ตำรวจ ปส.จับกุมแก๊งค้าเหล้าเถื่อน แฉพฤติการณ์สุดแสบเอาเหล้าผสมน้ำเปล่าเพิ่มปริมาณก่อนบรรจุขวดออกขายใหม่ฟันกำไร อีกรายรวบแก๊งขนยาจากเหนือลงใต้ ได้ยาบ้าของกลางกว่า 1 หมื่นเม็ด
วานนี้ (12 ม.ค.) เมื่อเวลา 07.30 น. พล.ต.ท.อติเทพ ปัญจมานนท์ ผบช.ปส. พล.ต.ต.หาญพล นิตย์วิบูลย์ รอง ผบช.ปส. พล.ต.ต.สรศักดิ์ เย็นเปรม ผบก.ปส.2 พ.ต.อ.ทนงศักดิ์ ทั่งทอง รอง ผบก.ปส.2 พ.ต.อ.สายัณห์ ปาลวัฒน์ ผกก.2 บก.ปส.2 พร้อมเจ้าหน้าที่ บก.ปส.2 และ เจ้าหน้าที่สรรพสามิตชำนาญงาน ร่วมกันจับกุมนายวิศรุต เนื่องพระจันทร์ อายุ 26 ปี นายศิลาชัย พวงเพชร อายุ 21 ปี นายเทศกิจ โข้บุรี อายุ 22 ปี น.ส.อุไรวรรณ มาตกุล อายุ 24 ปี และ น.ส.ทองพูน เพชรวิเศษ อายุ 28 ปี
โดยจับกุมได้พร้อมของกลางรถกระบะยี่ห้อนิสสัน บิ๊กเอ็ม สีเทาดำ หมายเลขทะเบียน ฬจ-3651 กทม. สุรายี่ห้อ เบลนด์ 285 (BLEND 285) จำนวน 144 ขวด สุรายี่ห้อ 100 PIPERS 144 ขวด ขวดสุราเปล่ายี่ห้อ 100 PIPERS จำนวน 62 ขวด ขวดสุราเปล่ายี่ห้อรีเจนซี่ 89 ขวด ขวดสุราเปล่ายี่ห้อหงส์ทอง 48 ขวด ถังน้ำขนาด 20 ลิตร จำนวน 1 ถัง เครื่องปั้มออกซิเจน จำนวน 1 เครื่อง เครื่องมือยิงกาว 1 เครื่อง สายยาง 2 เส้น ไขควง 3 ตัว กรวยน้ำสีฟ้า จำนวน 2 อัน ฝาสุรา พร้อมแสตมป์ ยี่ห้อ เบรน 285 จำนวน 13 ฝา ฝาสุรา พร้อมแสตมป์ ยี่ห้อ รีเจนซี่ จำนวน 6 ฝา และแสตมป์สุราพิเศษ จำนวน 3 ดวง
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้ตั้งด่านตรวจค้นรถยนต์บริเวณด่านตรวจยานพาหนะสีคิ้ว ถนนมิตรภาพ ต.ลาดบัวขาว อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา เพื่อสกัดกั้นการลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือเข้าสู่พื้นที่ปริมณฑล และเขต กทม. ตั้งแต่เวลา 05.00 น.ที่ผ่านมา จนกระทั่งเวลาประมาณ 07.30 น.ก็พบรถกระบะคันดังกล่าว ขับมาจาก อ.สีคิ้ว มุ่งหน้าเข้า กทม.
