“ปทีป” ให้อิสระ ป.ทำคดีทุจริตซื้อ จยย.ลั่นไม่ช่วยบิ๊ก ตร.หากมีเอี่ยว

“ปทีป” เผย คดีทุจริตจัดซื้อรถ จยย.สายตรวจ ตร.มีการตั้งกรรมการสอบวินัยแล้ว ในสมัยอดีตนายกฯสมัคร

วันนี้ (26 พ.ย.) เมื่อเวลา 15.30 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รรท.ผบ.ตร.กล่าวถึงกรณีตำรวจกองปราบปรามเข้าค้นบ้านพักของอดีต ผบ.สำนักงบประมาณ กระทรวงการคลัง และ พ.ต.อ.รวมนคร ทับทิมธงไชย ผู้บริหาร บ.อาร์เอ็นที จำกัด และอดีตนายตำรวจชื่อดัง เพื่อหาหลักฐานการทุจริตการจัดซื้อจัดจ้างรถจักรยานยนต์สายตรวจของ ตร.ว่า ขณะนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามไม่ได้รายงานอะไรให้ตนทราบ เพราะเป็นการดำเนินคดีไปตามปกติ แต่เท่าที่ตนทราบก็เป็นคดีเรื่องการจัดซื้อรถจักรยานยนต์ ที่มีผู้ไปร้องทุกข์ที่กองปราบปราม ถือว่าเป็นการดำเนินคดีไปตามปกติ ส่วนเรื่องมูลค่าความเสียหายนั้น ถือว่ายังพิสูจน์ไม่ได้ แต่คดีนี้ เท่าที่จำได้เกิดขึ้นในสมัยที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส เป็น ผบ.ตร.ในปี 2550 และมีการตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงกัน โดยมี นายจุฑาธวัช อินทรสุขสี อดีตปลัดกระทรวงแรงงาน เป็นประธานกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้ แต่ตนก็ไม่รู้จบอย่างไร เพราะตอนนั้นตนไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องอะไร ส่วนเรื่องทางการสอบสวนทางวินัยนั้น มีการตั้งคณะกรรมการเช่นกัน

ยันให้กองปราบทำคดีอย่างอิสระ

ผู้สื่อข่าวถามว่า ทาง ตร.ต้องตรวจสอบด้วยหรือไม่ว่า มีข้าราชการตำรวจระดับอี่นที่มีอำนาจในการทำสัญญา เกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ พล.ต.อ.ปทีป กล่าวว่า ต้องรอดูผลการสืบสวนของคณะกรรมการ ที่มี นายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาของ ผบ.ตร.เป็นผู้แต่งตั้ง ซึ่งเรืองนี้น่าจะอยู่ที่ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สำหรับโครงการจัดซื้อรถ จยย.นั้น ทางตร.ได้จ่ายเงินไปหมดแล้ว และผ่านมา 2 ปีแล้ว

เมื่อซักว่าทาง ตร.จะต้องลงไปกำชับการทำงานของพนักงานสอบสวน กองปราบปรามหรือไม่ พล.ต.อ.ปทีป กล่าวว่า ในทางวินัยก็มีการตั้งคณะกรรมการมาก่อนนี้แล้ว ส่วนคดีอาญาก็มีคนไปแจ้งความที่กองปราบปราม ซึ่งทางกองปราบปรามก็ดำเนินการไป และปล่อยให้ทั้งส่วนนี้ เดินหน้าต่อไป

ไม่คิดว่าคดีนี้เกี่ยวโยงกับการเมือง ปัดตอบคนใกล้ชิดเกี่ยวข้องกับคดี

ส่วนข้อถามที่ว่า ทาง ตร.ต้องตั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูงไปกำกับดูแลคดีนี้ ทั้งทางอาญาและวินัย ด้วยหรือไม่ พล.ต.อ.ปทีป กล่าวต่อว่า โดยระเบียบแล้ว การตั้งสอบวินัย ซ้อนวินัยนั้นทำไม่ได้ คือ วินัย ก็ตั้งแล้ว โดย นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ในสมัยนั้น โดยได้ตั้งอดีตปลัดกระทรวงแรงงานแล้วและทางอาญาก็มีกองปราบปราม ก็มีหัวหน้าพนักงานสอบสวนอยู่แล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องให้ใครไปดูแล ก็ดำเนินคดีไปตามปกติ

