ศึกตลาดคลองเตยปะทุหนัก คนร้ายปาระเบิดใส่แผงแม่ค้าตลาด 3 โต้รุ่ง กลางดึก แม่ค้าและคนซื้อเจ็บ 6 ราย ด้าน ตร.เตรียมนำหลักฐานภาพวงจรปิดของผู้ต้องสงสัยที่ บ.ลีเกิ้ล โปรเฟสชั่นแนล จํากัด มอบให้ไปตรวจสอบ พร้อมสั่งคุมเข้มหวั่นเกิดเหตุรุนแรงซ้ำอีก
วันนี้ (7 ก.พ.) เมื่อเวลา 01.30 น. ร.ต..ท.ประจักร์ สัมฤทธิ์ พนักงานสวบสวน (สบ 1) สน.ท่าเรือ ได้รับแจ้งเหตุคนร้ายปาระเบิดใส่แผงค้าขายภายในตลาดคลองเตย ถนนสุนทรโกษา แขวงและเขตคลองเตย กทม.ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้วรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง ผบก.น.5 พ.ต.อ.วราวุธ ทวีชัยการ รอง ผบก.น.5 พ.ต.อ.สมบัติ มิลินทจินดา ผกก.สส.บก.น.5 เจ้าหน้าที่กลุ่มงานเก็บกู้วัตถุระเบิด บก.ตปพ. เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุอยู่ภายในตลาด 3 โต้รุ่ง จากการตรวจสอบบริเวณแผงขายเส้นก๋วยเตี๋ยวติดกับทางเดินเท้าระหว่างตลาด 3 และ ตลาด 4 เจ้าหน้าที่พบกองเลือดตกอยู่จำนวนมาก นอกจากนี้ยังพบร่องรอยลูกระเบิดถูกขว้างไปตกบนโต๊ะวางสินค้าด้านหลังแผงค้าดังกล่าว โดยแรงระเบิดทำให้เกิดสะเก็ดกระจายไปถูกแผงค้าพริกแกงซึ่งขนาบข้างอยู่ทั้งฝั่งซ้ายและฝั่งขวา ได้รับความเสียหายรวมทั้งสิ้น 3 แผง มีเศษโลหะบางส่วนฝังอยู่ที่เสาแผงค้าและกระเด็นลอยขึ้นไปถูกร่มคลุมกันแดดและฝนของแผงค้าจนฉีกขาดกระจายเป็นวงกว้าง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้พบกระเดื่องของลูกระเบิดขว้างสังหารไม่ทราบชนิดตกอยู่ในกระบะวางสินค้า 1 อัน จึงเก็บรวบรวมไว้ทำการตรวจสอบก่อนส่งมอบให้พนักงานสอบสวนนำไปประกอบสำนวนคดี
ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บมีทั้งสิ้น 6 ราย เป็นลูกจ้างประจำแผงค้า และเป็นชาวบ้านที่มาจับจ่ายซื้อของ ถูกพลเมืองนำส่ง รพ.จุฬาฯ จำนวน 4 ราย ประกอบด้วย 1.นายยัง สอนดี อายุ 32 ปี ลูกจ้างแผงค้าเส้นก๋วยเตี๋ยวถูกสะเก็ดระเบิดเข้าที่หน้าอกและสีข้างด้านขวาอย่างจังอาการสาหัสต้องนำเข้าห้องไอซียู 2.น.ส.เกิดจะนา สีม่วง อายุ 30 ปี แม่ค้าขายอาหารทะเลถูกสะเก็ดระเบิดเข้าที่คางและหัวไหล่ 3.นายแก้ว คนหลัก อายุ 28 ปี เป็นชาวบ้านที่มาจ่ายตลาดถูกสะเก็ดเข้าที่หน้าท้อง และ 4.น.ส.โรสินี บุญรักษ์ อายุ 24 ปี ซึ่งกำลังตั้งครรภ์ได้ 3 เดือน ถูกสะเก็ดระเบิดเข้าที่ขาขวาเป็นแผลฉกรรจ์ นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บถูกนำส่ง รพ.เทพธารินทร์ อีก 2 ราย คือ 1.น.ส.นิยา (ไม่ทราบนามสกุล) แม่ค้าขายพริกแกงถูกสะเก็ดระเบิดเข้าที่ลำคออาการสาหัสต้องนำเข้าห้องไอซียู และ 2.ชายนิรนามอีก 1 ราย ถูกสะเก็ดระเบิดเข้าตามร่างกายหลายแห่ง
จากการสอบสวน นายเริงชัย โพธิ์ศรี อายุ 52 ปี หัวหน้าทีมรักษาความปลอดภัย บริษัท ลีเกิ้ล โปรเฟสชั่นแนล จํากัด เจ้าของสัมปทานตลาด ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนขับรถจักรยานยนต์ตรวจตราอยู่ในละแวกใกล้เคียงกับจุดเกิดเหตุ พอได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นจึงหยุดรถเพื่อทำการตรวจสอบ เห็นชายต้องสงสัยอายุประมาณ 22-25 ปี ไว้ผมบ็อบ ผิวดำ-แดง สวมเสื้อคลุมสีน้ำเงิน นุ่งกางเกงยีนขายาว วิ่งออกมาจากบริเวณที่เกิดเหตุด้วยท่าทีลุกลี้ลุกลน จากนั้นก็มีคนร้ายเป็นชายวัยรุ่นอีก 2 คน พากันขับขี่และซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์แบบผู้หญิงไม่ทราบยี่ห้อและรุ่น สีน้ำเงิน ทะเบียนจำได้แค่หมวดอักษร ก.