สตม.รวบหัวหน้าแก๊งยากูซ่าซึมิโยชิไค หนีคดีฆ่าแก๊งยากูซ่าฝ่ายตรงข้ามกบดานในไทย เหตุขัดอิทธิพลผิดกฎหมาย โดยส่งตัวให้สถานทูตญี่ปุ่นนำกลับไปดำเนินคดี ด้าน “วุฒิ” เตรียมตั้งศูนย์ปราบคนร้ายข้ามชาติ ทำเป็นศูนย์กลางจัดระบบคนร้ายต่างชาติ แยกสัญชาติการทำผิดให้ชัด พร้อมจับดำเนินคดีผลักดันออกนอกประเทศ
วันนี้ (10 ก.พ.) เมื่อเวลา 14.00 น.ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) พล.ต.ท.วุฒิ ลิปตพัลลภ ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ม.ล.พันธ์ศักดิ์ เกษมสันต์ พล.ต.ต.ชัยยศ บัวทรัพย์ พล.ต.ต.รัฐวิทย์ แสนทวีสุข พล.ต.ต.พงศ์เดช ไชยประวัจน์ รองผบช.สตม. และเจ้าหน้าที่ กก.1 บก.สส.สตม. ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมนายอะนัย เคนอิชิ อายุ 41 ปี สัญชาติญี่ปุ่น ภูมิลำเนาอยู่ใน ต.โอะกุนะ อ.อะโซะ จ.คุมาโมโต ซึ่งเป็นหัวหน้าระดับใหญ่ของกลุ่มคาโต้เร็งโกไค สังกัดกลุ่มครอบครัวโคเฮ แก๊งยากูซ่าซึมิโยชิไค ที่ได้ก่อคดีฆ่าผู้อื่นและความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืนแล้วหลบหนีเข้ามาหลบซ่อนตัวอยู่ในประเทศไทย
พล.ต.ท.วุฒิ เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก พล.ต.ต.มนู เมฆหมอก ผบก.สส.สตม. ได้รับการประสานจากสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่น ประจำประเทศไทย ให้ติดตามจับกุมตัวนายอะนัย หัวหน้าแก๊งยากูซ่าซึมิโยชิไค ที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศญี่ปุ่น มีสมาชิกกว่า 6,100 คน ที่เพิ่งร่วมมือกับพรรคพวกในกลุ่ม ประกอบด้วย นายทานากะ โยชิอาคิ หัวหน้าระดับใหญ่ของกลุ่มเดียวกัน นายฮิรายาม่า มาซาโนริ นายโกคอน อาคิโอะ หัวหน้าระดับใหญ่ของก๊วนโซจินกุมิ กลุ่มคาโต้เร็งโกไค นายนะไค ชินย่า นายอาคิยาม่า ทะซึโทชิ และนายคาจิวาร่า ฮิเดกิ สมาชิกกลุ่มเดียวกัน วางแผนฆ่าสมาชิกกลุ่มครอบครัวซางามิ แก๊งอินกาว่า ซึ่งเป็นแก๊งยากูซ่าฝ่ายตรงข้าม เนื่องจากขัดแย้งกันเรื่องขยายอิทธิพลในเรื่องผิดกฎหมาย และเป็นการแก้แค้นให้นายไซโต้ เคตะ สมาชิกแก๊งตัวเอง ที่ถูกแก๊งดังกล่าวลักพาตัวไปทำร้ายร่างกาย
จากนั้นวันที่ 5 ก.ค.52 ที่ผ่านมา นายอะนัย พร้อมพรรคพวกได้บุกเข้าไปในสำนักงานของก๊วนคุโระดะกุมิ กลุ่มครอบครัวซางามิ แก๊งยากูซ่าอินกาว่า ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 11-1 ชั้น 3 ตึกอินาโช ต.เบนิยะ อ.ฮิราซึกะ จ.คานากาว่า ก่อนจะใช้อาวุธปืนที่พวกติดตัวมา 3 กระบอก กระหน่ำยิงใส่นายวาตานาเบ้ โนบุฮิโร อายุ 34 ปี จำนวน 5 นัด จนเสียชีวิต ซึ่งหลังจากนั้น ทางการญี่ปุ่นได้ออกหมายจับนายอะนัยเอาไว้แล้ว
