“สุเทพ” มอบนโยบายนายตำรวจ ห้ามอ่อนไหวกับสถานการณ์การเมือง ต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ห้ามแบ่งฝ่าย ให้มีแต่สีกากี เน้นจับกุมเว็บไซด์หมิ่นสถาบัน การป้องกันปราบปรามอาชญากรรมรวมทั้งให้ความมั่นใจกับนักท่องเที่ยวต่างชาติ และให้จัดหาเสื้อเกราะที่มีประสิทธิภาพให้กับ ตร.ใต้
วันนี้ (25 ธ.ค.) เวลา 15.00 น. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงมอบนโยบายให้ สตช. ในการทำงานปี 53 ว่า ขอให้ตำรวจปฎิบัติหน้าที่ตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด เพราะคนจะเคารพกฎหมายต้องเชื่อมั่นในการใช้กฎหมายของตำรวจเสียก่อน ขณะนี้บ้านเมืองอยู่ในสภาพที่อ่อนไหว แต่ตร.อ่อนไหวไม่ได้ ท่านต้องเป็นหลักของบ้านเมือง ต้องพร้อมตลอดเวลา ทำหน้าที่รักษากฎหมายอย่างเคร่งครัด ทำให้คนในประเทศเคารพกฎหมาย โดยตร.ต้องเคารพกฎหมายเสียก่อน ต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความแข็งแรง อยากจะขอเรียนกับท่านทั้งหลายบางประเด็น ตอนนี้ก็อยู่พร้อมกันทั้ง 332 นาย บางเรื่องท่านนายกฯ ก็ฝากไว้แล้ว แต่ในฐานะที่ตนรับผิบชอบงานความมั่นคงก็อยากเรียนอีกครั้งหนึ้ง
เรื่องแรกการถวายความรักษาปลอดภัยพระบรมวงศานุวงศ์ บกพร่องไม่ได้ แต่ที่สำคัญไปกว่านั้นคือ ตำรวจต้องมีหน้าที่ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ไม่ให้ผู้ใดล่วงละเมิด หากผู้ใดล่วงละเมิดก็เป็นหน้าที่ของตำรวจจะต้องดำเนินคดีอย่างเด็ดขาดและรวดเร็ว ที่ผ่านมาตนดูรายงานคดีหมิ่นฯ ทุกวันด้วยควมเจ็บปวด ทุกวันนี้ก็ยังมีไปพาดพิง สถาบันในเว็บไซด์ บางคนก็เหิมเกริมขึ้นเวทีปราศรัยปลุกระดาม ในเว็บไซต์ก็มีอยู่ตลอด ตั้งแต่การปลอ่ยข่าวพระอาการประชวรของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว การยุยงให้มีการประกาศต่อสู้ระหว่างประชาชน กับราชบัลลังก์ เช่น เว็บไซต์ประชาไท ท้าทายหมด เป็นหน้าที่ตำรวจต้องดูแล ฝากให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับ อบรม ประชุมกับผู้ใต้บังคับบัญชาให้รู้สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของราชวงศ์ทุกพระองค์ ขอให้ตำรวจทุกนาย และครอบครัวตำรวจทุกครอบครัวตระหนักในพระมหากรุณาธิคุณด้วย
