xs
xsm
sm
md
lg

รวบโจรฆ่าชิงเงิน-รถกระบะ หนีมาเป็นยามในเมืองกรุง

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

นายนพพล งาเจริญ ผู้ต้องหา
ตำรวจพหลโยธินตามจับโจรฆ่าชิงรถกระบะ-เงินสด ในเมืองสุพรรณ หนีคดีมาเป็นยามอยู่ในกทม. หลังตำรวจเจอหลักฐานมือถือผู้ต้องหาตกอยู่ในที่เกิดเหตุ แต่เจ้าตัวยังปากแข็งปฏิเสธไม่ได้ร่วมก่อเหตุ อ้างไปนั่งกินข้าวกับน้องสาว แล้วลืมกระเป๋าตังค์-มือถือไว้ กลับไปเอาเหลือแค่กระเป๋าตังค์ ส่วนมือถือหายไปแล้ว

วานนี้ (6 ม.ค.) พ.ต.ท.สุรจิตร เปลี่ยนประเสริฐ สว.สส.สน.พหลโยธิน นำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.พหลโยธิน จับกุมตัว นายนพพล หรือเล็ก งาเจริญ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 101/2 หมู่ 7 ต.วังน้ำทรัพย์ อ.ศรีประจัน จ.สุพรรณบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสุพรรณบุรี เลขที่ 439/52 ลงวันที่ 30 ธ.ค.52 ในข้อหาร่วมกันชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธปืน เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้ายูเนี่ยนมอลล์ ถนนลาดพร้าว แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม.จากนั้นจึงควบคุมตัวมาทำการสอบปากคำที่ สน.พหลโยธิน

พ.ต.ท.สุรจิตร เปิดเผยว่า สืบเนื่องมาจาก เจ้าหน้าที่ สน.พหลโยธิน ได้รับการประสานจาก พ.ต.ท.สมนึก พันธ์แจ่ม สว.สส.สภ.ศรีประจัน จ.สุพรรณบุรี ว่าผู้ต้องหาได้หลบหนีคดีมาเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอยู่ที่ร้านจักรวาลโฟโต้ ใกล้กับห้างยูเนี่ยนมอลล์ จึงได้นำกำลังเข้าจับกุมตัวดังกล่าว

ต่อมา พ.ต.ท.สมนึก ได้เดินทางมารับตัวผู้ต้องหาที่ สน.พหลโยธิน พร้อมกับเปิดเผยว่า เมื่อเวลาประมาณ 01.00 น.วันที่ 9 ธ.ค.ที่ผ่านมา นายกิมหลี แซ่จิว และ นายจิรศักดิ์ รังทอง ได้ขับรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ สีเขียว หมายเลขทะเบียน บม-5182 สุพรรณบุรี มาจอดที่บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 132/3 หมู่ 5 ต.บ้านกร่าง อ.ศรีประจัน จ.สุพรรณบุรี จากนั้นนายจิรศักดิ์ ก็ลงจากรถเดินขึ้นไปบนบ้าน

ระหว่างนั้นก็ได้มีคนร้าย 2 คน เข้ามาล็อกตัว นายกิมหลี เอาไว้พร้อมทั้งใช้ปืนลูกซอง เบอร์ 12 ยิงใส่จนเสียชีวิต หลังจากนั้นคนร้ายก็ได้เข้าไปในบ้าน ก่อนจับตัวนายจิรศักดิ์ ใส่กุญแจมือแล้วจ่อยิงเข้าที่ท้องจนได้รับบาดเจ็บสาหัส จากนั้นคนร้ายก็ได้ทำการชิงทรัพย์เป็นโทรศัพท์มือถือ เงินสดกว่า 10,000 บาท และรถกระบะคันดังกล่าวหลบหนีไป

พ.ต.ท.สมนึก กล่าวต่อว่า จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่สืบสวนในที่เกิดเหตุก็พบโทรศัพท์มือถือของคนร้ายที่ทำตกไว้ จึงได้นำไปตรวจสอบก็พบว่าเป็นโทรศัพท์ของนายนพพล ผู้ต้องหา และจากพยานหลักฐานเชื่อว่าผู้ต้องหาคือคนร้ายที่ก่อเหตุ จึงได้ขออนุมัติหมายจับไว้ และจากการสืบสวนพบว่า นายนพพลได้หลบหนีมาทำงานเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยในท้องที่ สน.พหลโยธิน จึงได้ประสานฝ่ายสืบสวน สน.พหลโยธิน เข้าจับกุมดังกล่าว

จากการสอบสวนนายนพพล ยังให้การปฏิเสธ โดยอ้างว่า ไม่มีส่วนยุ่งเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเลย ส่วนโทรศัพท์ที่พบในที่เกิดเหตุนั้น ยอมรับว่าเป็นของตนจริง แต่ไม่ทราบว่าไปอยู่ที่นั่นได้อย่างไร และโทรศัพท์ของตนก็หายไปตั้งแต่วันที่ 8 ธ.ค.แล้ว โดยวันนั้น ตนได้เดินทางมาหาน้องสาวที่ จ.สุพรรณบุรี พอลงรถที่ท่ารถ บขส.แล้วไปนั่งกินข้าวกับน้องสาว

นายนพพล ให้การต่อว่า หลังกินข้าวเสร็จก็เดินออกไปด้านนอก ระหว่างนั้นก็นึกได้ว่าลืมโทรศัพท์กับกระเป๋าสตางค์ไว้ที่โรงอาหาร จึงรีบกลับมาเอา ก็พบว่ามีแม่ค้าในโรงอาหารเก็บกระเป๋าสตางค์ไว้ให้ ส่วนโทรศัพท์มือถือไม่รู้ว่าหายไปไหนแล้ว ตนก็พยายามโทรเข้าเครื่องหายครั้งแต่ไม่สามารถติดต่อได้ หลังจากนั้นเดินทางมาทำงานเป็นรปภ.ที่ร้านจักรวาลโฟโต้ จนถูกตำรวจตามมาจับ

เจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของนายนพพล เนื่องจากมีพยานหลักฐานยืนยันชัดเจนว่าเจ้าตัวเป็นคนก่อเหตุ โดยหลังจากนี้จะส่งตัวให้ พ.ต.ท.สมนึก นำตัวไปดำเนินคดี และสืบสวนจับกุมผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีอยู่อีก 1 คน มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น