รวบหนุ่มสุราษฎร์ธานีพกปืนลูกซอง กระสุนเต็มรังเพลิงพร้อมใช้งาน ขณะตำรวจขอตรวจค้นกลับชักบัตรเจ้าหน้าที่ กอ.รมน.ปลอมเบ่งขู่ ค้นประวัติเจอหมายจับติดตัวอีกเพียบ รับมีอาชีพรับจ้างเฝ้าสวนที่บ้านเกิด มาซื้อปืนเมืองกรุง หวังค้ากำไรเตรียมส่งลูกค้า 3 จังหวัดชายแดนใต้ อีกรายจับสาวใหญ่ทำตัวเป็น 18 มงกุฎ หลอกเหยื่อต่างชาติรูดทรัพย์ตามเกสต์เฮ้าส์
วันนี้ (13 ม.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 พร้อมด้วย พ.ต.อ.วีรวิทย์ จันทร์จำเริญ รองผบก.น.1 ร่วมกันแถลงข่าวผลงานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.มักกะสัน จับกุมตัว นายสุพัฒน์ ชนะกุล อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 71 หมู่ 3 ต.ลำพูน อ.บ้านนาสาน จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมของกลางอาวุธปืนลูกซองปั๊มแอคชั่นยี่ห้อ STEVERNS รุ่น 77 E ไม่มีหมายเลขทะเบียน จำนวน 1 กระบอก ลูกกระสุนปืนลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 8 นัด รถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า สีขาว ทะเบียน กจ 8720 สุราษฎร์ธานี 1 คัน และ บัตรเจ้าหน้าที่กองอำนวยการรักษาความมั่งคงภายใน (กอ.รมน.) ซึ่งทำปลอมขึ้นมาอีก 1 ใบ โดยจับกุมตัวได้ขณะที่ผู้ต้องหาขับรถผ่านด่านตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.มักกะสัน ช่วงบริเวณแยกเอกมัยเหนือ ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กทม.
พล.ต.ต.วิชัย กล่าวว่า การจับกุมในครั้งนี้สืบเนื่องจาก เมื่อเวลา 02.00 น. ที่ผ่านมา ขณะที่ตำรวจ สน.มักกะสัน ตั้งด่านตรวจค้นสิ่งผิดกฎหมายอยู่ที่แยกดังกล่าว ปรากฏว่า นายสุพัฒน์ ผู้ต้องหารายนี้ได้ขับรถเก๋งของกลางแล่นผ่านเข้ามาในด่าน โดยพาเพื่อนโดยสารมาด้วยอีก 2 คน แต่ระหว่างที่รถกำลังแล่นผ่านไปนั้น เพื่อนๆ ของนายสุพัฒน์ กลับมีพฤติกรรมส่อพิรุธน่าสงสัย เจ้าหน้าที่จึงรีบเรียกให้หยุดรถเพื่อขอตรวจค้น พบอาวุธปืนลูกซองวางอยู่บนตักของนายสุพัฒน์ ในสภาพพร้อมใช้งานเนื่องจากมีกระสุนบรรจุอยู่ในรังเพลิงเต็ม 5 นัด นอกจากนี้ยังพบเครื่องกระสุนขนาดเดียวกันซุกซ่อนอยู่ในช่องเก็บของภายในรถอีก 3 นัด จากนั้นตำรวจได้พยายามเชิญตัวนายสุพัฒน์ ไปสอบสวนที่โรงพักแต่เจ้าตัวกลับชักบัตรเจ้าหน้าที่ กอ.รมน.ออกมาเบ่ง แต่เมื่อทำการตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นบัตรปลอม จึงจับใส่กุญแจมือพร้อมควบคุมตัวไปสอบสวนที่ สน.มักกะสันในทันที
“ส่วนผลการตรวจสอบประวัติของนายสุพัฒน์ ผู้ต้องหารายนี้ยังพบว่า มีหมายจับศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานี เลขที่ 28/2552 ลงวันที่ 19 ม.ค.52 ข้อหาพยายามฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งปฏิบัติการตามหน้าที่ ในท้องที่ สภ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี อีก 1 คดี ชุดจับกุมจึงแจ้งข้อหามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไปในเมือง หมู่บ้านทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวนดำเนินการตามกฎหมาย และจะประสานให้ร้อยเวรเจ้าของคดีที่ สภ.เวียงสระ เดินทางมาอายัดตัวไปดำเนินคดีตามหมายจับต่อไป” พล.ต.ต.วิชัย กล่าว
