“พงศพัศ” สั่ง บช.ภ.1 สรุปคดีส่งตรง จี้พนักงานสอบสวน แจงทำคดีเมาแล้วขับใช้ดุลพินิจใดให้ผู้ต้องหาประกันตัว ทั้งที่พบแอลกอฮอลล์ในเลือดสูง ขอบคุณทุกคนที่บริจาคเลือดช่วยลูกน้อง ชี้สิทธิประโยชน์นายดาบได้รับ 400,000 บาท แพทย์เผยอาการ “ด.ต.อนุศักดิ์ ขมิ้นทอง” ต้องตัดขาซ้ายทิ้ง อนาคตต้องใส่ขาเทียม อาการโดยรวมคงที่ ด้านมารดาสุดเสียใจ เตือนสติคนเมาอย่าให้เกิดเหตุซ้ำ
วันนี้ (25 ม.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่โรงพยาบาลตำรวจ พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผช.ผบ.ตร. ในฐานะ โฆษก ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.สมยศ พรหมนิ่ม ผบก.ทล. เดินทางตรวจเยี่ยมอาการบาดเจ็บของ ด.ต.อนุศักดิ์ ขมิ้นทอง อายุ 41 ปี ผบ.หมู่ ส.ทล.1 บก.ทล. จ.พระนครศรีอยุธยา ที่ถูกนายวิชาญ นายสอง อายุ 52 ปี ขับรถกระบะในขณะเมาสุราชนจนขาขาด ระหว่างที่ ด.ต.อนุศักดิ์ ช่วยเหลือผู้ประสบเหตุบนถนนย่านประตูน้ำพระอินทร์ ที่ห้องไอซียู รพ.ตำรวจ โดยวันนี้ ยังคงมีนางอำพร ขมิ้นทอง อายุ 65 ปี มารดา พร้อมลูกชาย ลูกสาวของ ด.ต.อนุศักดิ์ ให้กำลังใจอย่างใกล้ชิด
พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวว่า ขอขอบคุณประชาชนที่ร่วมบริจาคโลหิต กรุ๊ป B RH Nagative ซึ่งมีผู้บริจาคทั้งหมด 50 ราย แต่มีจำนวน 15 รายเท่านั้นที่เป็นกรุ๊ป B RH Nagative และทางแพทย์ได้สต๊อกไว้เพียงพอแล้ว แต่พบว่ามีผู้โทรศัพท์เข้ามาบริจาคอีก 25 ราย ทางโรงพยาบาลจะจดรายชื่อไว้ หากต้องการเลือดอีกจะประสานต่อไป นอกจากนี้ ขอขอบคุณประชาชนที่โทรศัพท์มาให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ต้องสูญเสียขาจากการปฎิบัติหน้าที่
สำหรับคดีนี้ ล่าสุดพบว่าทางพนักงานสอบสวนได้อนุญาตให้นายวิชาญประกันตัวไป ตนได้สั่งการให้ บช.ภ.1 สรุปรายละเอียดมายังตน และจะสอบถามไปยังพนักงานสอบสวนด้วยว่า ใช้ดุลพินิจอย่างไรจึงให้ประกันตัวผู้ต้องหา เนื่องจากนายวิชาญมีแอลกอฮอลล์ในเลือดสูงเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด และขับรถชนเจ้าหน้าที่ตำรวจอีก
ด้าน นพ.ราชิต ฮากิม ศัลยแพทย์ รพ.ตำรวจ กล่าวถึงอาการของ ด.ต.อนุศักดิ์ ว่า ขาซ้ายของผู้ป่วยนั้นต้องตัดทิ้ง ซึ่งในอนาคตจะต้องใส่ขาเทียม ส่วนขาขวานั้นพบว่ามีกระดูกแตก เส้นเสือดขาดไป 2 เส้น แต่ยังเหลืออีก 1 เส้นที่ยังสามารถลำเลียงเลือดไปเลี้ยงได้ นอกจากนี้พบว่า บริเวณท้องมีเยื่อหุ้มลำไส้ฉีกขาด และเลือดออก ซึ่งล่าสุดเลือดหยุดแล้ว อาการโดยรวมจึงคงที่