พล.ต.ท.วุฒิ กล่าวต่อไปว่า หลังก่อเหตุนายอะนัย ได้นำทะเบียนบ้านของลูกน้องไปทำหนังสือเดินทางเลขที่ TK 0144062 โดยใช้ชื่อ “ซาโต้ เซ็นตะ” จากนั้นเดินทางด้วยสายการบินออลนิปปอนแอร์เวย์ เที่ยวบินที่ 953 (NH953) ออกจากสนามบินนาริตะเข้ามายังประเทศไทยเมื่อวันที่ 9 ต.ค.52 และหลบซ่อนตัวอยู่ จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ กก.1 บก.สส.สตม. สามารถติดตามจับกุมตัวได้ที่อาคารไดมอนด์เพลส ซอยสีลม 7 เมื่อวันที่ 7 ก.พ.ที่ผ่านมา
พล.ต.ท.วุฒิ กล่าวด้วยว่า จากการสอบปากคำนายอะนัยยังไม่ยอมให้การอะไร ซึ่งหลังจากนี้จะส่งตัวให้สถานเอกอัครทูตญี่ปุ่นนำตัวกลับไปดำเนินคดีต่อไป ส่วนทางสตม.จะทำการตรวจสอบว่า ตลอดระยะเวลาที่นายอะนัย หลบหนีเข้ามาซ่อนตัวอยู่ในประเทศไทยนั้น เจ้าตัวได้เข้ามาทำอะไร และมีการติดต่อกับใครบ้าง รวมทั้งมีความเคลื่อนไหวทางด้านการเงินอย่างไร นอกจากนี้จะต้องตรวจสอบด้วยว่ามีความเกี่ยวข้องกับเครือข่ายของแก๊งยากูซ่าในประเทศไทยหรือไม่
พล.ต.ท.วุฒิ กล่าวด้วยว่า หลังจากนี้จะมีการจัดตั้งศูนย์ปราบปรามคนร้ายข้ามชาติ เพื่อทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการบริหารจัดการข้อมูลคนร้ายต่างชาติอย่างเป็นระบบ ทั้งคนร้ายต่างชาติที่มีหมายจับของศาลไทย คนร้ายต่างชาติที่มีหมายจับจากต่างประเทษ โดยจะแยกสัญชาติและพฤติกรรมการกระทำผิด เพื่อจะได้ดำเนินการจับกุมมาดำเนินคดีหรือผลักดันให้ออกจากประเทศไทยต่อไป
วันนี้ (10 ก.พ.) เมื่อเวลา 14.00 น.ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) พล.ต.ท.วุฒิ ลิปตพัลลภ ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ม.ล.พันธ์ศักดิ์ เกษมสันต์ พล.ต.ต.ชัยยศ บัวทรัพย์ พล.ต.ต.รัฐวิทย์ แสนทวีสุข พล.ต.ต.พงศ์เดช ไชยประวัจน์ รองผบช.สตม. และเจ้าหน้าที่ กก.1 บก.สส.สตม. ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมนายอะนัย เคนอิชิ อายุ 41 ปี สัญชาติญี่ปุ่น ภูมิลำเนาอยู่ใน ต.โอะกุนะ อ.อะโซะ จ.คุมาโมโต ซึ่งเป็นหัวหน้าระดับใหญ่ของกลุ่มคาโต้เร็งโกไค สังกัดกลุ่มครอบครัวโคเฮ แก๊งยากูซ่าซึมิโยชิไค ที่ได้ก่อคดีฆ่าผู้อื่นและความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืนแล้วหลบหนีเข้ามาหลบซ่อนตัวอยู่ในประเทศไทย