เรื่องที่สอง การป้องกันปราบปรามอาชญากรรม ในภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ ตำรวจมีภารกิจมากขึ้น สิ่งที่ท่านต้องทำคือยึดภาพกิจในการป้องกันอาชญากรรมเป็นเรื่องแรก ต้องมีแผนที่มีประสิทธิภาพ ปฏิบัติได้จริง เข้มในการปราบปรามอย่างจริงจัง มีหลายจุดทีท่านทั้งหลายทราบดี แหล่งอบายมุขทั้งหลายที่เป็นต้นเหตุ ที่อยู่ในพื้นที่รับผิดชอบแต่ละท่านต้องควบคุมให้ได้ บังคับใช้กฎหมายอย่าเคร่งครัด ในทุกพื้นที่ต้องทำบัญีชีผู้มีอิทธิพล บุคคลที่ซุ่มเสี่ยงต่อการทำผิดกฎหมาย มือปืนรับจ้าง
เรื่องที่สาม ต้องการให้ผู้บังคับบัญชาให้ความำสำคัญกับการสอบาสวน ในฐานะที่ตนเป็นผู้แทนปชช.มาทั้งชีวิต ตนชื่นชมในความเป็นมืออาชีพของตำรวจ แต่ในบางช่วงตำรวจก็ทิ้งความเป็นมืออาชีพในเรื่องการสอบสวน และไปใช้อำนาจอื่นนอกกฎหมาย ตำรวจต้องกลับมาอยู่ในกรอบของกฎหมาย ไม่ทำอะไรนอกตำรา อยากให้ ผู้บังคับบัญชา ให้ความสำคัญกับพงส. ช่วยดูแลเขาให้ดี ให้เขามีโอกาสเจิรญก้าวหน้าในสายงาน รับค่าตอบแทนที่เหมาะสม มีขวัญกำลังใจในการทำงาน เพราะ พงส.เป็นต้นธารกระบวนการยุติธรรมที่ประชาชนคาดหวัง ผู้บังคับบัญชาทั้งหลายต้องดูแล พงส.ให้ดี ตั้งแต่การฝึกอบรม เพิ่มพูนความรู้ ข้อสำคัญต้องติดตามเอาผู้ที่กระทำความผิดมาส่ง พงส.ให้ได้ ตนเคยแอบเยี่ยมตามโรงพัก มีหมายจับที่ลืมไปแล้ว ก็ขอให้ไปตรวจสอบผู้ที่ออกหมายจับไว้ ให้เจ้าของท้องที่หรือบูรณาการกำลังกัน นำตัวมาสอบสวน ดำเนินคดีให้ได้
เรื่องที่สี่ ปัญหายาเสพติด ตนรู้ดีว่าการจับกุมกลุ่มผู้ค้ายาต้องใช้ความพยายาม อุตสาหะ ก็ขอให้ ทุกท้องที่จับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด เพราะปัจจุบันประชาชนจะคิดเอาเองว่า ถ้าไม่อุ้มฆ่า ปัญหายาเสพติดก็ไม่จบ ตนไม่คิดเช่นนั้น ตนคิดว่าตำรวจมีความสามารถ สืบสวนจับกุมได้ทุกระดับทั้ง ผู้ค้ารายย่อย รายใหญ่ ก็ขอให้ ผู้บังคับบัญชาใส่ใจเป็นพิเศษ และขอให้ให้ความสำคัญกับ 5 รั้วป้องกัน และขอให้ตร.เข้าไปมีส่วนร่วมทุกรั้ว
เรื่องที่ 5 ปัญหาอาชญากรรมระหว่างประเทศ ทั้งการค้าประเวณี การใช้แรงงานเด็ก แรงงานต่างด้าว สื่อลามกอนาจาร การละเมิดสิทธิเด็กเยวชนสตรี รวมถึงอาชญากรรมทางเศรษฐกิจทั้งหลาย เราต้องตื่นตัว ร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน เป็นโอกาสแสดงศักยาภาพของประเทศไทย
