“วิชัย” แถ ตร.หนีลงอ่างเมินบึ้มพันธมิตรฯ แค่โวหารใช่ตำหนิ!

“วิชัย” แถ ผบช.น.เพียงยกคำเปรียบเปรยการทำงานตำรวจไม่ดูแลชุมนุมพันธมิตรฯ หรือหนีเที่ยวอาบอบนวดจนเป็นเหตุเกิดความรุนแรง ยัน ผกก.ชนะสงครามป่วย รักษาราชการแทนอยู่ในพื้นที่ควบคุมงานตลอดไม่นิ่งเฉย ยอมรับการ รปภ.บางจุดไม่เป็นตามแผนแต่ไม่เชิงหละหลวม พร้อมน้อมรับคำตำหนิไปปรับปรุง จะเชิญ “เสธ.แดง” สอบหลังระบุจะเกิดระเบิด

วันนี้ (17 พ.ย.) เมื่อเวลา 11.00 น. พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 เปิดเผยความคืบหน้าการคลี่คลายเหตุคนร้ายยิงระเบิดเอ็ม 79 ใส่บริเวณด้านหลังเวทีการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรฯ ทำให้มีผู้บาดเจ็บหลายรายว่า ตนในฐานะเจ้าของพื้นที่ ได้ตั้งคณะทำงาน ประกอบด้วยฝ่ายสืบสวน ฝ่ายสอบสวนและฝ่ายจัดกำลัง โดยจะนำเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนทุกโรงพักในพื้นที่ บก.น.1 เพื่อสืบสวนหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดี นอกจากนี้ก็ได้ประสานกับ กทม.เพื่อตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในบริเวณจุดเกิดเหตุ เพื่อนำมาเป็นแนวทางการสืบสวน เพราะเชื่อว่าคนยิงอาจจะมีการวางแผนหรือมาสังเกตการณ์ก่อนลงมือก่อเหตุ

ผบก.น.1 กล่าวต่อว่า คณะทำงานที่ตั้งขึ้นสามารถดำเนินงานได้ทันที โดยจะมีการประชุมสรุปคดีทุกๆ 3 หรือ 7 วัน อย่างไรก็ตาม หากมีการตั้งคณะทำงานแล้วในส่วนของบช.น. ก็อาจจะยุบหรือรวบชุดของตน เข้ากับคณะทำงานชุดใหญ่ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาลตั้งขึ้นก็ได้ และยอมรับว่ามีความหนักใจในการทำคดีอยู่บ้างเพราะยังไม่สามารถจับกุมคนร้ายได้ แต่ได้กำชับให้ผู้ใต้บังคับบัญชาทำงานอย่างเต็มที่

ผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีการเชิญนายทหารหรือผู้เชี่ยวชาญบางท่านมาสอบถามด้วยหรือไม่ พล.ต.ต.วิชัย กล่าวว่า ไม่จำเป็น เพราะทางตำรวจมีผู้เชี่ยวชาญที่สามารถให้ความเห็นได้อยู่แล้ว เช่น ตำรวจ ตชด.ส่วนกรณีของเสธ.แดง นั้นเข้าใจว่า ก่อนเกิดเหตุ มีข้อความในเว็บไซต์ของท่าน ว่าจุดที่อันตรายมีตรงไหนบ้าง ซึ่งทางตำรวจอาจจะเรียกมาซักถามเป็นข้อมูลว่าที่รู้มานั้น ท่านรู้มาจากไหน หรือเป็นความชำนาญจากวิชาความรู้ แต่ไม่ได้เรียกมาสอบสวนในฐานะผู้ต้องสงสัย เพราะการเรียกใครมาสอบสวนไม่ได้ทำง่ายๆ ต้องมีข้อมูลจากการสืบสวนพอสมควร

นอกจากนี้ผบก.น.1 ยังกล่าวปฏิเสธ กระแสข่าวที่ว่า พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. ได้ตำหนิที่ประชุมว่าตำรวจทำงานไม่เต็มที่ โดยกล่าวว่า ผบช.น.ไม่ได้ตำหนิว่าตำรวจปล่อยปละละเลย แต่พูดในลักษณะเปรียบเทียบหรือยกตัวอย่าง บอกว่าแผนจัดกำลังดีมาก แต่เกิดเหตุการณ์ขึ้นได้อย่างไร เหมือนกับตำรวจไม่เอาใจใส่ ซึ่งยืนยันว่าตำรวจทำงานเต็มที่แล้ว

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่มีการระบุว่าผู้กำกับมาช้ากว่าผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ขอยืนยันว่า วันเกิดเหตุนั้นผู้กำกับการ สน.ชนะสงคราม ป่วยรักษาตัวที่โรงพยาบาล มีเพียงรองผู้กำกับการรักษาราชการแทน และอยู่ในพื้นที่เช่นกัน แต่ยอมรับว่าการทำงานครั้งนี้มีบางจุดไม่ได้ดำเนินการตามแผนบ้าง แต่ไม่ได้หละหลวม และพร้อมน้อมรับคำตำหนิเพื่อนำไปปรับปรุง