บ่อน "369" ย่านเยาวราชนับเป็นอีกหนึ่งผลงานชิ้นโบแดงของเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจปราบปรามอบายมุขสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ของ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รรท.ผบ.ตร.ที่มีคำสั่งกวาดล้างปราบปรามจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับอบายมุขในทุกพื้นที่ที่มีการลักลอบกระทำผิดทั่วราชอาณาจักร
วินาทีจับกุมบ่อน “369” ล่าสุด ต้องบอกว่าการเข้าจับกุมครั้งนี้ใช้กำลังตำรวจคอมมานโดกว่า 100 นาย แบ่งเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมออกเป็นสองชุด ชุดแรกเคลื่อนตัวเข้ารายล้อมตัวอาคารอย่างเงียบเชียบ ก่อนพุ่งเข้าล็อกพวกปลาซิวปลาสร้อยที่ทำหน้าที่เป็นต้นทางเอาไว้ ก่อนที่จะพังประตูบุกขึ้นไปยังบ่อนซึ่งตั้งอยู่ชั้นที่ 4 จากนั้นเฮลิคอปเตอร์ซึ่งบินอยู่รอบตัวอาคารก็ลงจอดที่ดาดฟ้าชั้นที่ 6 ก่อนปล่อยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจคอมมานโดโรยตัวลงมายังชั้นที่ 4
เมื่อปฏิบัติการทลายบ่อน สามารถบุกเข้าไปภายในบ่อนได้ก็พบว่าภายในเป็นห้องโถงใหญ่ มีนักพนันกำลังเล่นไพ่บาคาร่าอยู่ 5 โต๊ะ และถั่วครอบอีก 1 โต๊ะ นอกจากนี้ยังมีห้องวีไอพีอีก 1 ห้อง ภายในมีนักพนันกำลังเล่นพนันไพ่บาคาร่าอีก 4 โต๊ะ กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งหมดรวมทั้งตำรวจซึ่งแฝงตัวเข้าไปเป็นนักพนันอยู่ในบ่อนก็กระจายกำลังกันเข้าจับกุมนักพนันเอาไว้ได้ทั้งหมด 228 คน แบ่งเป็นชาย 138 คน หญิง 90 คน พร้อมของกลางชิปแลกเงินจำนวน 158 ล้านบาท เงินสดประมาณ 500,000 บาท ไพ่ประมาณ 500 สำรับ เครื่องแจกไพ่กว่า 10 เครื่อง
งานนี้ พล.ต.ต.อดิเทพ ปัญจมานนท์ รองผบช.ปส. เปิดเผยว่า บ่อนการพนันแห่งนี้เป็นที่รู้จักกันดีในนาม “บ่อน 369” จึงได้วางแผนส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจแฝงตัวเข้าไปในบ่อนดังกล่าว จากนั้นได้ทำการส่งสัญญาณให้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ซุ่มตัวอยู่รอบอาคาร เข้าทลายบ่อนจนสามารถจับกุมนักพนันเอาไว้ได้ดังกล่าว
การทลายจับบ่อนของชุดเฉพาะกิจชุดนี้ถือเป็นงานที่สองแล้ว โดยก่อนหน้านี้ชุดเดียวกันลงพื้นที่ไม่ไว้หน้าเจ้าของท้องที่อย่าง สน.ห้วยขวาง แบบไม่ตั้งตัวเมื่อกลางดึกของคืนวันที่ 24 ต.ค.52 “เอสดี สนุกเกอร์” ในตลาดสดห้วยขวาง ที่อยู่ด้านหลังโรงพักเพียง 50 เมตร ก่อนที่จะชุดจับกุมจะเข้าทลายพบเปิดเล่นพนันครบวงจร ทั้งโต๊ะบอล บาคาร่า ทายผลแข่งวิ่งหมา สล็อตผลไม้ ทายผลสล็อตการ์ตูน ยอดเงินรวมกว่า 68 ล้านบาท แถมโต๊ะบอลรายใหญ่แห่งนี้มีคนมีสีอย่าง “เสธ.หนุ่ย” เป็นเจ้าของ สุดท้ายตามมาเป็นผลให้ พ.ต.อ.อนุรักษ์ นาคพนม ผกก.สน.ห้วยขวาง ถูกเด้งเข้ากรุไปตามระเบียบ
หากเอ่ยถึงบ่อนในเมืองไทยที่ขึ้นชื่อติดอันดับต้นๆต้องยกให้ “บ่อนเตาปูน” ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในเมืองกรุงมานานแล้ว อยู่ท่ามกลางชุมชนตรอกข้าวสารไม่เคยมีตำรวจหน่วยใดสามารถบุกทะลวงเข้าไปจับกุมนักเล่นได้แบบคาหนังคาเขา ซึ่งสมัยนั้นเป็นยุคของพล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ เป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติในขณะนั้น จนแล้วจนเล่าตำนานบ่อนอภิมหาอมตนิรันดรกาลก็ต้องมาเจอแผนเด็ดของ พล.ต.ต.วินัย ทองสอง ผู้บังคับการกองปราบปราม (ดำรงตำแหน่งในขณะนั้น) งัดแผนปฏิบัติการเหนือเมฆครั้งนี้ใช้ชื่อ “เดอะแคท โอเปอเรชั่น” หรือยุทธการปิดประตูตีแมว!?!
แผนเดอะแคทในครั้งนั้น มีตำรวจคอมมานโดเป็นหน่วยหลัก เคลื่อนตัวเข้ารายล้อมบ่อนการพนันอย่างเงียบเชียบ โดยแบ่งกำลังเป็น 3 ชุด ชุดแรกพุ่งเข้าล็อกเด็กวัยรุ่นเกือบ 10 คน ที่ทำหน้าที่เป็นต้นทาง ส่วนชุดที่ 2 บุกเข้าทางประตูเข้าออกทุกช่องทาง โดยมีตำรวจที่แฝงตัวเป็นนักพนันมานานกว่า 2 เดือน ออกมาเปิดประตูรอไว้ ขณะที่คอมมานโด ชุดสุดท้ายติดอาวุธครบมือ 10 นาย โรยตัวจากเฮลิคอปเตอร์ ลงมาบนหลังคาของอาคารที่เป็นตัวบ่อน ใช้คีมตัดลวดหนามด้านบนของหลังคาออก เนื่องจากเจ้าของบ่อนนำมาขึงขวางกั้นการปีนเข้ามาตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ และเป็นการป้องกันการจู่โจมจากทางอากาศไปในตัว
ทันทีที่นักพนันชายหญิงหลายร้อยคนรู้ว่ามีตำรวจบุกเข้ามา ต่างพากันวิ่งหลบหนีอย่างจ้าละหวั่น บางส่วนพยายามรวบรวมเงินทองและชิพ วิ่งหลบออกไปทางประตูที่เป็นช่องทางหลบหนี แต่ถูกหน่วยคอมมานโดบล็อกประตูไว้ก่อนคล้องด้วยกุญแจ ทำให้นักพนันถูกจับได้ทั้งหมด ไม่สามารถหลบหนีได้แม้แต่คนเดียว ใช้เวลาปฏิบัติการเพียง 5 นาที สามารถสยบบ่อนแห่งนี้จนราบคาบ จับนักพนันชายหญิงไว้ได้ 353 คน แยกเป็นชาย 186 คน หญิง 167 คนพร้อมของกลางเงินสดและชิปแลกเงินรวมมูลค่าหลายร้อยล้านบาท
“การปฏิบัติการทั้งภาคพื้นดินและอากาศ เข้าจู่โจมพร้อมกัน ตามเวลาและแผนที่กำหนดไว้อย่างสมบูรณ์ ใช้ความเข้มแข็งของบ่อนที่สร้างไว้ให้เป็นประโยชน์ ทำให้นักพนันไม่สามารถเล็ดลอดจากปราการที่เข้มแข็งของบ่อนออกมาได้แม้แต่คนเดียว” พล.ต.ต.วินัย กล่าวถึงแผนเด็ด
ปฏิบัติการทลายบ่อนทั้งสองแม้จะต่างยุคต่างสมัย แต่วิธีการและการวางแผน ค่อนข้างมีส่วนคล้ายคลึงกันไม่ใช่น้อย ทั้งการใช้คอมมานโด ใช้เฮลิคอปเตอร์ หรือการใช้สายลับเข้าปลอมปะปนเข้าไปเป็นผู้เล่น ทั้งหมดนำมาซึ่งผลงานชิ้นโบว์แดง แบบนี้ต้องปรบมือดังๆ ให้แก่ผู้ปฏิบัติงาน
วินาทีจับกุมบ่อน “369” ล่าสุด ต้องบอกว่าการเข้าจับกุมครั้งนี้ใช้กำลังตำรวจคอมมานโดกว่า 100 นาย แบ่งเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมออกเป็นสองชุด ชุดแรกเคลื่อนตัวเข้ารายล้อมตัวอาคารอย่างเงียบเชียบ ก่อนพุ่งเข้าล็อกพวกปลาซิวปลาสร้อยที่ทำหน้าที่เป็นต้นทางเอาไว้ ก่อนที่จะพังประตูบุกขึ้นไปยังบ่อนซึ่งตั้งอยู่ชั้นที่ 4 จากนั้นเฮลิคอปเตอร์ซึ่งบินอยู่รอบตัวอาคารก็ลงจอดที่ดาดฟ้าชั้นที่ 6 ก่อนปล่อยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจคอมมานโดโรยตัวลงมายังชั้นที่ 4
เมื่อปฏิบัติการทลายบ่อน สามารถบุกเข้าไปภายในบ่อนได้ก็พบว่าภายในเป็นห้องโถงใหญ่ มีนักพนันกำลังเล่นไพ่บาคาร่าอยู่ 5 โต๊ะ และถั่วครอบอีก 1 โต๊ะ นอกจากนี้ยังมีห้องวีไอพีอีก 1 ห้อง ภายในมีนักพนันกำลังเล่นพนันไพ่บาคาร่าอีก 4 โต๊ะ กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งหมดรวมทั้งตำรวจซึ่งแฝงตัวเข้าไปเป็นนักพนันอยู่ในบ่อนก็กระจายกำลังกันเข้าจับกุมนักพนันเอาไว้ได้ทั้งหมด 228 คน แบ่งเป็นชาย 138 คน หญิง 90 คน พร้อมของกลางชิปแลกเงินจำนวน 158 ล้านบาท เงินสดประมาณ 500,000 บาท ไพ่ประมาณ 500 สำรับ เครื่องแจกไพ่กว่า 10 เครื่อง
งานนี้ พล.ต.ต.อดิเทพ ปัญจมานนท์ รองผบช.ปส. เปิดเผยว่า บ่อนการพนันแห่งนี้เป็นที่รู้จักกันดีในนาม “บ่อน 369” จึงได้วางแผนส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจแฝงตัวเข้าไปในบ่อนดังกล่าว จากนั้นได้ทำการส่งสัญญาณให้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ซุ่มตัวอยู่รอบอาคาร เข้าทลายบ่อนจนสามารถจับกุมนักพนันเอาไว้ได้ดังกล่าว
การทลายจับบ่อนของชุดเฉพาะกิจชุดนี้ถือเป็นงานที่สองแล้ว โดยก่อนหน้านี้ชุดเดียวกันลงพื้นที่ไม่ไว้หน้าเจ้าของท้องที่อย่าง สน.ห้วยขวาง แบบไม่ตั้งตัวเมื่อกลางดึกของคืนวันที่ 24 ต.ค.52 “เอสดี สนุกเกอร์” ในตลาดสดห้วยขวาง ที่อยู่ด้านหลังโรงพักเพียง 50 เมตร ก่อนที่จะชุดจับกุมจะเข้าทลายพบเปิดเล่นพนันครบวงจร ทั้งโต๊ะบอล บาคาร่า ทายผลแข่งวิ่งหมา สล็อตผลไม้ ทายผลสล็อตการ์ตูน ยอดเงินรวมกว่า 68 ล้านบาท แถมโต๊ะบอลรายใหญ่แห่งนี้มีคนมีสีอย่าง “เสธ.หนุ่ย” เป็นเจ้าของ สุดท้ายตามมาเป็นผลให้ พ.ต.อ.อนุรักษ์ นาคพนม ผกก.สน.ห้วยขวาง ถูกเด้งเข้ากรุไปตามระเบียบ
หากเอ่ยถึงบ่อนในเมืองไทยที่ขึ้นชื่อติดอันดับต้นๆต้องยกให้ “บ่อนเตาปูน” ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในเมืองกรุงมานานแล้ว อยู่ท่ามกลางชุมชนตรอกข้าวสารไม่เคยมีตำรวจหน่วยใดสามารถบุกทะลวงเข้าไปจับกุมนักเล่นได้แบบคาหนังคาเขา ซึ่งสมัยนั้นเป็นยุคของพล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ เป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติในขณะนั้น จนแล้วจนเล่าตำนานบ่อนอภิมหาอมตนิรันดรกาลก็ต้องมาเจอแผนเด็ดของ พล.ต.ต.วินัย ทองสอง ผู้บังคับการกองปราบปราม (ดำรงตำแหน่งในขณะนั้น) งัดแผนปฏิบัติการเหนือเมฆครั้งนี้ใช้ชื่อ “เดอะแคท โอเปอเรชั่น” หรือยุทธการปิดประตูตีแมว!?!
