ตำรวจออกหมายจับเด็กปทุมวันยิง นศ.อุเทถวาย รวม 3 คน พบประวัติเคยก่อคดีมาโชกโชน ระบุใครให้ที่พักพิงคนร้ายไว้กบดานมีความผิดด้วย
จากกรณีที่ นายณัตกพันธุ์ หรืออู๋ คลองรอด นักศึกษาชั้นปี 1 สาขาเทคโนโลยีโลจิสติกส์และการจัดการระบบ คณะวิศวกรรมศาสตร์และสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย ถูกยิงเสียชีวิตภายในสถาบัน เมื่อช่วงเช้าวันที่ 10 ธ.ค.ที่ผ่านมา ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะสามารถจับกุมตัวคนร้ายได้ 1 ราย ซึ่งเป็นนักศึกษาสถาบันคู่อริ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าวันนี้ (14 ธ.ค.) เมื่อเวลา 14.30 น. พ.ต.อ.ไพศาล ลือสมบูรณ์ ผกก.สน.ปทุมวัน ได้นำรูปถ่ายผู้ต้องหาที่ร่วมก่อเหตุอีก 3 คน คือ นายอลงกต หรือตั้ม ปกครอง อายุ 23 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.962/2552 ลงวันที่ 14 ธ.ค.52 นายภานุพงษ์ หรือบี้ จิ๋วทองคำ อายุ 21 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.963/2552 ลงวันที่ 14 ธ.ค.52 และ นายจิตตกร ชูสังข์ อายุ 20 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ จ.964/2552 ลงวันที่ 14 ธ.ค.52 ทั้งหมดถูกออกหมายจับในข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่น และร่วมกันพยายามฆ่า มาชี้แจงและลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันเกิดเหตุ
พ.ต.อ.ไพศาล กล่าวว่า ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับทั้งหมดเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 2 คณะวิศวกรรมศาสตร์ แผนกเครื่องกลอุตสาหการ สถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน โดยก่อนเกิดเหตุผู้ต้องหาทั้งหมดได้ขับรถจักรยานยนต์ไปวนดูลาดเลาที่หน้าสถาบันอุเทนถวายก่อน โดยนายจิตตกรขับรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นฟีโน่ สีชมพูคาดขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ไปกับนายอลงกต ส่วนนายณัฐวุฒิ วังมุก ซึ่งถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้ได้ขับรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นคลิก สีดำ จากนั้นนายอลงกตได้ลงที่รถที่ป้ายรถประจำทางหน้าคณะเภสัช จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และเดินมาที่ตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจรเพื่อดูลาดเลา ทำให้กลุ่มผู้ตายสังเกตเห็น
พ.ต.อ.ไพศาล กล่าวอีกว่า เมื่อนายอลงกตเห็นว่ากลุ่มผู้ตายสังเกตเห็นจึงได้เดินข้ามฝั่งไปยังสมาคมศิษย์เก่าจุฬาฯ จนกระทั่งเวลาผ่านไป 7 นาที กลุ่มผู้ตายได้นำพวงมาลัยมาเปลี่ยนที่หน้าสถาบัน นายอลงกตจึงได้ชักอาวุธปืนขนาด 11 มม.ยิงเข้าไปในรั้วสถาบันที่กลุ่มผู้ตายอยู่ จนกระสุนไปถูกผู้ตายเสียชีวิต ก่อนจะรีบวิ่งไปขึ้นรถจักรยานยนต์ที่นายจิตตกรมาจอดรับบริเวณซอยจุฬาฯ 12 พากันหลบหนีไปทางถนนพญาไท มุ่งหน้าแยกปทุมวัน
“กระทั่งอีก 4 นาทีต่อมา นายณัฐวุฒิได้ขับรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นคลิก พานายภานุพงษ์ใช้อาวุธปืนยิงซ้ำเข้าไปภายในสถาบันอีกครั้ง แล้วพยายามขับรถหลบหนี แต่กลับเกิดอุบัติเหตุขับรถผ่าไฟแดงชนรถแท็กซี่ จนนายณัฐวุฒิได้รับบาดเจ็บ ส่วนนายภานุพงษ์ทราบว่าหลังเกิดเหตุมีเพื่อนมารับพาหลบหนี ซึ่งทางเราก็ทราบแล้วว่าเป็นใคร” พ.ต.อ.ไพศาล กล่าว
พ.ต.อ.ไพศาล กล่าวต่อว่า ขณะนี้ได้แบ่งกำลังออกเป็น 3 ชุด เพื่อทำการสืบสวนสอบสวนเก็บข้อมูลรายละเอียดทั้งหมด ซึ่งจากสืบสวนของเจ้าหน้าที่พบว่า นายภานุพงษ์ และนายอลงกต เคยก่อเหตุมาแล้วหลายคดี และอาวุธปืนที่ใช้ก็เป็นอาวุธปืนขนาด 11 มม.กระบอกเดียวกันด้วย โดยนายอลงกตเคยก่อเหตุยิงนักศึกษาเทคนิคกรุงเทพเสียชีวิตในท้องที่บางขุนนนท์ ส่วนกรณีนักศึกษามหาวิทยาลัยราชมงคลกรุงเทพ วิทยาเขตเทคนิคกรุงเทพ ถูกยิงเสียชีวิต จำนวน 2 รายบริเวณหน้าร้านนายสกรีน ถนนบรรทัดทอง ย่านปทุมวัน เมื่อวันที่ 26 พ.ย.ที่ผ่านมานั้น พบว่านายภานุพงษ์เป็นผู้ที่น่าสงสัยมากที่สุด
พ.ต.อ.ไพศาล กล่าวอีกว่า ตนอยากฝากไปถึงผู้ที่ให้ที่กบดานแก่ผู้ต้องหาจะถือว่ามีความผิดด้วย ซึ่งตนก็จะดำเนินคดีอย่างถึงที่สุดเช่นเดียวกัน ส่วนทางผู้ปกครองหากรู้ว่าบุตรหลานหลบหนีไปอยู่ที่ใดขอให้พาเข้ามอบตัวให้เร็วที่สุด และใครที่มีเบาะแสของผู้ต้องหาขอให้แจ้งเข้าไปที่ สน.ปทุมวัน หรือตนได้ตลอด 24 ชั่วโมง