“แพทย์จะยังคงดูอาการของขาขวาอีก 3-5 วัน จึงจะสามารถบอกได้ว่ามีปัญหาอย่างไร รวมถึงระวังอาการติดเชื้อ หากไม่มีปัญหาจะทำการตกแต่ง รักษาบาดแผล และสามารถใช้งานได้ปกติ” นพ. ราชิต กล่าว
ด้าน นางอำพร มารดาของ ด.ต.อนุศักดิ์ กล่าวว่า ขอบคุณผู้บังคับบัญชาของลูกชายที่ให้ความห่วงใยใส่ใจ มาดูแลเรื่องสวัสดิการและกำลังใจ ส่วนตัวเสียใจที่ลูกชายเป็นอย่างนี้ อยากบอกคนที่เมาแล้วขับรถชนลูกชายว่าอย่าทำอีก ส่วนลูกชายเป็นลูกคนที่ 2 ในบรรดา 4 คน นับเป็นเสาหลักของครอบครัวของเขา และตั้งแต่ตนขาดสามีไป เขาก็ดูแลแม่ด้วย
“แม่จะพักอยู่อุบลฯ เมื่อรู้ว่าลูกเป็นตำรวจก็บอกตลอดว่าให้ดูแลตัวเอง แต่เขามีอะไรไม่ค่อยบอกแม่ อย่างตอนที่ขับจักรยานยนต์สายตรวจล้มเขาก็ไม่บอกแม่ เหตุนี้อีกเกิดเหตุตอนตี 1 แม่รู้ตอนตี 3 แม่ตกใจ วันเกิดแม่วันที่ 28 ก.พ. ปกติเขาจะเป็นแม่งานจัดให้ทุกปี ปีนี้ต้องดูว่าเป็นอย่างไร” นางอำพรกล่าว
สำหรับสิทธิประโยชน์ที่ ด.ต.อนุศักดิ์ได้รับ มีเงินช่วยเหลือจากมูลนิธิสงเคราะห์ของ ตร. กรณีขาขาด 1 ข้าง ได้รับเงิน 100,000 บาท เงินช่วยเหลือจากมูลนิธิสงเคราะห์ข้าราชการตำรวจและครอบครัว จำนวน 50,000 บาท เงินช่วยเหลือและเสริมสร้างประสิทธิภาพในการปฎิบัติงานของข้าราชการตำรวจ บช.ก. 20,000 บาท เงินช่วยหลือสวัสดิการ บช.ก.5,000 บาท ได้รับความชอบกรณีพิเศษ กรณีออกจากราชการได้ 3 ขั้น และ 3 ชั้นยศ และสหกรณ์ตำรวจทางหลวง 225,000 บาท รวมเบื้องต้น 400,000 บาท
ด้าน พ.ต.อ.มงคล วรุณโณ ผกก.สภ.วังน้อย จ.อยุธยา กล่าวว่า จากกรณีที่ทางตำรวจท้องที่ ได้ให้ประกันตัว ผู้ต้องหาคดีชน ด.ต.อนุศักดิ์ ขมิ้นทอง ตร.ทล. จนขาขาดนั้น เพราะผู้ต้องหามีหลักทรัพย์มายื่นประกันตัวและพิจารณาแล้ว ไม่มีพฤติกรรมหลบหนี จึงอนุมัติให้ประกันตัวไป และเมื่อเช้าวันนี้ทางผู้ต้องหา ก็ได้เดินทางมาขึ้นศาลรับทราบข้อหาเมาแล้วขับที่ศาลจังหวัดอยุธยาแล้ว ส่วนคดีขับรถโดยประมาทจนทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัสนั้น ต้องรอผู้เสียหายมาเจรจาและตกลงกันก่อน แต่ยืนยันว่าตำรวจทำไปตามหน้าที่อย่างดีที่สุด
พ.ต.อ.มงคล กล่าวต่อว่า ไม่ทราบเรื่อง ที่ว่าทางผู้บังคับบัญชา ให้ตนมาชี้แจงเรื่องการอนุมัติประกันตัวผู้ต้องหาในคดีนี้ ทั้งที่เป็นคดีอุกฉกรรจ์ ทำไมคัดค้านการประกันตัวแต่ก็พร้อมชี้แจงทุกเรื่อง
วอนผู้ใจบุญบริจาคโลหิตช่วยชีวิตนายดาบเหยื่อเมาแล้วขับ
วันนี้ (25 ม.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่โรงพยาบาลตำรวจ พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผช.ผบ.ตร. ในฐานะ โฆษก ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ต.สมยศ พรหมนิ่ม ผบก.ทล. เดินทางตรวจเยี่ยมอาการบาดเจ็บของ ด.ต.อนุศักดิ์ ขมิ้นทอง อายุ 41 ปี ผบ.หมู่ ส.ทล.1 บก.ทล. จ.พระนครศรีอยุธยา ที่ถูกนายวิชาญ นายสอง อายุ 52 ปี ขับรถกระบะในขณะเมาสุราชนจนขาขาด ระหว่างที่ ด.ต.อนุศักดิ์ ช่วยเหลือผู้ประสบเหตุบนถนนย่านประตูน้ำพระอินทร์ ที่ห้องไอซียู รพ.ตำรวจ โดยวันนี้ ยังคงมีนางอำพร ขมิ้นทอง อายุ 65 ปี มารดา พร้อมลูกชาย ลูกสาวของ ด.ต.อนุศักดิ์ ให้กำลังใจอย่างใกล้ชิด
พล.ต.ท.พงศพัศ กล่าวว่า ขอขอบคุณประชาชนที่ร่วมบริจาคโลหิต กรุ๊ป B RH Nagative ซึ่งมีผู้บริจาคทั้งหมด 50 ราย แต่มีจำนวน 15 รายเท่านั้นที่เป็นกรุ๊ป B RH Nagative และทางแพทย์ได้สต๊อกไว้เพียงพอแล้ว แต่พบว่ามีผู้โทรศัพท์เข้ามาบริจาคอีก 25 ราย ทางโรงพยาบาลจะจดรายชื่อไว้ หากต้องการเลือดอีกจะประสานต่อไป นอกจากนี้ ขอขอบคุณประชาชนที่โทรศัพท์มาให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ต้องสูญเสียขาจากการปฎิบัติหน้าที่
สำหรับคดีนี้ ล่าสุดพบว่าทางพนักงานสอบสวนได้อนุญาตให้นายวิชาญประกันตัวไป ตนได้สั่งการให้ บช.ภ.1 สรุปรายละเอียดมายังตน และจะสอบถามไปยังพนักงานสอบสวนด้วยว่า ใช้ดุลพินิจอย่างไรจึงให้ประกันตัวผู้ต้องหา เนื่องจากนายวิชาญมีแอลกอฮอลล์ในเลือดสูงเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด และขับรถชนเจ้าหน้าที่ตำรวจอีก
ด้าน นพ.ราชิต ฮากิม ศัลยแพทย์ รพ.ตำรวจ กล่าวถึงอาการของ ด.ต.อนุศักดิ์ ว่า ขาซ้ายของผู้ป่วยนั้นต้องตัดทิ้ง ซึ่งในอนาคตจะต้องใส่ขาเทียม ส่วนขาขวานั้นพบว่ามีกระดูกแตก เส้นเสือดขาดไป 2 เส้น แต่ยังเหลืออีก 1 เส้นที่ยังสามารถลำเลียงเลือดไปเลี้ยงได้ นอกจากนี้พบว่า บริเวณท้องมีเยื่อหุ้มลำไส้ฉีกขาด และเลือดออก ซึ่งล่าสุดเลือดหยุดแล้ว อาการโดยรวมจึงคงที่
“แพทย์จะยังคงดูอาการของขาขวาอีก 3-5 วัน จึงจะสามารถบอกได้ว่ามีปัญหาอย่างไร รวมถึงระวังอาการติดเชื้อ หากไม่มีปัญหาจะทำการตกแต่ง รักษาบาดแผล และสามารถใช้งานได้ปกติ” นพ. ราชิต กล่าว
ด้าน นางอำพร มารดาของ ด.ต.อนุศักดิ์ กล่าวว่า ขอบคุณผู้บังคับบัญชาของลูกชายที่ให้ความห่วงใยใส่ใจ มาดูแลเรื่องสวัสดิการและกำลังใจ ส่วนตัวเสียใจที่ลูกชายเป็นอย่างนี้ อยากบอกคนที่เมาแล้วขับรถชนลูกชายว่าอย่าทำอีก ส่วนลูกชายเป็นลูกคนที่ 2 ในบรรดา 4 คน นับเป็นเสาหลักของครอบครัวของเขา และตั้งแต่ตนขาดสามีไป เขาก็ดูแลแม่ด้วย
“แม่จะพักอยู่อุบลฯ เมื่อรู้ว่าลูกเป็นตำรวจก็บอกตลอดว่าให้ดูแลตัวเอง แต่เขามีอะไรไม่ค่อยบอกแม่ อย่างตอนที่ขับจักรยานยนต์สายตรวจล้มเขาก็ไม่บอกแม่ เหตุนี้อีกเกิดเหตุตอนตี 1 แม่รู้ตอนตี 3 แม่ตกใจ วันเกิดแม่วันที่ 28 ก.พ. ปกติเขาจะเป็นแม่งานจัดให้ทุกปี ปีนี้ต้องดูว่าเป็นอย่างไร” นางอำพรกล่าว
สำหรับสิทธิประโยชน์ที่ ด.ต.อนุศักดิ์ได้รับ มีเงินช่วยเหลือจากมูลนิธิสงเคราะห์ของ ตร. กรณีขาขาด 1 ข้าง ได้รับเงิน 100,000 บาท เงินช่วยเหลือจากมูลนิธิสงเคราะห์ข้าราชการตำรวจและครอบครัว จำนวน 50,000 บาท เงินช่วยเหลือและเสริมสร้างประสิทธิภาพในการปฎิบัติงานของข้าราชการตำรวจ บช.ก. 20,000 บาท เงินช่วยหลือสวัสดิการ บช.ก.5,000 บาท ได้รับความชอบกรณีพิเศษ กรณีออกจากราชการได้ 3 ขั้น และ 3 ชั้นยศ และสหกรณ์ตำรวจทางหลวง 225,000 บาท รวมเบื้องต้น 400,000 บาท
ด้าน พ.ต.อ.มงคล วรุณโณ ผกก.สภ.วังน้อย จ.อยุธยา กล่าวว่า จากกรณีที่ทางตำรวจท้องที่ ได้ให้ประกันตัว ผู้ต้องหาคดีชน ด.ต.อนุศักดิ์ ขมิ้นทอง ตร.ทล. จนขาขาดนั้น เพราะผู้ต้องหามีหลักทรัพย์มายื่นประกันตัวและพิจารณาแล้ว ไม่มีพฤติกรรมหลบหนี จึงอนุมัติให้ประกันตัวไป และเมื่อเช้าวันนี้ทางผู้ต้องหา ก็ได้เดินทางมาขึ้นศาลรับทราบข้อหาเมาแล้วขับที่ศาลจังหวัดอยุธยาแล้ว ส่วนคดีขับรถโดยประมาทจนทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัสนั้น ต้องรอผู้เสียหายมาเจรจาและตกลงกันก่อน แต่ยืนยันว่าตำรวจทำไปตามหน้าที่อย่างดีที่สุด
พ.ต.อ.มงคล กล่าวต่อว่า ไม่ทราบเรื่อง ที่ว่าทางผู้บังคับบัญชา ให้ตนมาชี้แจงเรื่องการอนุมัติประกันตัวผู้ต้องหาในคดีนี้ ทั้งที่เป็นคดีอุกฉกรรจ์ ทำไมคัดค้านการประกันตัวแต่ก็พร้อมชี้แจงทุกเรื่อง
วอนผู้ใจบุญบริจาคโลหิตช่วยชีวิตนายดาบเหยื่อเมาแล้วขับ
