ตีนแมวบุกบ้านอดีต ผอ.ฝ่ายสถานีวิทยุ 100.5 ของ อสมท ฉกพระสมเด็จ โน้ตบุ๊ก เครื่องทอง รวมมูลค่า 8 หมื่นบาท หนีลอยนวล ตร.คาดคนร้ายน่าเป็นคนในละแวกที่รู้จักมักคุ้น เพราะรู้พฤติกรรมผู้เสียหายที่ชอบเก็บกุญแจบ้านไว้ในกระป๋องหน้าบ้าน
วันนี้ (23 ธ.ค.) เมื่อเวลา 08.00 น. ร.ต.ท.วราวุธ หนูชู พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.โชคชัย รับแจ้งเหตุคนร้ายลักทรัพย์ภายในบ้านเลขที่ 379 หมู่บ้านเพชรอุทัย ซอยลาดพร้าว 93 ถนนลาดพร้าว แขวงและเขตวังทองหลาง จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.โชคชัย
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านสูง 2 ชั้น ปลูกอยู่ในเนื้อที่ 33 ตารางวา เจ้าหน้าที่พบนายวิรัตน์ นาคชาติ อายุ 61 ปี อดีตผู้อำนวยการฝ่ายสถานีวิทยุ 100.5 ของบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เจ้าของบ้านหลังดังกล่าวซึ่งอาศัยอยู่กับนางวิภาพรรณ นาคชาติ อายุ 61 ปี ยืนรอให้การต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ
จากการสอบสวนนายวิรัตน์ให้การว่า ตนอาศัยบ้านหลังนี้มาได้ประมาณ 20 ปีแล้ว เมื่อวานนี้ (22 ธ.ค.) ตนกับภรรยาเดินทางไปงานศพของคนรู้จักที่วัดอรุณฯ และเดินทางกลับบ้านประมาณ 21.00 น.จากนั้นก็นั่งร้องเพลงคาราโอเกะกับภรรยาจนถึง 23.00 น. จึงได้ขึ้นไปนอนที่ชั้น 2 พอตื่นขึ้นมาเวลาประมาณ 06.00 น.ก็เตรียมตัวที่จะไปวิ่งออกกำลังกาย แต่เมื่อเดินมาถึงโต๊ะทำงานชั้นล่าง เห็นกระเป๋าสตางค์ของตนวางไว้บนโต๊ะ ทั้งๆ ที่ปกติจะใส่ไว้ในช่องเก็บของ นอกจากนี้ก็มีซองใส่คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กยี่ห้อโซนี่วางทิ้งไว้ แต่ตัวโน้ตบุ๊กหายไปแล้ว จึงทำให้รู้ว่าเมื่อคืนมีคนร้ายเข้ามาลักทรัพย์ภายในบ้านจึงรีบโทรศัพท์แจ้งความทันที
นายวิรัตน์กล่าวต่อว่า สำหรับทรัพย์สินที่หายไปนั้นประกอบด้วย พระเครื่องสมเด็จ วัดไชโยวรวิหาร จำนวน 1 องค์ คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กยี่ห้อโซนี่ จำนวน 1 เครื่อง ทองรูปพรรณ 3 บาท จำนวน 1 เส้น นาฬิกายี่ห้อไซมา จำนวน 1 เรือน และเศษเหรียญ 5 บาท 10 บาท ที่ภรรยาเก็บไว้อีก 300 บาท รวมทรัพย์สินที่คนร้ายขโมยไปทั้งหมด 80,000 บาท
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบบริเวณจุดเกิดเหตุเบื้องต้นพบว่า คนร้ายน่ารู้ว่าผู้เสียหายจะนำกุญแจบ้านใส่ไว้ที่กระป๋องเก็บของบริเวณหน้าบ้านเป็นประจำ จึงปีนเข้าบ้านมาได้ใช้กุญแจนั้นไขประตูหน้าบ้านแล้วใช้ไฟแช็กเผามุ้งลวดประตูเพื่อที่จะเอื้อมมือไปปลดล็อก ก่อนจะเข้าไปขโมยทรัพย์สิน นอกจากนี้ คนร้ายยังได้หยิบกุญแจรถที่แขวนไว้กับที่เก็บกุญแจภายในบ้านไปค้นทรัพย์สินภายในรถของนายวิรัตน์ ยี่ห้อโตโยต้าคัมรี่ หมายเลขทะเบียน 5ฮ-9397 กทม. แต่ไม่ได้ขโมยทรัพย์สินไป ก่อนจะนำกุญแจรถมาวางคืนไว้ที่หน้าบ้าน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า คนร้ายน่าจะเป็นคนที่อยู่ในละแวกที่เกิดเหตุ หรืออาจจะรู้จักมักคุ้นกับผู้เสียหาย เนื่องจากคนร้ายทราบพฤติกรรมของผู้เสียหายเป็นอย่างดี เพราะภายในบ้านไม่พบร่องรอยการรื้อค้นใดๆ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ตรวจหาลายนิ้วมือแฝงเพื่อที่จะได้ตามหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป