักงานบริษัท ลีเกิ้ลฯ ทำหน้าดูแลอยู่บริเวณตลาด 4 เกิดความไม่พอใจตรงเข้าไปต่อยนายสุรเดชต่อหน้า พล.ต.ต.อนุชัย และเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกหลายนาย ทางเจ้าหน้าที่จึงเข้าจับกุมตัวทั้งคู่มาดำเนินคดีที่ สน.ท่าเรือ
โดยนายพิเชษฐ์ให้การว่า ที่ทำลงไปนั้นเป็นเพราะทนพฤติกรรมของนายสุรเดช ที่เป็นแกนนำป่วนตลาดมานานปีกว่าแล้ว วันนี้ทนไม่ได้เลยต่อยไป เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกาย ขณะที่นายสุรเดชก็ยังพูดจาต่อว่าการทำงานของตำรวจ และนายพิเชษฐ์ที่ลงมือทำร้ายร่างกายตนเองอยู่ตลอดเวลา จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องแยกตัวออกไปอีกห้อง ก่อนแจ้งข้อหาดูหมิ่นเจ้าพนักงาน
