หวิดเกิดโศกนาฏกรรมกลางเมือง เมื่อรถโม่ปูนทีพีไอเกิดเบรกแตกพุ่งชนเสาไฟฟ้าหักสองท่อนก่อนไฟลุกท่วม โชคดีเจ้าหน้าที่ดับเพลิงทันก่อนลามไปยังถังก๊าซ NGV แบบเฉียดฉิว
วันนี้ (6 ก.พ.) เมื่อเวลา 12.30 น. ร.ต.ท.พงษ์ฐกฤต เอื้อประเสริฐ พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.ทองหล่อ รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถโม่ปูนเสียหลักชนเสาไฟฟ้าจนเกิดเพลิงลุกท่วม บริเวณเชิงสะพานมิตรสัมพันธ์ 2 ถนนอโศกมนตรี แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กทม.จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม ร.ต.ท.ดำเนิน คำแสน รอง สว.จร.สน.ทองหล่อ รถดับเพลิงกู้ภัยการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชลแห่งประเทศไทยและรถดับเพลิงสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จำนวน 5 คัน
ที่เกิดเหตุอยู่เชิงสะพานปากทางเข้าสวนอาหารบ้านสวนอโศก ตรงข้ามกับ บมจ.ธนาคารกรุงไทย สาขาอโศก เจ้าหน้าที่พบเพลิงกำลังลุกไหม้หน้ารถโม่ปูน 10 ล้อ ยี่ห้อนิสสัน สีฟ้าขาว หมายเลขทะเบียน72-8825 กทม.ของบริษัท ทีพีไอ คอนกรีต จำกัด ที่ชนอัดก๊อบปี้กับเสาไฟฟ้าขนาดใหญ่ข้างทาง จนทำให้หน้ารถด้านซ้ายยุบและเสาไฟฟ้าขาด 2 ท่อน เจ้าหน้าที่จึงได้กันชาวบ้านให้ออกห่างจุดที่เกิดเหตุ เนื่องจากรถคันดังกล่าวติดแก๊ส NGV และไฟได้ลุกไหม้ลามไปถึงถังที่ติดตั้งอยู่ด้านหลังหัวรถ จำนวน 6 ถัง นอกจากนี้สายไฟฟ้ายังขาดพาดลงมาที่พื้นถนนอีกด้วย จากนั้นรีบใช้น้ำฉีดสกัดเพลิงไหม้ประมาณ 30 นาที จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ เพลิงลุกไหม้เสียหายเฉพาะหัวรถ-ถังก๊าซ NGV และรั้วสังกะสีอีกเพียงเล็กน้อย
จากการสอบสวนนายวินัย ท่ากลอง อายุ 30 ปี ลูกข่ายศูนย์พญาอินทรีย์ รหัส P5078 ผู้เห็นเหตุการณ์ เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุกำลังขับรถจักรยานยนต์ไปทำธุระ โดยขับตามหลังรถโม่ปูนคันดังกล่าว ที่ขับขึ้นสะพานด้วยความเร็ว แต่พอรถลงสะพานจู่ๆ ก็เห็นรถพุ่งเข้าชนเสาไฟฟ้าข้างทางเสียงดังสนั่นหวั่นไหว จากนั้นสักพักก็เห็นคนขับเปิดประตูออกมาพร้อมกับมีเพลิงลุกไหม้หน้ารถอย่างรวดเร็ว ตนจึงแจ้งวิทยุประสานขอรถดับเพลิง
ด้าน นายสัมฤทธิ์ วังอยู่ อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 76 หมู่ 3 ต.กระเบื้องนอก กิ่งอำเภอ เมืองยาง จ.นครราชสีมา โชเฟอร์รถโม่ปูนคันดังกล่าว ได้ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนกำลังขับรถไปส่งปูน น้ำหนักประมาณ 2 ตัน ที่อาคารวิจัยและพัฒนา ภายใน มศว.ประสานมิตร แต่ระหว่างที่กำลังขับลงสะพานรถเกิดเบรกแตก และตนเห็นว่าเชิงทางลงสะพานมีรถยนต์ และ จยย.จอดอยู่ จึงตัดสินใจหักพวงมาลัยเข้าข้างทางจนไปชนกับเสาไฟฟ้าอย่างแรงเป็นผลให้เสาไฟฟ้าหัก และหน้ารถยุบเข้ามาจนถึงคอนโซนหน้า หลังจากนั้นก็เกิดไฟฟ้าช็อตและมีควันพุ่งออกมาจากด้านหน้า ตนจึงรีบหนีออกจากตัวรถ ก่อนที่เพลิงจะลุกไหม้รถอย่างรวดเร็ว จากนั้น ตนจึงโทรศัพท์รายงานกลับไปยังบริษัทให้ทราบ
ด้าน ร.ต.ท.พงษ์ฐกฤต กล่าวว่า หลังจากนี้นำตัวนายสัมฤทธิ์ รวมทั้งพยานที่เกิดเหตุ และพยานแวดล้อม มาทำการสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง พร้อมทั้งจะได้แจ้งข้อหาขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินได้รับความเสียหายกับนายสัมฤทธิ์ไว้ก่อน และให้ประกันของบริษัท ทีพีไอ มาดำเนินการเรื่องค่าเสียหายต่อไป