รอง อสส.ชงเรื่องตั้งอัยการต่างประเทศร่วมสอบคดีแก๊งค้าอาวุธสงครามข้ามชาติ ด้านทนายยื่นประกันคนละ 4 แสน ศาลอยู่ระหว่างพิจารณาคำร้อง
วันนี้ (14 ธ.ค.) นายถาวร พานิชพันธ์ รองอัยการสูงสุด กล่าวถึงการดำเนินคดีต่อ 5 ผู้ต้องหานักค้าอาวุธข้ามชาติ ว่า เนื่องจากคดีนี้เป็นความผิดที่เกิดขึ้นนอกราชอาณาจักรและกระทำผิดต่อเนื่องในราชอาณาจักรไทยซึ่งตาม พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ 29) พ.ศ.2551 มาตรา 20 บัญญัติว่าให้อำนาจอัยการสูงสุด เป็นพนักงานสอบสวนหรือให้อัยการสูงสุดแต่งตั้งพนักงานสอบสวนผู้หนึ่งผู้ใดหรืออัยการคนหนึ่งคนใดเป็นพนักงานสอบสวนรับผิดชอบคดี หรือให้อัยการสูงสุดแต่งตั้งพนักงานสอบสวน และอัยการ ร่วมเป็นพนักงานสอบสวน
โดยคดีดังกล่าวตนได้รับการประสานจากพนักงานสอบสวนกองปราบปรามแล้ว และตนได้ทำความเห็นเสนอนายจุลสิงห์ วสันตสิงห์ อัยการสูงสุด วันนี้ให้ใช้อำนาจตามมาตรา 20 แต่งตั้งอัยการร่วมสอบสวนคดีกับพนักงานสอบสวน โดยเสนอให้มีพนักงานอัยการจากสำนักงานต่างประเทศ 2 คน คือ นายศิริศักดิ์ ติยะพรรณ อธิบดีอัยการต่างประเทศ และ ร.ต.ต.โสภณ เกษมพิบูลย์ชัย อัยการประจำกรมสำนักงานต่างประเทศ เนื่องจากเห็นว่าคดีนี้เกี่ยวข้องกับเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และหากพบว่าคดีดังกล่าวมีการสอบสวนคดีในต่างประเทศด้วยอัยการก็จะต้องใช้ช่องทางตามกฎหมายระหว่างประเทศประสานขอข้อมูลต่อไป อย่างไรก็ดี คาดว่าภายในสัปดาห์นี้อัยการสูงสุดจะมีหนังสือเป็นทางการออกมาว่าจะใช้อำนาจตามมาตรา 20 อย่างไร
นายถาวรกล่าวต่อว่า สำหรับการใช้อำนาจสอบสวนตามมาตรา 20 ดังกล่าว หากอัยการสูงสุดตัดสินใช้อำนาจแต่งตั้งอัยการร่วมสอบสวนกับพนักงานสอบสวน เมื่อรวบรวมพยานหลักฐานและสรุปสำนวนเป็นที่เรียบร้อยแล้วก็จะต้องนำเสนอสำนวนให้อัยการสูงสุดเป็นผู้พิจารณาสั่งคดีว่าจะฟ้องหรือไม่ฟ้อง
ส่วนจะมีการตั้งเรื่องส่งเป็นผู้ร้ายข้ามแดนหรือไม่ นายถาวรกล่าวว่า คดีนี้ไม่มีการส่งผู้ร้ายข้ามแดนเนื่องจากการกระทำผิดเกิดขึ้นในประเทศไทย และยังไม่ปรากฏว่ามีการกระทำผิดเกิดขึ้นในต่างประเทศ จึงต้องมีการดำเนินคดีตามกฎหมายไทยให้เสร็จสิ้นตามกระบวนการยุติธรรม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 14.30 น.ทนายความของผู้ต้องหาทั้ง 5 คนได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสดคนละ 4 แสนบาท ขอประกันตัวซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างศาลพิจารณาคำร้อง
ล่าสุดเมื่อเวลา 16.30 น. ศาลอาญา พิเคราะห์คำร้องและพฤติการณ์แห่งคดีแล้วเห็นว่า คดีมีอัตราโทษสูง อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนของกลางมีจำนวนมาก ซึ่งหากมีการจำหน่ายแพร่หลายของอาวุธดังกล่าวจะเกิดความเสียหายเป็นอันตรายแก่บุคคลจำนวนมาก และเชื่อว่าหากได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว ผู้ต้องหาอาจจะหลบหนี จึงมีคำสั่งยกคำร้องขอประกันตัว