เมื่อมาถึงบริเวณหน้าด่านตรวจ เจ้าหน้าที่จึงเรียกให้หยุดเพื่อทำการตรวจค้น โดยในรถคันดังกล่าวมีนายวิศรุต เป็นผู้ขับขี่ และมี น.ส.อุไรวรรณ นั่งมาคู่กัน ส่วนนายเทศกิจ นายศิลาชัย และ น.ส.ทองพูน นั่งอยู่เบาะนั่งหลังคนขับ และเมื่อเจ้าหน้าที่ทำการตรวจค้นภายในรถก็พบของกลางจำนวนดังกล่าวซุกซ่อนอยู่บริเวณท้ายรถ เจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดทั้งหมดไว้เป็นของกลาง พร้อมควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดมาทำการสอบปากคำ
จากการสอบสวน นายวิศรุตให้การรับสารภาพว่าพวกตนจะเอานำสุรามาผสมกับน้ำเปล่าและสีผสมอาหารเพื่อเพิ่มปริมาณสุรา แล้วนำกลับมาบรรจุใส่ขวดสุราเปล่าเพื่อนำออกขายให้กับลูกค้า กระทั่งมาถูกจับกุมได้ดังกล่าว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา ร่วมกันทำสุราที่รู้ว่าฝ่าฝืนกฎหมายโดยไม่ได้รับอนุญาตและจำหน่ายสุราที่ทำ, ร่วมกันมีแสตมป์สุราที่ใช้แล้วใช้อีกโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันมีสุราไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนนำตัวส่ง พนักงานสอบสวน สภ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ท.อติเทพ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้เมื่อเวลาประมาณ 06.00 น.ของวานนี้ (11 ม.ค.) พล.ต.ต.หาญพล นิตย์วิบูลย์ รอง ผบช.ปส. พล.ต.ต.ชินภัทร สารสิน ผบก.ปส.3 พ.ต.อ.พรชัย เจริญวงศ์ รอง ผบก.ปส.3 พ.ต.ท.อรุณ วชิรศรีสุกัญยา สว.กก.1 บก.ปส.4 พร้อมเจ้าหน้าที่ บก.ปส.3 ร่วมกันทำการจับกุมนายปฐม ทองนาค อายุ 33 ปี น.ส.อรณี ลิ้มประเสริฐ อายุ 17 ปี นายอนุศักดิ์ โกรุ่งรัตน์ อายุ 17 ปี นายเอกลักษณ์ โกรุ่งรัตน์ อายุ 26 ปี นายสุวรรณ ทองนาค อายุ 27 ปี นายอุบล ตั้งศรีเจริญ อายุ 51 ปี นายสุบดี ทิพยรักษ์ อายุ 47 ปี นางชโนทัย โพธิจักร อายุ 39 ปี นางขนิษฐา ทองเหียง อายุ 25 ปี นายประสาน ปั้นไพบูลย์ อายุ 39 ปี ฃ
โดยจับกุมได้พร้อมของกลางยาบ้า 13,445 เม็ด รถเก๋งยี่ห้อเชฟโรเรต สีดำ หมายเลขทะเบียน ฎก-9240 กทม.จำนวน 1 คัน รถแท็กซี่ยี่ห้อโตโยต้า สีชมพู หมายเลขทะเบียน ทล-7238 กทม.จำนวน 1 คัน รถเก๋ง ยี่ห้อนิสสัน สีดำ หมายเลขเลขทะเบียน กค-5027 ประจวบคีรีขันธ์ จำนวน 1 คัน และโทรศัพท์มือถือ 9 เครื่อง
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจากเจ้าหน้าที่สืบสวนทราบได้ว่ามีกลุ่มผู้ลักลอบจำหน่ายยาเสพติดของ นางอัมพร หล่อวิไล จากทางภาคเหนือ นำไปจำหน่ายทางภาคใต้ โดยใช้รถเก๋งยี่ห้อเชฟโรเรต สีดำ เป็นพาหนะลำเลียงยาเสพติด และจะวิ่งผ่านด่านตรวจพยุหะคีรี ในวันที่ 11 ม.ค.53 เวลาประมาณ 05.00-08.00 น. เจ้าหน้าที่จึงได้ร่วมกันตั้งด่านตรวจค้นบริเวณดังกล่าวเพื่อสกัดจับ
จนกระทั่งเวลาประมาณ 06.00 น.ก็พบรถเก๋งยี่ห้อเชฟโลเรต สีดำ หมายเลขทะเบียน ฎก-9240 กทม.ตรงกับที่สายแจ้งมา ขับขี่ลักษณะท่าทางมีพิรุธจึงได้เรียกให้หยุดเพื่อตรวจค้น ก็พบนายเอกลักษณ์เป็นคนขับ และมี นายปฐม น.ส.อรณี นายอนุศักดิ์ นายสุวรรณ นั่งอยู่ภายใน จากการตรวจค้นก็ยาบ้าจำนวนดังกล่าวซุกซ่อนอยู่ แต่ระหว่างตรวจค้น นายสุวรรณได้หลบหนีไป เจ้าหน้าที่ได้ติดตามตัวจนสามารถจับกุมตัวได้ที่ หมู่ 7 ต.ย่านมัทรี อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ หลังจากนั้นก็ขยายผลจับกุมผู้ต้องหาที่เหลือ ก่อนนำตัวทั้งหมดไปดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ก่อนส่งตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป