“นครบาล” ลงดาบรอง สว.จร.สน.สายไหม เลือดร้อนใช้สนับมือต่อยลูกน้องกลางโรงพักเย็บ 28 เข็ม ช่วยราชการ สน.พหลโยธิน ส่วนคู่กรณีถูกย้ายไปช่วยราชการที่คันนายาว หลังไม่พอใจ ด.ต.มาปฏิบัติงานปล่อยแถวช้า 15 นาที พร้อมสั่งสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น สอบวินัยร้ายแรง ดำเนินคดีตามกฎหมาย ด้าน ผบก.น.2 ระบุเป็นเรื่องส่วนตัวไม่ใช่ทะเลาะกันเรื่องงาน เผยก่อนหน้าทั้งคู่วางมวยจนถูก ผกก.สั่งขังจนมาก่อนเหตุซ้ำอีก
จากกรณี ร.ต.อ.อดุลเดช บัวเพ็ง รอง สว.จร.สน.สายไหม ก่อเหตุใช้สนับมือต่อยหน้า ด.ต.นันทชัย นามวงศ์ ผบ.หมู่ จร.สน.สายไหม ลูกน้องของตัวเองกลางโรงพัก จนต้องเย็บถึง 28 เข็ม สาเหตุจากเมื่อวันที่ 7 ธ.ค.ที่ผ่านมา ด.ต.นันทชัย ไปร่วมปฏิบัติหน้าที่ที่จุดตรวจบริเวณแยกโรงเรียนนายเรืออากาศ ถนนจันทรุเบกษา ช้ากว่ากำหนดเป็นเวลา 15 นาที และถูก ร.ต.อ.อดุลเดช ต่อว่าและต่อยกลางสี่แยกมาแล้ว
วันนี้ (9 ธ.ค.) เมื่อเวลา 12.30 น.ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย ผบก.ประจำ บช.น. ในโฆษกประจำกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) กล่าวถึงกรณีที่มีเหตุทะเลาะวิวาทของ ร.ต.อ.อดุลเดช บัวเพ็ง รอง สว.จร.สน.สายไหม ทำร้ายร่างกาย ด.ต.นันทชัย นามวงศ์ สน.สายไหม ซึ่งเรื่องนี้ พล.ต.ท.สัณฐาน ชยนนท์ ผบช.น.ให้ความสนใจโดยสั่งการให้ พล.ต.ต.สาโรจน์ พรหมเจริญ ผบก.น.2 ให้ดูแลเรื่องเป็นพิเศษ โดยสรุปกรณีดังกล่าวทางกองบังคับการตำรวจนครบาล 2 ได้ดำเนินการอยู่ 3 ประการ คือ 1.ในกรณีมีเหตุการณ์ทำร้ายร่างกายซึ่งกันนั้น ให้ดำเนินคดีตามกระบวนการของกฎหมาย ซึ่งก็ได้มีการดำเนินต่อ ร.ต.อ.อดุลเดช ในฐานะที่ทำร้ายร่างกาย ด.ต.นันทชัย และได้สั่งให้พนักงานสืบสวนสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย 2.เพื่อให้เรื่องเกิดความเป็นธรรมจึงมีการตั้งคณะกรรมการ โดยมอบหมายให้ พ.ต.อ.มนตรี เจียมบุรเศรษฐ์ ผกก.อก.บก.น.2 เป็นประธานคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงกระจ่างว่าสาเหตุเกิดจากอะไร 3.เพื่อผลในทางการปกครอง ผบก.น.2 ได้แยกคู่กรณีออกจากกัน โดยสั่งด่วน ร.ต.อ.อดุลเดช รอง สว.ไปปฏิบัติการที่ สน.พหลโยธิน ส่วน ด.ต.นันทชัย ให้ไปช่วยราชการที่ สน.คันนายาว ซึ่งเรื่องนี้ ผบก.น.2 ได้ลงไปดูแลเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดถือเป็นการไม่เหมาะสมซึ่งไม่ควบคุมอารมณ์ทั้งสองฝ่าย และได้กำชับทาง สว.จร.และ ผกก.สน.สายไหมให้ลงไปแก้ไขปัญหาเรื่องนี้โดยด่วน
ขณะที่ พล.ต.ต.สาโรจน์ พรหมเจริญ ผบก.น.2 กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีนี้ว่า เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่ร่างกายและจิตใจต่อ ร.ต.อ.อดุลเดช ไว้ก่อน พร้อมทั้งมีคำสั่งย้ายเจ้าตัวไปช่วยราชการที่ สน.พหยโยธิน แล้ว ส่วน ด.ต.นันทชัย ก็สั่งย้ายไปช่วยราชการที่ สน.คันนายาว นอกจากนี้ ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.มนตรี เจียมบุรเศรษฐ์ ผกก.ฝอ.บก.น.2 เป็นหัวหน้าคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงกับ ร.ต.อ.อดุลเดช เพื่อหาข้อเท็จจริงกรณีที่เกิดขึ้น และรายงานให้ตนทราบภายใน 7 วัน เบื้องต้นทราบว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเรื่องส่วนตัวไม่ใช่เกิดจากเรื่องงานแต่อย่างใด
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับตัว ร.ต.อ.อดุลเดช กับ ด.ต.นันทชัย นั้นเป็นเพื่อนกันมาก่อน แต่วันเกิดเหตุเมื่อ 7 ธ.ค.ที่ผ่านมานั้น ร.ต.อ.อดุลเดช ได้เรียกปล่อยแถวจราจรเพื่อออกไปปฏิบัติหน้าที่ แต่ ด.ต.นันทชัย มาช้าเลยถูก ร.ต.อ.อดุลเดช ด่าว่าต่อหน้าเพื่อนตำรวจจราจรด้วยกัน หลังจากปล่อยแถวเสร็จแล้ว ร.ต.อ.อดุลเดช ก็ยังเดินตามมาด่าจน ด.ต.นันทชัย ทนไม่ไหวหันไปต่อย ร.ต.อ.อดุลเดช ก่อน จากนั้นทั้งคู่ก็แลกหมัดกันนัวเนีย เดือดร้อนถึง ผกก.สน.สายไหม ต้องมาห้ามทัพ และสั่งขังทั้ง 2 คนเป็นการสงบสติอารมณ์ จนกระทั่งวานนี้ (8 ธ.ค.) จู่ๆ ร.ต.อ.อดุลเดช ก็เดินตรงเข้ามาต่อย ด.ต.นันทชัย จนได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