วันนี้ (14 ธ.ค.) นายถาวร พานิชพันธ์ รองอัยการสูงสุด กล่าวถึงการดำเนินคดีต่อ 5 ผู้ต้องหานักค้าอาวุธข้ามชาติ ว่า เนื่องจากคดีนี้เป็นความผิดที่เกิดขึ้นนอกราชอาณาจักรและกระทำผิดต่อเนื่องในราชอาณาจักรไทยซึ่งตาม พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ 29) พ.ศ.2551 มาตรา 20 บัญญัติว่าให้อำนาจอัยการสูงสุด เป็นพนักงานสอบสวนหรือให้อัยการสูงสุดแต่งตั้งพนักงานสอบสวนผู้หนึ่งผู้ใดหรืออัยการคนหนึ่งคนใดเป็นพนักงานสอบสวนรับผิดชอบคดี หรือให้อัยการสูงสุดแต่งตั้งพนักงานสอบสวน และอัยการ ร่วมเป็นพนักงานสอบสวน
โดยคดีดังกล่าวตนได้รับการประสานจากพนักงานสอบสวนกองปราบปรามแล้ว และตนได้ทำความเห็นเสนอนายจุลสิงห์ วสันตสิงห์ อัยการสูงสุด วันนี้ให้ใช้อำนาจตามมาตรา 20 แต่งตั้งอัยการร่วมสอบสวนคดีกับพนักงานสอบสวน โดยเสนอให้มีพนักงานอัยการจากสำนักงานต่างประเทศ 2 คน คือ นายศิริศักดิ์ ติยะพรรณ อธิบดีอัยการต่างประเทศ และ ร.ต.ต.โสภณ เกษมพิบูลย์ชัย อัยการประจำกรมสำนักงานต่างประเทศ เนื่องจากเห็นว่าคดีนี้เกี่ยวข้องกับเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และหากพบว่าคดีดังกล่าวมีการสอบสวนคดีในต่างประเทศด้วยอัยการก็จะต้องใช้ช่องทางตามกฎหมายระหว่างประเทศประสานขอข้อมูลต่อไป อย่างไรก็ดี คาดว่าภายในสัปดาห์นี้อัยการสูงสุดจะมีหนังสือเป็นทางการออกมาว่าจะใช้อำนาจตามมาตรา 20 อย่างไร
นายถาวรกล่าวต่อว่า สำหรับการใช้อำนาจสอบสวนตามมาตรา 20 ดังกล่าว หากอัยการสูงสุดตัดสินใช้อำนาจแต่งตั้งอัยการร่วมสอบสวนกับพนักงานสอบสวน เมื่อรวบรวมพยานหลักฐานและสรุปสำนวนเป็นที่เรียบร้อยแล้วก็จะต้องนำเสนอสำนวนให้อัยการสูงสุดเป็นผู้พิจารณาสั่งคดีว่าจะฟ้องหรือไม่ฟ้อง
ส่วนจะมีการตั้งเรื่องส่งเป็นผู้ร้ายข้ามแดนหรือไม่ นายถาวรกล่าวว่า คดีนี้ไม่มีการส่งผู้ร้ายข้ามแดนเนื่องจากการกระทำผิดเกิดขึ้นในประเทศไทย และยังไม่ปรากฏว่ามีการกระทำผิดเกิดขึ้นในต่างประเทศ จึงต้องมีการดำเนินคดีตามกฎหมายไทยให้เสร็จสิ้นตามกระบวนการยุติธรรม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 14.30 น.ทนายความของผู้ต้องหาทั้ง 5 คนได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสดคนละ 4 แสนบาท ขอประกันตัวซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างศาลพิจารณาคำร้อง
ล่าสุดเมื่อเวลา 16.30 น. ศาลอาญา พิเคราะห์คำร้องและพฤติการณ์แห่งคดีแล้วเห็นว่า คดีมีอัตราโทษสูง อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนของกลางมีจำนวนมาก ซึ่งหากมีการจำหน่ายแพร่หลายของอาวุธดังกล่าวจะเกิดความเสียหายเป็นอันตรายแก่บุคคลจำนวนมาก และเชื่อว่าหากได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว ผู้ต้องหาอาจจะหลบหนี จึงมีคำสั่งยกคำร้องขอประกันตัว