xs
xsm
sm
md
lg

ใคร?สั่งตาย"สุนัทที"

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

ภาพในวันเกิดเหตุที่คนร้ายยิงนางสุนัทที เสียชีวิตคารถ
ช่วงสายวันที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา บรรยากาศที่เคยเต็มไปด้วยความสงบเงียบสงัดบริเวณด้านหน้าอาคารสัจธรรม สถาบันนิติเวชวิทยาโรงพยาบาลตำรวจ ก็ต้องแปรเปลี่ยนไป!!! เมื่อนายตำรวจนักประชาสัมพันธ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อย่าง พล.ต.ท.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้ช่วย ผบ.ตร.ควงแขน พล.ต.ต.สัญชัย สุนทรบุระ ผบก.สท.และทีมเจ้าหน้าที่สารนิเทศ พากันมาเฝ้ารอกลุ่มบุคคลเป้าหมายสำคัญตรงจุดรอรับศพของสถาบันแห่งนี้ โดยขณะนั้นผู้คนส่วนใหญ่ก็ยังไม่ทราบข้อมูลว่าบรรดาบิ๊กตำรวจเหล่านี้แห่กันมาที่นี่ด้วยเหตุอันใด?

แค่อึดใจเดียว รถเก๋ง ยี่ห้อเล็กซ์ซัส รุ่น RX 300 สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน ศก 2627 กรุงเทพมหานคร และ รถเก๋งบีเอ็บดับบลิว รุ่น X 6 สีดำ หมายเลขทะเบียน ฌม 356 กรุงเทพมหานคร ก็ขับนำหน้ารถตระเวนของกระจอกข่าวหลายสำนักมาจอดแน่นิ่งอยู่ที่จุดสำหรับวีไอพี เป็นเวลาเดียวกันกับที่ช่างภาพทุกสำนักได้พยายามกระโดดลงจากรถแบกกล้องกรูไปห้อมล้อมยานพาหนะหรูทั้ง 2 คัน ซึ่งขณะนั้นทุกสายตาได้แต่เฝ้ามองความเคลื่อนไหวของผู้โดยสารที่กำลังจะเปิดประตูย่างกรายลงจากรถ

จนกระทั่ง พล.ต.ต.ปิยะชาติ เนื่องจำนงค์ อดีต รอง ผบก.ประจำ สง.ผบ.ตร.ค่อยๆ บรรจงก้าวเท้าลงมาจากรถบีเอ็มดับบลิว ด้วยสภาพร่างกายที่อิดโรย ตาแดงก่ำ ในมือกำกระป๋องเบียร์ยี่ห้อดังเอาไว้แน่น ทำให้ลูกๆ ทั้ง 3 คน คือ “พายุ” พรรณธฤต เนื่องจำนงค์ “พานี” ฑีรนาถ เนื่องจำนงค์ และ “แพร์” เนื่องจำนงค์ ตลอดจนผู้ติดตามอีกจำนวนหนึ่งต้องรีบวิ่งเข้าไปช่วยประคองร่างด้วยจิตสำนึกที่เต็มไปด้วยความห่วงใย ก่อนที่ทั้งหมดจะเร่งฝีเท้าก้าวเดินเข้าไปในจุดติดต่อขอรับศพ โดยที่ไม่มีใครปริปากตอบคำถามผู้สื่อข่าว

โศกนาฏกรรมหนใหญ่ของชีวิตที่ทำให้สมาชิกทุกคนในครอบครัวต้องพากันเดินทางยังสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ ครั้งนี้เกิดขึ้นยามใกล้พลบค่ำของวันที่ 29 พ.ย.ที่ผ่านมา เมื่อ “คุณบิ๊ก” สุนัทที เนื่องจำนงค์ ภรรยาที่แสนดีของ พล.ต.ต.ปิยะชาติ และเป็นแม่ที่เคารพรักของลูกอีก 3 คน ถูกมือปืนระดับพระกาฬดักซัลโวด้วยอาวุธปืน ขนาด .38 ขณะกำลังขับรถเก๋งบีเอ็มดับบลิว ซีรีส์ 7 สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ฌต 356 กรุงเทพมหานคร ออกจากหมู่บ้านโครงการไพร์ม เนเจอร์อ่อนนุช ย่านสุขาภิบาล 3