เรื่องที่ 6 การรักษาความมั่นคง สงบเรียบร้อยในประเทศ โดยเฉพาะช่วงหลัง ปีใหม่นี้ เชื่อว่า สถานการณ์ทั้งหลายจะรุนแรง ขยายตัว เพราะแต่ละกลุ่มก็กำหนดเป้ามหายทิศทางฝ่ายตนเองไว้แล้ว ตำรวจก็อย่าเข้าข้างใคร ไม่มีสี มีแต่สีกากีเท่านั้น ใครผิดก็ขอให้ดำเนินคดีทุกราย ขอให้ตำรวจทำหน้าที่ของท่านอย่างเข็มแข็ง แน่นอนในภาวะที่มีการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย ตร.ต้องอดกลั้น อดทน เป็นอย่างยิ่ง แต่ต้องไม่อ่อนแอ ให้ฝ่ายใดเห็น ทุกคดีต้องเร่งรัดให้เห็นว่า ไม่ว่าสีอะไรก็ดำเนินคดีทุกราย ถ้าทำเช่นนี้ได้ ก็จะทำให้ตำรวจสามารถรักษาความสงบเรียบร้อยของประเทศได้
เรื่องที่ 7 การดูแลนักท่องเที่ยว อย่าให้เขาถูกล่อลวงประทุษร้ายทั้งชีวิตทรัพย์สิน เพราะเขามีบุญคุณกับบ้านมืองเรา การท่องเที่ยวอยู่ที่ความมันใจของกลุ่มนักท่องเที่ยวด้วย ตนเห็นข่า วจี้ปล้นนักท่องเที่ยวเป็นความเสียหายอย่างยิ่ง ผู้บังคับบัญชาก็ทำความวางแผนกันว่าจะทำอย่างไร ให้เขามีความมั่นใจ ประทับใจการทำงาน
เรื่องที่ 8 ปัญหาชายแดนภาคใต้ คราวนี้การแก้ปัญหาเราไม่ได้เข่นฆ่ากลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ แต่เราไปยกระดับ ความเป็นอยู่รายได้ของประชาชน เอาชนะใจประชาชน เพื่อใผ้ผู้ก่อการหมดความหมายไปทั้งหมด แต่ภาระหนักก็อยู่ที่ตำรวจ เพราะมีคนกระทำความผิดที่ตำรวจต้องสอบสวนนำตัวมาดำเนินคดี เมื่อสองสามวันนี้ก็ได้ลงไปพบตำรวจในกรณีที่ต่อสู้กับผู่ก่อความไม่สงบ มีการเสียชีวิตของฝ่ายตรงข้าม ตำรวจถูกยิง แต่มีเสื้อเกราะกันไว้ได้ ก็อยากขอขอบใจ ฝ่ายจัดซื้อจัดจ้าง เมื่อก่อนตนแช่งชักฝ่ายจัดซื้อจัดจ้างที่จัดซื้อจัดจ้างเสื้อเกราะไม่ได้ประสิทธิภาพ ที่มีตำรวจถูกยิงทะลุเสื้อเกราะ ก็อยากให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาสวัสดิการ ความดีความชอบตำรวจใต้เป็นพิเศษ ก็ขอเน้นเสื้อเกราะที่มีประสิทธิภาพด้วย
ประเด็นสุดท้ายการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมต่างๆ ตามชายแดนมีปัญหาต่อความมั่นคงมาก การลักลอบค้าอาวุธ ยาเสพติด บรรดาจังหวัดทั้งหลายที่อยู่ตามชายแดนต้องกวดขันเป็นพิเศษ
นายสุเทพกล่าวต่อว่า มั่นใจว่าตำรวจทั้งหลายมีจิตวิญญาณ อุดมการณ์ความเป็นตำรวจ ตนร่วมงานตร.มากว่า 1 ปี ได้ผลักดันงบประมาณการก่อสร้างอาคารทำงาน อาคารบ้านพัก ก็ทำให้ และอีกอย่างก็ทำเรื่องสวัสดิการเพื่อตำรวจที่เสียชีวิต ทุพพลภาพ จากการปฎิบัติหน้าที่ทั้งปราบปรามยาเสพติด จากปัญหาความไม่สงบตามชายแดน ตนดูว่าจะช่วยเหลือ บรรเทาความเดือนร้อนให้ครอบครัวเขาอย่างไร ซึ่งนายกฯ ก็สนับสนุนเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน