“ธานี” ควง “กรณ์” ชี้แจงนโยบายแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ ย้ำไม่ใช่สั่งตำรวจปราบปรามกวาดล้าง กลุ่มเจ้าหนี้นอกระบบ แต่เป้าหมายจริงๆ คือต้องการทำสิ่งที่ผิดกฎหมายดึงเข้ามาสู่ระบบถูกกฎหมาย พร้อมยอมรับ มีตำรวจบางส่วนเข้าไปยุ่งเกี่ยว แต่เชื่อผู้บังคับบัญชาจะมีความเด็ดขาดในการดำเนินการ
วันนี้ (18 ธ.ค.) เวลา 09.00 น.ที่ห้องประชุม 1 ตร.สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการปราบปรามการปล่อยเงินกู้และทวงหนี้นอกระบบ ครั้งที่ 2 โดยมีตัวแทนจากกองบัญชาการต่างๆ ทั่วประเทศร่วมประชุม โดยมีนายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ร่วมรับฟังประชุมด้วย
นายกรณ์เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า วันนี้ได้มาซักซ้อมทำความเข้าใจกับคณะทำงานในด้านปราปบราม โดยวันนี้ตัวแทนตำรวจทุกกองบัญชาการมีความเห็นในแนวทางเดียวกันและเข้าใจนโยบายของรัฐบาลในการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบและเข้าใจหน้าที่ของตนเอง ซึ่งตำรวจเป็นจุดเริ่มต้นของการทำงาน มีบทบาทไปทำความเข้าใจกับลูกหนี้และเจ้าหนี้ให้มาลงทะเบียนกับคณะกรรมการ นอกจากนี้ ตำรวจยังมีหน้าที่เก็บรวบรวมข้อมูลของเจ้าหนี้และลูกหนี้ และต้องทำความเข้าใจด้วยว่าการทำงานตรงนี้ไม่ใช่การปราบปรามกวาดล้าง กลุ่มเจ้าหนี้นอกระบบ แต่เป้าหมายจริงๆ คือต้องการทำสิ่งที่ผิดกฎหมายดึงเข้ามาสู่ระบบถูกกฎหมาย
รมว.คลัง กล่าวว่า จนถึงขณะนี้มีผู้มาลงทะเบียนแล้ว 400,000 ราย ถือว่าไม่น้อยเลย ซึ่งพบว่าพื้นที่ภาคตะออกเฉียงเหนือมีคนมาลงทะเบียนมากที่สุดหากเทียบกับจำนวนประชากร ขณะที่ใน กทม.มีลูกหนี้มาลงทะเบียนจำนวนมากที่สุด โดยตนตั้งเป้าจะมีผู้มาลงทะเบียน 700,000-800,000 ราย แต่คงไม่ถึง ซึ่งเข้าใจว่าคนยังกลัวและไม่เข้าใจนโยบายรัฐบาย จึงอยากทำความเข้าใจนโยบายตรงนี้ให้ชัดเจน ซึ่งไม่ต้องกลัวเพราะการมาลงทะเบียนเพียงแค่มาแจ้งข้อมูลของลูกหนี้ และไม่จำเป็นต้องรายงานข้อมูลเชิงลึกของเจ้าหนี้
นายกรณ์กล่าวด้วยว่า เรามีนโยบายชัดเจนไม่ให้ตำรวจเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับขบวนการหนี้นอกระบบ ซึ่งแม้ข้อเท็จจริงก็รู้ว่ามีตำรวจบางส่วนเข้าไปยุ่งเกี่ยวอยู่ แต่ได้สั่งการกำชับไปแล้วและเชื่อว่าผู้บังคับบัญชาทุกหน่วยจะมีความเด็ดขาดในการดำเนินการ
“เมื่อวานนี้ลงพื้นที่ จ.ขอนแก่น มาแล้ว พบเห็นปัญหาต่างๆ ก็อยากมีแนวคิดในพื้นที่ 19 จังหวัดภาคอีสานเป็นพื้นที่นำร่อง โดยมีเงื่อนไขชำระหนี้เกิน 8 ปี” นายกรณ์กล่าว
รมว.คลัง กล่าวว่า หลังจากมีการลงทะเบียนเจ้าหนี้ลูกหนี้แล้ว ขั้นตอนต่อไปจะมีการตั้งคณะกรรมการเจรจาเพื่อโอนหนี้กลับสู่ระบบ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของกระทรวงการคลังและมหาดไทยดูแล
วันนี้ (18 ธ.ค.) เวลา 09.00 น.ที่ห้องประชุม 1 ตร.สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการปราบปรามการปล่อยเงินกู้และทวงหนี้นอกระบบ ครั้งที่ 2 โดยมีตัวแทนจากกองบัญชาการต่างๆ ทั่วประเทศร่วมประชุม โดยมีนายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ร่วมรับฟังประชุมด้วย
นายกรณ์เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า วันนี้ได้มาซักซ้อมทำความเข้าใจกับคณะทำงานในด้านปราปบราม โดยวันนี้ตัวแทนตำรวจทุกกองบัญชาการมีความเห็นในแนวทางเดียวกันและเข้าใจนโยบายของรัฐบาลในการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบและเข้าใจหน้าที่ของตนเอง ซึ่งตำรวจเป็นจุดเริ่มต้นของการทำงาน มีบทบาทไปทำความเข้าใจกับลูกหนี้และเจ้าหนี้ให้มาลงทะเบียนกับคณะกรรมการ นอกจากนี้ ตำรวจยังมีหน้าที่เก็บรวบรวมข้อมูลของเจ้าหนี้และลูกหนี้ และต้องทำความเข้าใจด้วยว่าการทำงานตรงนี้ไม่ใช่การปราบปรามกวาดล้าง กลุ่มเจ้าหนี้นอกระบบ แต่เป้าหมายจริงๆ คือต้องการทำสิ่งที่ผิดกฎหมายดึงเข้ามาสู่ระบบถูกกฎหมาย
รมว.คลัง กล่าวว่า จนถึงขณะนี้มีผู้มาลงทะเบียนแล้ว 400,000 ราย ถือว่าไม่น้อยเลย ซึ่งพบว่าพื้นที่ภาคตะออกเฉียงเหนือมีคนมาลงทะเบียนมากที่สุดหากเทียบกับจำนวนประชากร ขณะที่ใน กทม.มีลูกหนี้มาลงทะเบียนจำนวนมากที่สุด โดยตนตั้งเป้าจะมีผู้มาลงทะเบียน 700,000-800,000 ราย แต่คงไม่ถึง ซึ่งเข้าใจว่าคนยังกลัวและไม่เข้าใจนโยบายรัฐบาย จึงอยากทำความเข้าใจนโยบายตรงนี้ให้ชัดเจน ซึ่งไม่ต้องกลัวเพราะการมาลงทะเบียนเพียงแค่มาแจ้งข้อมูลของลูกหนี้ และไม่จำเป็นต้องรายงานข้อมูลเชิงลึกของเจ้าหนี้
นายกรณ์กล่าวด้วยว่า เรามีนโยบายชัดเจนไม่ให้ตำรวจเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับขบวนการหนี้นอกระบบ ซึ่งแม้ข้อเท็จจริงก็รู้ว่ามีตำรวจบางส่วนเข้าไปยุ่งเกี่ยวอยู่ แต่ได้สั่งการกำชับไปแล้วและเชื่อว่าผู้บังคับบัญชาทุกหน่วยจะมีความเด็ดขาดในการดำเนินการ
“เมื่อวานนี้ลงพื้นที่ จ.ขอนแก่น มาแล้ว พบเห็นปัญหาต่างๆ ก็อยากมีแนวคิดในพื้นที่ 19 จังหวัดภาคอีสานเป็นพื้นที่นำร่อง โดยมีเงื่อนไขชำระหนี้เกิน 8 ปี” นายกรณ์กล่าว
รมว.คลัง กล่าวว่า หลังจากมีการลงทะเบียนเจ้าหนี้ลูกหนี้แล้ว ขั้นตอนต่อไปจะมีการตั้งคณะกรรมการเจรจาเพื่อโอนหนี้กลับสู่ระบบ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของกระทรวงการคลังและมหาดไทยดูแล
