“อธิบดีอัยการต่างประเทศ” ชี้หากอัยการสหรัฐฯ ต้องการตัว “จุฑามาศ ศิริวรรณ” ไปดำเนินคดีต้องยื่นคำร้องผ่านอัยการสูงสุดตรวจสอบข้อหา ถ้าเข้าหลักเกณฑ์สามารถยื่นคำร้องศาลส่งตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดน
วันนี้ (21 ม.ค.) นายศิริศักดิ์ ติยะพรรณ อธิบดีอัยการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีที่อัยการสหรัฐอเมริกา สั่งฟ้อง นางจุฑามาศ ศิริวรรณ อดีตผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ในคดีรับสินจำนวน 1 ล้าน 8 แสนดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 60 ล้าน 3 แสน บาท จากนายเจอรัลด์ และนางแพทริเซีย กรีน สามีภรรยาผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์ชาวสหรัฐฯ เพื่อนำภาพยนตร์เข้าฉายในเทศกาลภาพยนตร์บางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล ฟิล์ม เฟสติวัล 2007 ว่า หากอัยการสหรัฐฯ ต้องการตัวนางจุฑามาศไปดำเนินคดีก็จะต้องยื่นคำร้องมาที่อัยการสูงสุด ในฐานะผู้ประสานงานกลาง ตามสนธิสัญญาความร่วมมือในคดีอาญาระหว่างประเทศ และ พ.ร.บ.ส่งผู้ร้ายข้ามแดน พ.ศ.2551 ซึ่งจะต้องพิจารณาดูว่าอัยการสหรัฐฯ บรรยายคำร้องว่านางจุฑามาศ กระทำผิดอย่างไร และถูกตั้งข้อหาใดบ้าง จากนั้นอัยการไทยต้องพิจารณาต่อไปว่าคำร้องนั้นเข้าหลักเกณฑ์ ที่เป็นความผิดของทั้งสองประเทศหรือไม่ มีโทษจำคุกเกินกว่า 1 ปี หรือไม่ เป็นคดีการเมือง หรือทางทหารหรือเป็นคดีที่กระทบกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือไม่
“หากอัยการสหรัฐฯ ยื่นคำร้องถูกต้องครบถ้วน อัยการไทยก็พร้อมดำเนินการให้ โดยหากเข้าหลักเกณฑ์ตามสนธิสัญญาฯ ขั้นตอนต่อไปอัยการก็จะยื่นคำร้องต่อศาลให้ออกหมายจับเพื่อส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน ซึ่งผู้ถูกกล่าวหาสามารถแต่งตั้งทนายความต่อสู้คดีได้ อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ยังไม่ทราบว่าที่อัยการสหรัฐฯ ตั้งข้อหาอะไรกับนางจุฑามาศ เป็นคดีเดียวกันกับที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. เคยยื่นเรื่องให้ทางอัยการประสานขอข้อมูลจากสหรัฐฯมาดำเนินคดีกับนางจุฑามาศ ฐานรับสินบนหรือไม่ โดยคดีนั้นทางอัยการก็ได้ยื่นคำร้องไปยังสหรัฐฯแล้ว แต่ยังไม่ได้รับข้อมูลหลักฐาน ซึ่งถ้าหากเป็นคดีเดียวกันเชื่อว่าไม่น่าจะมีความยุ่งยาก ” นายศิริศักดิ์กล่าว