สำหรับกรณีมีกระแสข่าวว่า การเปิดเผยชื่อ พล.ต.ท.ป.ซึ่งใกล้ชิดกับ พล.ต.อ.ปทีป รวมอยู่ด้วยนั้น คิดว่าเป็นการดิสเครดิตหรือไม่ พล.ต.อ.ปทีป กล่าวว่า เมื่อยังตอบไม่ได้ว่า พล.ต.ท.ป.คนนี้เป็นใคร ตนก็ตอบอะไรไม่ได้ แต่ขณะนี้กองปราบปรามเขาดำเนินการตามสำนวนสอบสวน อย่าเพิ่งไปคาดเดาอะไร เมื่อผลการสอบสวนเป็นอย่างไรก็เอาตรงนี้ไปดำเนินการ โดยยืนยันว่าหากสอบสวนแล้ว มีตำรวจระดับสูงเกี่ยวข้องนั้น จะไม่มีการช่วยเหลือกัน ทุกอย่างว่าไปตามข้อเท็จจริง ไม่มีการปกป้อง และไม่เคยมองว่า คดีนี้ จะเกี่ยวโยงกับการเมือง

ก.ต.ช.ประชุมเลือก “สุภา” เป็นคณะกรรมการ ก.ต.ช.แทน “ปิยะพันธ์” ที่ลาออก

พล.ต.อ.ปทีป กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) ว่า วันนี้ได้ประชุมเพื่อเลือก ก.ต.ช.ผู้ทรงคุณวุฒิแทน นายปิยะพันธุ์ นิมมานเหมินท์ ที่ลาออกไป โดยทาง ตร.ได้เสนอชื่อไป 2 ท่าน ท่านหนึ่งอยู่กระทรวงการคลัง คือ นางสุภา ปิยะจิตติ อดีตปลัดกระทรวงการคลัง โดยในที่ประชุมมีมติเลือกนางสุภา เป็น ก.ต.ช.ผู้ทรงคุณวุฒิ และในที่ประชุมก็ไม่ได้มีการพูดคุยเรื่องการเลือก ผบ.ตร.คนใหม่แต่อย่างใด ส่วนจะประชุมอีกครั้งเมื่อไหร่นั้นตนไม่ทราบ ต้องไปถามนายกรัฐมนตรี

มีรายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้านี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติเตรียมเสนอชื่อ นายบัณฑูร สุภัควาณิช อดีต ผอ.สำนักงบประมาณ เป็นหนึ่งในตัวเลือกเป็น ก.ต.ช.ผู้ทรงคุณวุฒิเข้าที่ประชุม ก.ต.ช.แต่เมื่อตำรวจกองปราบปรามไปตรวจค้นบ้านพักนายบัณฑูร ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับการทุจริตจัดซื้อจัดจ้างรถ จยย.สายตรวจของ ตร.ทำให้ ตร.ตัดชื่อนายบัณฑูรออกไป

เชื่อมั่น บช.ภ.5 ดูแลนายกฯ ลงพื้นที่เชียงใหม่ได้

พล.ต.อ.ปทีป กล่าวถึงกรณีที่ตำรวจเชียงใหม่ตรวจค้นบ้านแกนนำกลุ่มเสื้อแดง พบระเบิดปิงปองจำนวนมาก ว่า ยังไม่ได้รับรายงานในเรื่องนี้ แต่เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะตั้งด่านตรวจค้นเพื่อเตรียมการดูแลความปลอดภัยให้กับนายกรัฐมนตรีที่จะลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่อยู่แล้ว ซึ่งจากการพูดคุยกับ พล.ต.ท.สมคิด บุญถนอม ผบช.ภ.5 ก็เชื่อว่า สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร มีการจัดกำลังดูแลเต็มที่อยู่แล้ว

ต่อข้อถามที่ว่า จะมีการเสนอให้นายกรัฐมนตรีเลื่อนการลงพื้นที่หรือไม่ พล.ต.อ.ปทีป กล่าวว่า ตนเองคงไม่สามารถที่จะเสนอนายกฯ แบบนั้นได้ แต่จะเป็นการให้ข้อมูลกับนายกรัฐมนตรี ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจพบอะไรในพื้นที่ สถานการณ์ในพื้นที่เป็นอย่างไรเพื่อประกอบการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรี แต่ถึงตอนนี้ ผบช.ภ.5 ยืนยันว่า สามารถควบคุมสถานการณ์ได้

“ปทีป” ยันดำเนินการถอดยศ “ทักษิณ” แต่ติดปัญหาข้อกฎหมาย เชื่อมั่นจะเสร็จในเร็วนี้

พล.ต.อ.ปทีป กล่าวถึงความคืบหน้าการถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า เรื่องนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการ ก่อนหน้านี้ มีกลุ่ม ส.ว.3-4 คน มายื่นคัดค้านการถอดยศโดยยกปัญหาข้อกฎหมายขึ้นมา ว่า การพิจารณาถอดยศไม่ถูกต้องตามข้อกฎหมาย ทำให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องส่งเรื่องนี้ไปให้ท่างฝ่ายกฎหมายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติพิจารณาอีกครั้งให้รอบคอบ ซึ่งคงไม่ส่งไปให้กฤษฎีกาดูอีก คงจบที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งคงใช้เวลาไม่นาน เร็วๆ นี้ ก็คงจบกระบวนการ ส่งให้ ครม.พิจารณาต่อไป