จากการสอบสวน นายสุพัฒน์ ให้การว่า ตนมีอาชีพรับจ้างเฝ้าสวนอยู่ที่ จ.สุราษฎร์ธานี บ้านเกิด โดยก่อนเกิดเหตุได้ชักชวนเพื่อนเดินทางมาซื้ออาวุธปืนลูกซองกระบอกดังกล่าว พร้อมเครื่องกระสุนจากคนรู้จักที่กรงุเทพฯ ในราคา 9,000 บาท โดยตนอ้างกับเจ้าของปืนว่า จะนำไปป้องกันตัวตอนเฝ้าสวนยามค่ำคืน แต่แท้จริงแล้วตนกำลังขับรถพาเพื่อนอีก 2 คน ลงไปในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อนำปืนกระบอกนี้ไปขายต่อให้ลูกค้าในราคา 15,000 บาท แต่ยังไม่ทันขับรถพ้นเขตกรุงเทพฯ ก็โดนตำรวจ สน.มักกะสัน ตรวจพบและจับกุมเอาไว้ได้ก่อน ส่วนบัตร กอ.รมน.ปลอมนั้นมีเพื่อนอีกคนเป็นผู้ทำให้ไว้ใช้เบ่งกับตำรวจเวลาขับรถเข้าด่านเท่านั้น
อีกราย พ.ต.อ.ขิง แขวงวิเศษชัยชาญ ผกก.สน.ชนะสงคราม ได้นำกำลังเข้าจับกุมตัว นางพัทราวดี จุลปะ อายุ 33 ปี พร้อมของกลาง เงินสกุลไทย 16,020 บาท เงินสกุลยูโร 70 ยูโร สารเคมีคล้ายยานอนหลับห่อใส่ทิชชู 1 ก้อน และ บัตรเอทีเอ็มกับเอกสารสำคัญของนักท่องเที่ยวที่ตกเป็นผู้เสียหายอีกหลายรายการ โดยจับกุมตัวได้ภายในห้องพักเลขที่ 201 สไมล์เกสต์เฮ้าส์ ท้องที่ สน.ชนะสงคราม
พ.ต.อ.ขิง เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 04.30 น.ที่ผ่านมา มีสายลับโทรศัพท์มาแจ้งกับตำรวจ สน.ชนะสงคราม ว่า พบ นางพัทราวดี ซึ่งมีพฤติกรรมน่าสงสัยเข้าข่ายพวก 18 มงกุฏ ชวนนักท่องเที่ยวชายชาวต่างชาติเข้าไปนอนพักที่เกสต์เฮ้าส์ดังกล่าว ตนจึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนรีบเดินทางไปตรวจสอบ พบว่า นางพัทราวดี กำลังเก็บข้าวของเตรียมหลบหนีออกจากห้อง โดยมี นายดัลลัส ไซม่อน เอ็มมานูเอล ชาวฝรั่งเศส นอนหมดสติอยู่บนที่นอน ส่วนสภาพภายในห้องพักพบขวดเบียร์ช้าง และแก้วเปล่าที่มีคราบผงสีขาวเปรอะเปื้อนวางอยู่ 1 ใบ ที่ปลายเตียงนอนพบก้อนกระดาษทิชชูห่อสารเคมีสีขาวคล้ายยานอนหลับตกอยู่ เจ้าหน้าที่จึงขอค้นตัวนางพัทราวดี พบเงินของกลางและเอกสารสำคัญทั้งของนายดัลลัส และผู้เสียหายรายอื่นซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าสตางค์จำนวนมาก จึงควบคุมตัวมาสอบสวนที่ สน.ชนะสงคราม
จากการสอบสวน นางพัทราวดี ให้การว่า ตระเวนล่อลวงนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติไปมอมยารูดทรัพย์มาหลายครั้งแล้ว โดยจะเลือกเหยื่อตามแหล่งท่องเที่ยวใน จ.ระยอง จ.ประจวบคีรีขันธ์ และถนนข้าวสาร เมื่อได้เงินและบัตรเอทีเอ็มมาก็จะนำไปกดเป็นเงินสดออกมาใช้ ส่วนเอกสารสำคัญที่เก็บเอาไว้นั้นมีไว้ใช้เพื่อแอบอ้างตัวเมื่อจำเป็น
สำหรับผู้เสียหายรายล่าสุดนี้ตนไปหลอกมาจากสถานบันเทิงแห่งหนึ่งบนถนนข้าวสารก่อนพามาที่เกสต์เฮ้าส์ และผสมยานอนหลับบดละเอียดจำนวน 2 เม็ด ใส่ในแก้วเบียร์ให้กิน เมื่อเหยื่อหมดสติก็ทำการรูดทรัพย์ ซึ่งกำลังจะหลบหนี แต่ถูกเจ้าหน้าที่บุกเข้าไปจับกุมตัวได้เสียก่อน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้แจ้งข้อหาแก่นางพัทราวดี ว่า ชิงทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ, ปลอมและใช้เอกสารปลอมในประการที่น่าจะเกิดอันตรายแก่ผู้เสียหายหรือประชาชน และ ใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบฯ ก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป