ป.ตามรวบเจ้าของร้านขายกล้องดิจิตอลชื่อดัง มีหลายสาขาทั่วประเทศคาดอนเมือง หลังถูกแจ้งจับจ่ายเช็คเด้ง เจ้าตัวรับธุรกิจเจ๊งเป็นหนี้กว่า 30 ล้านบาท
วันนี้ ( 16 พ.ย.) ที่ กองปราบปราม เมื่อเวลา 11.30 พ.ต.อ.อัคราเดช พิมลศรี ผกก.2 บก.ป.พร้อมด้วย พ.ต.ท.เมธา วงศ์อนันต์นนท์ สว.กก.2 บก.ป.นำกำลังจับกุม นายบุญรอด ลิ้มเจริญ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 89/1 หมู่ 9 แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กทม.ตามหมายจับศาลแขวงพระนครเหนือ ที่ จ 1935/2552 ลงวันที่ 18 สิงหาคม 2552 ข้อหาออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมายโดยมีเจตนาที่จะไม่ใช้เงินตามเช็คนั้น ออกเช็คให้ใช้เงินจำนวนสูงกว่าที่มีอยู่ในบัญชีอันพึงให้ใช้เงินได้ขณะออกเช็คและธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คนั้น ตาม พ.ร.บ.เช็ค จับกุมได้ที่บริเวณหน้าอาคารท่าอากาศยานกรุงเทพ (ดอนเมือง) ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กทม.
ทั้งนี้ นายบุญรอด ผู้ต้องหาเป็นเจ้าของร้าน “บาส” ประกอบกิจการจำหน่ายกล้องดิจิตอลนำเข้าจากต่างประเทศซึ่งเปิดสาขาทั่วประเทศ โดยเฉพาะตามห้างสรรพสินค้าชื่อดังถูกแจ้งความคดีเช็คหลายคดี จนศาลออกหมายจับก่อนเจ้าตัวหลบหนีไป ต่อมาชุดสืบสวน กก.2 บก.ป.สืบทราบว่าผู้ต้องหาได้มาทำธุระที่บริเวณท่าอากาศยานกรุงเทพ จึงเข้าจับกุมตัวมาสอบสวน
นายบุญรอด รับสารภาพว่า ช่วงเริ่มแรกที่ทำธุรกิจเปิดร้าน “บาส” กิจการก็เติบโตและมีผลประกอบการดี จึงนำเงินกำไรไปซื้อสินค้าและอุปกรณ์เครื่องอัดภาพซึ่งมีราคาสูงถึง 20 ล้านบาท เพื่อขยายกิจการ กระทั่งช่วง 2 ปีหลังเริ่มประสบปัญหาเศรษฐกิจทำให้มีหนี้สินเป็นจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ กว่า 30 ล้านบาท
"ที่ผ่านมาผมพยายามหาเงินมาหมุนโดยไม่คิดที่จะจ่ายเช็คเด้งแต่ก็จนปัญญาจึงต้องหลบหนี ส่วนกิจการได้ให้ภรรยาดำเนินการต่อแต่ใช้วิธีการจำหน่ายสินค้าทางอินเตอร์เน็ตเท่านั้น" นายบุญรอด กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบประวัติของผู้ต้องหาพบว่าทำงานเป็นวิศวกรช่างเครื่องของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และมีหมายจับตามความผิด พ.ร.บ.เช็ค อีก 3 หมาย ในท้องที่ สน.เตาปูน ทั้งนี้ ชุดจับกุมได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง รับไว้ดำเนินคดีต่อไป