ปัง! ปัง! ปัง! คมกระสุนที่พ้นจากลำกล้องในระยะประชิดพุ่งผ่านกระจกรถทะยานเจาะร่างเหยื่อซึ่งเป็นสตรีเพศ ทั้ง 3 นัด เมื่อแน่ใจว่าเป้าหมายดับดิ้นดังใจแล้ว ไอ้โครตเพชรฆาตก็ค่อยๆ ก้าวขึ้นเบาะมอเตอร์ไซด์ที่มีบัดดี้มาจอดโฉบรับ ก่อนพากันเร่งเครื่องชายตามองผลงานของตัวเองจนหายลับตาไป มีพยานระบุว่า “มันทั้งคู่เลือดเย็นและนิ่งมาก ตั้งแต่นาทีที่ชักปืนออกจากเอว บรรจงเหนี่ยวไก หรือซ้อนท้ายรถมอเตอร์ไซด์หลบหนี ดูเหมือนจะไม่รีบร้อนอะไรเลย มิหนำซ้ำยังหันมาทำตาดุใส่พยาน คล้ายต้องการสื่ออวัจนภาษาบอกว่า มึงอย่ามาเสือก!

หลังจากที่ลูกๆ ทำการอาบน้ำศพ แต่งตัว และประกอบศาสนกิจ ให้กับ “คุณบิ๊ก” สุนัทที จนถึงพิธีจูงศพนำร่างอันไร้วิญญาณไปตั้งสวดอภิธรรมที่ศาลา 14 วัดเทพศิรินทร์ฯ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โฆษก “พงศพัศ” ก็เปิดเผยผลการผ่าพิสูจน์ศพจากแพทย์ให้ผู้สื่อข่าวฟังอย่างน่าขนลุกว่า กระสุนปืนที่คนร้ายยิงใส่เหยื่อ เข้าเป้าหมายหมดทั้ง 3 นัด มีอยู่ 1 นัด ที่สามารถผ่านเข้าไปตัดขั้วหัวใจของคุณบิ๊ก ได้อย่างพอดิบพอดี จากแผนประทุษกรรมที่พยานหลายปากให้ข้อมูลเอาไว้แสดงว่า คนร้ายต้องไม่ใช่มือปืนชั้นรากหญ้าที่แค่รับงานธรรมดาเด็ดหัวนักเลงทั่วไป แต่มีชาวบ้านหลายคนเห็นมันไปผูกเปลนอนสูบบุหรี่ และอ่านหนังสือ ใต้ต้นไม้ในละแวกนั้น เพื่อสังเกตการณ์วิถีชีวิตประจำวันของคุณบิ๊ก มาได้ระยะหนึ่งแล้ว

ประเด็นสำคัญที่สามารถใช้ยืนยันได้ว่าไม่ใช่ฝีมือของพวกรากหญ้าคือ ปกติแล้วมือปืนจะไม่รับงานยิงเหยื่อที่เป็นผู้หญิง เพราะรู้อยู่แก่ใจว่าสังคมไทยไม่ยอมรับและอาจทำให้ตัวเองเป็นกลายปรปักษ์กับตำรวจทั้งประเทศ ยิ่งคดีนี้ผู้รับงานอาจต้องคิดแล้วคิดอีกแบบหลายตลบ เพราะ คุณบิ๊ก เป็นถึง “เจ้าแม่วงการอสังหาริมทรัพย์” มีดีกรีเป็นเศรษฐีนีหญิงแกร่งพันล้าน ทำธุรกิจสร้างหมู่บ้านจัดสรรชั้นหรูเลิศทั้งในเมืองกรุง และที่พักตากอากาศระดับ 5 ดาว ไว้บริการลูกค้าต่างจังหวัด เป็นที่รู้จักของบุคคลชั้นนำของประเทศในฐานะผู้บริหารของยักษ์ใหญ่เครือไพร์ม เนเจอร์ วิลล่า และมีศักดิ์ศรีเป็นถึง “ลูกสะใภ้” คนโปรดของ นายประโยชน์ เนื่องจำนงค์ คหบดีคนดังของจังหวัดชลบุรี

ด้วยความที่เป็นหญิงเหล็ก ใจนักเลง กล้าเสี่ยงไม่แพ้ชายอกสามศอก ทำให้คุณบิ๊ก มีข้อพิพาทกับผู้รับเหมาและลูกค้ามากมาย ทนายความประจำตัวของคุณบิ๊ก เปิดเผยข้อมูลว่า ปัจจุบันบริษัทในเครือไพร์ม เนเจอร์ วิลล่า มีคดีความที่อยู่ระหว่างดำเนินการฟ้องร้อง ถูกฟ้องร้อง ยื่นอุทธรณ์และเตรียมฟ้อง อยู่ประมาณ 26 คดี ส่วนใหญ่เป็นกรณีพิพาทกับผู้เหมาซึ่งบริษัทฟ้องเอาค่าเสียหาย จำนวนกว่า 160 ล้านบาท สำหรับกรณีที่บริษัทถูกฟ้องนั้น ถูกเรียกเอาค่าเสียหายแค่เพียงไม่ถึง 10 ล้านบาท แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นทนายคนสนิทยืนยันว่า ทุกคดีเป็นเรื่องทางแพ่งที่คุณบิ๊ก พยายามประนีประนอมตามคำแนะนำมาโดยตลอดจึงไม่น่าที่จะเป็นชนวนเหตุให้ถึงกับต้องปลิดชีพกันถึงขนาดนี้!!!

คดีนี้ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาราชการ.ผบ.ตร มอบภารกิจสางคดีสำคัญคดีนี้ให้ พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา รักษาราชการ ที่ปรึกษา (สบ10) นั่งเป็นหัวหน้าชุดคลี่คลายคดีทันที พร้อมตำรวจอาชีพ ดีกรีนักสืบชั้นครูจากหลายสังกัดทั้ง บช.น. บช.ก.และหน่วยอาร์มสวยอย่างกองปราบปราม เข้ามาเป็นมือเป็นไม้ช่วยคลายประเด็นกันอย่างคับคั่ง

หลังทีมสืบ ทีมสอบ เร่งทำงานหาหลักฐาน จึงมีผลงานออกมาเป็นที่พอใจ เพราะขณะนี้ชุดคลี่คลายคดีเริ่มมองเห็นแสงสว่างรำไรมาจากปลายอุโมงค์แล้ว พยานและหลักฐานตลอดจนภาพสเก็ตซ์ของคนร้ายได้ถูกนำเข้าไปประกอบอยู่ในแฟ้มสำนวนคดีของพนักงานสอบสวนมากขึ้นเรื่อยๆ โดยขณะนี้พบหลักฐานเชื่อมโยงไปถึงประเด็นที่น่าสนใจกว่าเรื่องความขัดแย้งทางธุรกิจที่มีการฟ้องร้องกับคู่กรณีอยู่หลายเรื่อง อาทิ กรณีที่คุณบิ๊ก เป็นลูกสะใภ้คนโปรดของ นายประโยชน์ ผู้เป็นพ่อสามี จนสามารถพลิกตัวเองเข้าไปควบคุมกิจการกงสีตลาดเก่าแก่ของตระกูล “เนื่องจำนงค์” ได้แบบเบ็ดเสร็จ มีการเปลี่ยนตัวผู้บริหารใหม่ทั้งหมด ชนิดที่เรียกว่าข้ามหน้าข้ามตาคนในครอบครัวไปเลย มิหนำซ้ำคุณบิ๊ก ยังแสดงให้เห็นถึงความศักยภาพของนักธุรกิจหญิงคนเก่ง ด้วยการนำโฉนดที่ดินบางส่วนซึ่งเป็นสมบัติของครอบครัวสามีมาใช้ค้ำประกันให้กับธุรกิจของตัวเองได้ จนทำให้คนใกล้ตัวบางคนอิจฉาตาร้อน มีการใช้อิทธิพลของทหารยศนายพันขู่ฆ่าแกงกันทั้งที่คุณบิ๊ก ก็เป็นแค่ผู้หญิงตัวเล็กๆ คนนึง ซึ่งคุณบิ๊กได้เคยไปแจ้งความเอาไว้ที่สภ.ราชาเทวะ แต่จะเป็นเรื่องใดนั้นคงต้องปล่อยให้ชุดสืบสวนเป็นผู้คลี่คลาย

ประเด็นสำคัญที่ตำรวจกำลังโฟกัสอยู่อีกเรื่องขณะนี้ หนีไม่พ้นกรณีที่คุณบิ๊ก ไปกดราคากว้านซื้อที่ดินนับร้อยไร่ มูลค่าหลายร้อยบาท จากกลุ่มคนในพื้นที่ย่านอ่อนนุช ด้วยวิธีวางเงินมัดจำ แต่ต่อมามีข่าวว่าที่ดินผืนดังกล่าวอยู่ในแนวเวนคืนซึ่งน่าจะมีราคาสูงขึ้น เจ้าของที่ดินจึงพากันมาคืนเงินมัดจำพร้อมขอเลิกสัญญา แต่ถูกคุณบิ๊กปฏิเสธไป เลยทำให้เกิดปัญหากับชาวบ้านในพื้นที่บริเวณนั้น!

6 ธ.ค.สองนายตำรวจมือดีอย่าง พล.ต.อ.ภาณุพงศ์ สิงหรา ณ อยุธยา รรท.ที่ปรึกษา สบ.10 และ พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ช่วย ผบ.ตร.ได้พูดไว้หลังประชุมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนทั้งหมดที่ได้รับมอบหมายให้ลงพื้นที่หาข้อมูลคลี่คลายคดีการลอบยิงนางสุนัทที ว่าขณะนี้ถือว่าคดีความมีความคืบหน้าไปมาก แต่ขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนทำงานสักระยะหนึ่ง เชื่อว่าจะจับกุมผู้ต้องหาได้อย่างแน่นอน

โดยปมสังหาร ตอนนี้ยังคงพุ่งไปที่ 5-6 ประเด็น เช่นปมความขัดแย้งจากการสั่งเปลี่ยนตัวผู้บริหาร เรื่องความขัดแย้งทางธุรกิจและคดีความที่มีการฟ้องร้องกันในศาล ยังไม่มีการตัดประเด็นใดทิ้ง นอกจากนี้ยังได้สั่งการให้ชุดสอบสวนประสานขอข้อมูลเกี่ยวกับทรัพย์สินและธุรกิจต่างๆ ของผู้ตาย เพื่อนำมาพิจารณามาประกอบสำนวน

“ขอเวลาอีก 30 วัน น่าจะเรียบร้อย ตอนนี้รอให้ทางญาติจัดการเรื่องงานศพผู้ตายให้เรียบร้อย หลังจากนั้นคาดว่าวันที่ 7-10 ทางญาติจะเข้ามาให้ข้อมูลเพิ่มเติ่ม โดยชุดสืบสวนคลี่คลายคดีจะประชุมกันอีกครั้งในวันที่ 11 ธ.ค.นี้”

อย่างไรก็ตามเป็นเรื่องที่ชุดคลี่คลายคดีทุกทีมต้องช่วยกันตามหาพยานและหลักฐานให้เชื่อมโยงไปถึงมือปืนและผู้จ้างวานรายนี้ให้ได้ ไม่ว่าสารพัดข้อมูลที่รออยู่เหล่านั้นจะเป็นกุญแจไขไปถึงประเด็นต้องสงสัยเรื่องใด? มาถึงชั้นนี้แล้วเชื่อว่า ตำรวจคงไม่ปล่อยให้ “คุณบิ๊ก” หญิงแกร่งท่านนี้ตายฟรีแน่นอน!!!

ตร.เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ
นางสุนัทที เนื่องจำนงค์ ไฮโซนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชื่อดัง
ภาพสเกตซ์ 2 คนร้ายที่ก่อเหตุยิงนางสุนัทที เนื่องจำนงค์ นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เสียชีวิต

กำลังโหลดความคิดเห็น