xs
xsm
sm
md
lg

โจรพารากอนอ้างเป็นพี่ชายคู่อริ ฉกมือถือลูกนักข่าวโมเดิร์นไนน์กลางห้าง

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

ด.ช.หนึ่ง (นามสมมติ) ให้การกับพนักงานสอบสวน
โจรพารากอนโผล่อีกรอบ ทำทีเดินเข้ามาหาลูกชายนักข่าวโมเดิร์นไนน์ กับเพื่อนอีก 2 คนที่นั่งรอแม่อยู่ในห้าง ทำทีอ้างตัวเป็นพี่ชายคู่อริ ขู่ให้เอามือถือมารวมกันไว้ที่เด็กคนเดียว ที่เหลือไล่ให้ไปรอชั้นล่าง แล้วพาเด็กคนเก็บมือถือเดินไปอีกห้างใกล้ๆกัน ก่อนจะยึดมือถือชิ่งหนีไปทันที เผยคนร้ายก่อเหตุแบบเดียวกันมาแล้ว 2 ราย

เมื่อเวลา 20.00 น วันนี้ (5 ม.ค.) นางยุพดี สายเชื้อ อายุ 41 ปี ผู้สื่อข่าวประจำราชสำนัก สถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์ พา ด.ช.หนึ่ง (นามสมมุติ) อายุ 13 ปี ลูกชายที่กำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมปีที่ 1 โรงเรียนนานาชาติแห่งหนึ่ง ย่านมีนบุรี เดินทางเข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท.(หญิง) คะนึงนุช ทศไพรินทร์ พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.ปทุมวัน ว่าลูกชายตัวเองถูกชิงทรัพย์โทรศัพท์มือถือ ที่ห้างสยามพารากอน ถนนพระราม 1 แขวงและเขตปทุมวัน

จากการสอบสวน ด.ช.หนึ่ง ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุ แม่มาส่งตนที่ห้างสยามพารากอน เนื่องจากนัดเพื่อนที่โรงเรียนมาดูหนังกันที่ห้างดังกล่าว โดยหลังจากดูหนังเสร็จประมาณ 16.00 น. ก็แยกย้ายกันกลับบ้าน แต่ตนกับเพื่อนอีก 2 คน ต้องนั่งรอแม่มารับ ระหว่างนั้นก็มีคนร้ายเป็นชาย อายุประมาณ 30 ปี แต่งตัวภูมิฐาน เดินเข้ามาหาพวกตน พร้อมบอกว่าเพื่อนของตนหน้าตาคล้ายกับคู่อริของน้องชายคนร้าย

ด.ช.หนึ่ง ให้การต่อว่า จากนั้นคนร้ายก็บอกตนและเพื่อนๆมีโทรศัพท์มือถือหรือไม่ พอบอกว่ามี คนร้ายก็ขู่พวกตนให้นำมือถือออกมารวมกันไว้ที่เพื่อนของตน หลังจากนั้นคนร้ายก็บอกให้ตนกับเพื่อนคนหนึ่งไปรอที่ชั้นล่างของสยามพารากอน โดยคนร้ายได้พาเพื่อนที่เก็บโทรศัพท์ไว้เดินไปที่ห้างเซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งอยู่ใกล้ๆกัน ก่อนบังคับเอาโทรศัพท์มือถือไปทั้งหมด จำนวน 3 เครื่อง

ด้านนางยุพดี กล่าวว่า ตอนแรกตกใจมาก คิดว่าคนร้ายลักพาตัวเพื่อนลูกชายไปด้วย แต่เมื่อโทรไปถามพ่อแม่เด็กแล้วก็ทราบว่ากลับบ้านอย่างปลอดภัยแล้ว ส่วนที่ต้องมาแจ้งความก็อยากให้ตำรวจับคนร้ายให้ได้โดยเร็ว เพราะเป็นภัยสังคม และน่าจะทำแบบนี้มาหลายครั้งแล้ว และคนร้ายก็มักจะเลือกเหยื่อที่เป็นเด็กอายุ 12-13 ปี เพราะเด็กรุ่นนี้จะหลอกง่าย

ขณะที่ พ.ต.อ.ไพศาล ลือสมบูรณ์ ผกก สน.ปทุมวัน กล่าวว่า หลังจากรับเรื่อง จะรีบดำเนินการติดตามเด็กผู้เสียหายที่โดนพาไปที่ห้างเซ็นทรัลเวิลด์ มาทำสอบปากคำเพิ่มเติมหากพบว่า คนร้ายมีการขู่กรรโชกทรัพย์โดยใช้ถ้อยคำรุนแรง และทำร้ายร่างกายก็จะแจ้งข้อหาชิงทรัพย์ พร้อมทั้งสั่งการให้ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่ติดตามหาพยาน และตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดมาให้ผู้เสียหายดู เพื่อจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้มีผู้เสียหาย 2 ราย เข้าแจ้งความที่สน.ปทุมวัน ไว้เมื่อวันที่ 25 พ.ย.ที่ผ่านมา ว่าถูกคนร้ายขโมยโทรศัพท์มือถือไป 2 เครื่อง กล้องดิจิตอล เครื่องเล่นเกมอีก 1 เครื่อง รวมมูลค่าประมาณ 30,000 บาท ซึ่งพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับคนร้ายรายนี้แล้วในข้อหาลักทรัพย์ จนวันนี้ ด.ช.หนึ่ง มาแจ้งความเพิ่มอีกเป็นรายที่ 3

ทั้งนี้พนักงานสอบสวนก็ได้นำภาพผู้ต้องหาคนดังกล่าวซึ่งอยู่ในแฟ้มประวัติอาชญากรของ สน.ปทุมวัน ให้ ด.ช.หนึ่ง ดู ซึ่งเจ้าตัวก็สามารถชี้ตัวยืนยันได้อย่างชัดเจน ทางพนักงานสอบสวนจึงตั้งข้อหาข่มขู่กรรโชกทรัพย์และกักขังหน่วงเหนี่ยวเพิ่ม
กำลังโหลดความคิดเห็น