แผนเดอะแคทในครั้งนั้น มีตำรวจคอมมานโดเป็นหน่วยหลัก เคลื่อนตัวเข้ารายล้อมบ่อนการพนันอย่างเงียบเชียบ โดยแบ่งกำลังเป็น 3 ชุด ชุดแรกพุ่งเข้าล็อกเด็กวัยรุ่นเกือบ 10 คน ที่ทำหน้าที่เป็นต้นทาง ส่วนชุดที่ 2 บุกเข้าทางประตูเข้าออกทุกช่องทาง โดยมีตำรวจที่แฝงตัวเป็นนักพนันมานานกว่า 2 เดือน ออกมาเปิดประตูรอไว้ ขณะที่คอมมานโด ชุดสุดท้ายติดอาวุธครบมือ 10 นาย โรยตัวจากเฮลิคอปเตอร์ ลงมาบนหลังคาของอาคารที่เป็นตัวบ่อน ใช้คีมตัดลวดหนามด้านบนของหลังคาออก เนื่องจากเจ้าของบ่อนนำมาขึงขวางกั้นการปีนเข้ามาตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ และเป็นการป้องกันการจู่โจมจากทางอากาศไปในตัว
ทันทีที่นักพนันชายหญิงหลายร้อยคนรู้ว่ามีตำรวจบุกเข้ามา ต่างพากันวิ่งหลบหนีอย่างจ้าละหวั่น บางส่วนพยายามรวบรวมเงินทองและชิพ วิ่งหลบออกไปทางประตูที่เป็นช่องทางหลบหนี แต่ถูกหน่วยคอมมานโดบล็อกประตูไว้ก่อนคล้องด้วยกุญแจ ทำให้นักพนันถูกจับได้ทั้งหมด ไม่สามารถหลบหนีได้แม้แต่คนเดียว ใช้เวลาปฏิบัติการเพียง 5 นาที สามารถสยบบ่อนแห่งนี้จนราบคาบ จับนักพนันชายหญิงไว้ได้ 353 คน แยกเป็นชาย 186 คน หญิง 167 คนพร้อมของกลางเงินสดและชิปแลกเงินรวมมูลค่าหลายร้อยล้านบาท
“การปฏิบัติการทั้งภาคพื้นดินและอากาศ เข้าจู่โจมพร้อมกัน ตามเวลาและแผนที่กำหนดไว้อย่างสมบูรณ์ ใช้ความเข้มแข็งของบ่อนที่สร้างไว้ให้เป็นประโยชน์ ทำให้นักพนันไม่สามารถเล็ดลอดจากปราการที่เข้มแข็งของบ่อนออกมาได้แม้แต่คนเดียว” พล.ต.ต.วินัย กล่าวถึงแผนเด็ด
ปฏิบัติการทลายบ่อนทั้งสองแม้จะต่างยุคต่างสมัย แต่วิธีการและการวางแผน ค่อนข้างมีส่วนคล้ายคลึงกันไม่ใช่น้อย ทั้งการใช้คอมมานโด ใช้เฮลิคอปเตอร์ หรือการใช้สายลับเข้าปลอมปะปนเข้าไปเป็นผู้เล่น ทั้งหมดนำมาซึ่งผลงานชิ้นโบว์แดง แบบนี้ต้องปรบมือดังๆ ให้แก่ผู้ปฏิบัติงาน