พล.ต.ท.วุฒิ เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก พล.ต.ต.มนู เมฆหมอก ผบก.สส.สตม. ได้รับการประสานจากสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่น ประจำประเทศไทย ให้ติดตามจับกุมตัวนายอะนัย หัวหน้าแก๊งยากูซ่าซึมิโยชิไค ที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศญี่ปุ่น มีสมาชิกกว่า 6,100 คน ที่เพิ่งร่วมมือกับพรรคพวกในกลุ่ม ประกอบด้วย นายทานากะ โยชิอาคิ หัวหน้าระดับใหญ่ของกลุ่มเดียวกัน นายฮิรายาม่า มาซาโนริ นายโกคอน อาคิโอะ หัวหน้าระดับใหญ่ของก๊วนโซจินกุมิ กลุ่มคาโต้เร็งโกไค นายนะไค ชินย่า นายอาคิยาม่า ทะซึโทชิ และนายคาจิวาร่า ฮิเดกิ สมาชิกกลุ่มเดียวกัน วางแผนฆ่าสมาชิกกลุ่มครอบครัวซางามิ แก๊งอินกาว่า ซึ่งเป็นแก๊งยากูซ่าฝ่ายตรงข้าม เนื่องจากขัดแย้งกันเรื่องขยายอิทธิพลในเรื่องผิดกฎหมาย และเป็นการแก้แค้นให้นายไซโต้ เคตะ สมาชิกแก๊งตัวเอง ที่ถูกแก๊งดังกล่าวลักพาตัวไปทำร้ายร่างกาย
จากนั้นวันที่ 5 ก.ค.52 ที่ผ่านมา นายอะนัย พร้อมพรรคพวกได้บุกเข้าไปในสำนักงานของก๊วนคุโระดะกุมิ กลุ่มครอบครัวซางามิ แก๊งยากูซ่าอินกาว่า ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 11-1 ชั้น 3 ตึกอินาโช ต.เบนิยะ อ.ฮิราซึกะ จ.คานากาว่า ก่อนจะใช้อาวุธปืนที่พวกติดตัวมา 3 กระบอก กระหน่ำยิงใส่นายวาตานาเบ้ โนบุฮิโร อายุ 34 ปี จำนวน 5 นัด จนเสียชีวิต ซึ่งหลังจากนั้น ทางการญี่ปุ่นได้ออกหมายจับนายอะนัยเอาไว้แล้ว
พล.ต.ท.วุฒิ กล่าวต่อไปว่า หลังก่อเหตุนายอะนัย ได้นำทะเบียนบ้านของลูกน้องไปทำหนังสือเดินทางเลขที่ TK 0144062 โดยใช้ชื่อ “ซาโต้ เซ็นตะ” จากนั้นเดินทางด้วยสายการบินออลนิปปอนแอร์เวย์ เที่ยวบินที่ 953 (NH953) ออกจากสนามบินนาริตะเข้ามายังประเทศไทยเมื่อวันที่ 9 ต.ค.52 และหลบซ่อนตัวอยู่ จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ กก.1 บก.สส.สตม. สามารถติดตามจับกุมตัวได้ที่อาคารไดมอนด์เพลส ซอยสีลม 7 เมื่อวันที่ 7 ก.พ.ที่ผ่านมา
พล.ต.ท.วุฒิ กล่าวด้วยว่า จากการสอบปากคำนายอะนัยยังไม่ยอมให้การอะไร ซึ่งหลังจากนี้จะส่งตัวให้สถานเอกอัครทูตญี่ปุ่นนำตัวกลับไปดำเนินคดีต่อไป ส่วนทางสตม.จะทำการตรวจสอบว่า ตลอดระยะเวลาที่นายอะนัย หลบหนีเข้ามาซ่อนตัวอยู่ในประเทศไทยนั้น เจ้าตัวได้เข้ามาทำอะไร และมีการติดต่อกับใครบ้าง รวมทั้งมีความเคลื่อนไหวทางด้านการเงินอย่างไร นอกจากนี้จะต้องตรวจสอบด้วยว่ามีความเกี่ยวข้องกับเครือข่ายของแก๊งยากูซ่าในประเทศไทยหรือไม่
พล.ต.ท.วุฒิ กล่าวด้วยว่า หลังจากนี้จะมีการจัดตั้งศูนย์ปราบปรามคนร้ายข้ามชาติ เพื่อทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการบริหารจัดการข้อมูลคนร้ายต่างชาติอย่างเป็นระบบ ทั้งคนร้ายต่างชาติที่มีหมายจับของศาลไทย คนร้ายต่างชาติที่มีหมายจับจากต่างประเทษ โดยจะแยกสัญชาติและพฤติกรรมการกระทำผิด เพื่อจะได้ดำเนินการจับกุมมาดำเนินคดีหรือผลักดันให้ออกจากประเทศไทยต่อไป
