“ปทีป” ย้ำชัดเหตุยิงระเบิดเอ็ม 79 ถล่มใส่ห้องทำงาน “อนุพงษ์” ถือว่าเป็นพื้นที่ทหารดูแล ตำรวจดูบริเวณรอบนอกคงไปยุ่งเกี่ยวไม่ได้ แต่หากได้รับการประสานขอความร่วมมือก็ยินดี จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการขอกำลังดูแลพิเศษ ขณะเดียวกัน “ปทีป” ยังรอมติ ก.ตร.ก่อนพิจารณาขั้นตอนทางวินัย “สุชาติ-เพิ่มศักดิ์”
วันนี้ (21 ม.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รรท.ผบ.ตร. กล่าวถึงกรณีเหตุอุกอาจลอบยิงระเบิด M-79 ถล่มห้องทำงาน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ภายในกองบัญชาการกองทัพบก เมื่อกลางดึกคืนวันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมาว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในพื้นที่ทหารตำรวจคงไปยุ่งเกี่ยวไม่ได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ทางทหารเขาดำเนินการเอง แต่หากมีการขอความร่วมมือให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปตรวจสอบทางตำรวจก็ยินดี แต่ตอนนี้ยังไม่มีการขอความร่วมมือมา และยังไม่มีการขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจไปดูแลเป็นพิเศษ
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจจะคอยดูแลพื้นที่บริเวณรอบนอกเป็นพิเศษ เพราะเป็นหน้าที่ของตำรวจโดยเฉพาะ ส่วนพื้นที่ภายในเป็นเขตทหารเราจะเข้าไปดูคงไม่ได้
พล.ต.อ.ปทีป กล่าวต่อว่า สำหรับการดูแลบ้านบุคคลสำคัญนั้นต้องดำเนินการอยู่แล้ว เพราะเป็นหน้าที่ที่ต้องทำ ซึ่งที่ผ่านมามีการดูแลบ้านบุคคลสำคัญเป็นพิเศษอยู่แล้ว เมื่อเกิดเหตุลักษณะนี้ขึ้นต้องกำชับเจ้าหน้าที่ให้เข้มงวดในการดูแลความเรียบร้อยมากขึ้นไปอีก
เมื่อถามว่าการข่าวตำรวจทราบมาก่อนหรือไม่ว่าจะเกิดเหตุลักษณะนี้ พล.ต.อ.ปทีป กล่าวว่า เป็นคำถามที่ตอบได้ยาก
นอกจากนี้ พล.ต.อ.ปทีป กล่าวถึงมติ ที่ประชุม ก.ตร.ที่เห็นว่า พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร. พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว อดีตผบช.ภ.4 พล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ ภราดรศักดิ์ อดีตผบก.จว.อุดรธานี อุทธรณ์ฟังขึ้นให้กลับเข้ารับราชการได้ ว่า เรื่องนี้จะต้องรอมติที่ประชุมก.ตร.ครั้งที่ผ่านมา ส่งมายังตนก่อน ซึ่งหลังจากได้รับมติที่ประชุม ก.ตร. ตนจะไปดูขั้นตอนการดำเนินการทางวินัยว่าจะต้องดำเนินการอย่างไรได้บ้าง
ส่วนเรื่องจะรับ พล.ต.ท.สุชาติ และพล.ต.ต.เพิ่มศักดิ์ กลับมารับราชการได้เลยหรือไม่นั้น คงยังตอบไม่ได้ตอนนี้ ต้องมาดูขั้นตอนทางวินัยก่อนว่าจะทำอะไรได้แค่ไหน ถึงตอนนี้ตนยังไม่ได้รับมติ ก.ตร.เลย หลังจากได้รับมติ ก.ตร. คงต้องใช้เวลาสักระยะในการดำเนินการพิจารณาเรื่องนี้