ล.น. แต่จำหมายเลขไม่ได้ มาจอดรับชายคนดังกล่าวไป โดยคนร้ายได้พากันขับขี่รถจักรยานยนต์ในลักษณะซ้อนสาม ขับย้อนศรฝ่าไฟแดงบริเวณแยกสุนทรโกษาหลบหนีไปทางตลาดปีนัง ซึ่งตนก็พยายามขับรถจักรยานยนต์ตามไปแต่เกิดคลาดกันระหว่างทางจึงตัดสินใจโทรศัพท์แจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบ
ด้าน นายวัชสิทธิ์ ธรรมธีระศรี ผู้จัดการฝ่ายกฎหมาย บริษัท ลีเกิ้ล โปรเฟสชั่นแนล จํากัด กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวทางบริษัทพอที่จะทราบแล้วว่าคนร้ายกลุ่มนี้เป็นใคร เนื่องจากภายในตลาดมีการติดตั้งกล้องวงจรปิดเอาไว้ทั่วบริเวณเพื่อป้องกันเหตุอยู่แล้ว นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่ รปภ.ของบริษัท สามารถใช้กล้องถ่ายรูปบันทึกภาพกลุ่มชายต้องสงสัยที่เข้ามาป้วนเปี้ยนอยู่ในตลาดได้จำนวน 4 คน โดยก่อนเกิดเหตุเพียงไม่กี่นาที กลุ่มชายต้องสงสัยทั้ง 4 คนนี้ ได้ไปปรากฏตัวอยู่ที่แผงเจ๊น้อยขายปลาดุก ผู้ค้าเก่าซึ่งอยู่ใต้ชายคาตลาด 4 ด้วยท่าทางร้อนลน ซึ่งมีในกลุ่มผู้ต้องสงสัยมีอยู่ 1 คนที่สวมเสื้อคลุมแขนยาวสีทึบด้านหลังปักลายตัวอักษรยี่ห้อรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า พยายามควักวัตถุบางอย่างออกจากกระเป๋าเสื้อ เพื่อปาใส่เจ้าหน้าที่ รปภ.ของบริษัท จนกระทั่งถูกตรวจพบพฤติกรรมจึงโดนกดดันออกนอกพื้นที่ แต่คล้อยหลังเพียงไม่กี่นาที ร้านขายเส้นก๋วยเตี๋ยวของเจ๊อ๋า ซึ่งเป็นผู้ค้าใหม่ที่เสียเงินค่าเช่าแผงกับทางบริษัทอย่างถูกต้อง และยังเป็นคู่อริกับเจ๊น้อยขายปลาดุก ก็ถูกปาระเบิดใส่จนมีทรัพย์สินเสียหายและมีผู้ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
“อย่างไรก็ตาม สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ทางบริษัทขอรับผิดชอบดูแลค่ารักษาพยาบาลให้กับผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด ทั้งในส่วนของชาวบ้านที่มาจับจ่ายซื้อสินค้า และลูกจ้างประจำแผงค้า เนื่องจากลูกจ้างแผงค้าที่ถูกสะเก็ดระเบิดต่างก็เป็นผู้ค้าที่ได้รับสัมปทานจากบริษัท ลีเกิ้ล โปรเฟสชั่นแนล จํากัด อย่างถูกต้อง ทางบริษัทจะไม่ทอดทิ้งอย่างแน่นอน” นายวัชสิทธิ์กล่าว
ขณะที่ พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง ผบก.น.5 กล่าวว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกระจายกำลังกันติดตามล่าตัวคนร้ายแล้วแต่ยังไม่พบเบาะแสแต่อย่างใด เบื้องต้นยังไม่ทราบว่าคนร้ายใช้ระเบิดชนิดใดคงต้องมอบให้เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้นำกระเดื่องของระเบิดที่พบไปเปรียบเทียบกับสารบบเสียก่อน ส่วนมูลเหตุของเรื่องที่เกิดขึ้นก็ยังต้องรอผลการสอบสวนพยานและนำหลักฐานต่างๆ ที่ทางบริษัท ลีเกิ้ล โปรเฟสชั่นแนล จํากัด มอบให้ไปตรวจดูเพื่อพิจารณากันอีกครั้ง ก่อนสรุปจะสรุปได้ว่าเป็นความขัดแย้งเรื่องส่วนตัวหรือเป็นกรณีพิพาทในพื้นที่ตลาดกันแน่ โดยหลังจากนี้คงจะต้องมีการระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาดูแลรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ตลาดคลองเตยมากขึ้นกว่าเดิมอย่างแน่นอน
