บรรทุก 6 ล้อหลุดโค้งพุ่งชนรถ ปอ.80 อย่างจัง ทั้ง 2 คันพลิกคว่ำ ไถลไปถูกเก๋งโตโยต้าได้รับความเสียหาย บาดเจ็บ 10 สาหัส 2 โดยโชเฟอร์ 6 ล้อถูกคอนโซลกดทับขา 2 ข้างเกือบขาด ส่วนเด็กรถขาหักคิ้วแตก โชเฟอร์ ปอ.80 คาดคนขับบรรทุกคงเมา รถเบรกแตกแหกโค้ง
วันนี้ (2 พ.ย.) เมื่อเวลา 09.20 น. ร.ต.ท.ไพฑูรย์ ยินรงค์ ร้อยเวร สน.ภาษีเจริญ ได้รับแจ้งเหตุรถบรรทุก 6 ล้อชนกับรถประจำทางมีผู้ได้รับบาดเจ็บ บริเวณใต้สะพานต่างระดับราชพฤกษ์ ถนนเพชรเกษมขาออก แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ กทม. จึงรีบรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.สมยศ ศรีสมวงศ์ รอง ผบก.น.9 พ.ต.อ.สุรชัย เจ็ดพี่น้องร่วมใจ ผกก.สน.ภาษีเจริญ เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู และรถยกจากสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตบางแค
ที่เกิดเหตุเป็นถนน 3 เลน พบรถประจำทางปรับอากาศแบบยูโร สาย ปอ.80 สีส้ม ทะเบียน 13-1829 กทม. เลขข้างรถ 56101 วิ่งระหว่างวัดศรีนวล (หนองแขม) - สนามหลวง พลิกคว่ำในลักษณะตะแคงด้านขวาอยู่ในช่องทางเดินรถเลนที่ 2 ห่างไปด้านหลังประมาณ 10 เมตร พบรถบรรทุกปูน 6 ล้อ สีเขียว ทะเบียน 84-0218 กทม.ของบริษัทค้าวัสดุก่อสร้างแห่งหนึ่งย่านเอกชัย พลิกคว่ำในลักษณะตะแคงด้านขวาขวางถนนด้านหน้ารถถูกกระแทกยุบเข้ามาถึงห้องโดยสาร มีเศษปูนซีเมนต์หล่นจากกระบะท้ายฟุ้งกระจายเกลื่อนพื้น
นอกจากนี้ยังมีรถเก๋งโตโยต้า รุ่นอินโนวา ทะเบียน ศศ 7406 กทม.ซึ่งถูกรถทั้ง 2 คัน เฉี่ยวชนที่ตัวถังด้านซ้ายจนยุบพังไปทั้งแถบ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ต้องทำการปิดถนนกั้นรถประชาชนที่สัญจรผ่านไปมาจนการจราจรติดขัดนานกว่า 3 ชั่วโมง จากนั้นจึงใช้รถเครนและรถยก จากสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตบางแค ทำการแยกย้ายรถคู่กรณีทั้ง 3 คัน ออกจากเส้นทางจึงสามารถเปิดการจราจรได้ตามปกติ
สำหรับเหตุการณ์ในครั้งนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด 10 ราย อาการสาหัส 2 ราย คือ นายจำเริญ สุขสมัย อายุ 49 ปี โชเฟอร์รถบรรทุก 6 ล้อ อยู่บ้านเลขที่ 201 หมู่ 6 ต.พนมเศษ อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ ถูกคอนโซลรถกดทับที่ขาทั้ง 2 ข้าง จนเกือบขาด กระดูกซี่โครงหักทิ่มปอด และมีบาดแผลถูกกระจกบาดตามใบหน้าจนเป็นแผลฉกรรจ์
อีกรายคือ นายชูชาติ เตชะดี อายุ 50 ปี เด็กติดรถบรรทุก อยู่บ้านเลขที่ 117/7 หมู่ 2 แขวงบางขุนเทียน เขตจอมทอง กทม.มีอาการขาหักทั้ง 2 ข้าง คิ้วแตก และถูกกระจกบาดตามร่างกายหลายแห่ง แพทย์จึงรีบนำตัวทั้ง 2 ราย เข้าห้องผ่าตัดอย่างเร่งด่วน ส่วนผู้โดยสารรถ ปอ.80 ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย จำนวน 8 ราย ถูกนำตัวส่ง รพ.พญาไท 3 แพทย์ทำการปฐมพยาบาลก่อนอนุญาตให้กลับไปรักษาตัวต่อที่บ้าน
จากการสอบสวน นายสมศักดิ์ ชูชะเอม อายุ 48 ปี พนักงานขับรถ ปอ.ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนขับรถจากสนามหลวงมุ่งหน้ากลับอู่หน้าวัดศรีนวล ซอยเพชรเกษม 81 โดยมีผู้โดยสารส่วนใหญ่เป็นคนแก่และนักศึกษาอยู่บนรถ ประมาณ 20 คน ในระหว่างที่ตนขับมาถึงจุดเกิดเหตุซึ่งเป็นสี่แยกเลนซ้ายสุดผ่านตลอด และกำลังจะขับเข้าป้ายฝั่งตรงข้ามมหาวิทยาลัยสยามนั้น
รถบรรทุกปูนคู่กรณีที่ขับมาจากถนนราชพฤกษ์ได้พุ่งลงมาจากทางแยกตัดถนนเพชรเกษมอย่างรวดเร็ว จนหลุดโค้งพุ่งชนรถตนบริเวณตัวถังซีกซ้ายอย่างจัง ทำให้รถทั้ง 2 คันพลิกคว่ำ ไถลไปถูกรถโตโยต้า อินโนวาได้รับความเสียหาย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมากดังกล่าว
“หลังจากที่รถ ปอ.พลิกคว่ำ ผู้โดยสารทั้งหมดต่างก็รีบปีนกระจกและหน้าต่างหนีตายกันจ้าละหวั่นเพราะกลัวแก็สระเบิด ทีแรกตนนับจำนวนคนเจ็บได้ประมาณ 10 กว่าราย ในจำนวนนั้นมีน้องนักศึกษาอยู่ 3-4 ราย แต่ส่วนใหญ่เห็นว่าไม่เป็นอะไรมากและจะไปทำธุระต่อ เลยไม่อยากเอาเรื่อง จึงมีคนเจ็บถูกนำตัวส่ง รพ.แค่ 8 รายเท่านั้น ซึ่งผมเห็นว่ารถคู่กรณีไม่แตะเบรคเลยคิดว่าน่าจะเมาหรือไม่ก็คงเบรกแตกจนแหกโค้งมาขนาดนี้ หากเหตุการณ์ในครั้งนี้คู่กรณีไม่ขับชนกับรถตนก็อาจจะพุ่งข้ามเกาะกลางไปชนกับรถชาวบ้านที่ขับสวนทางมาจนมีคนเสียชีวิตเลยก็เป็นได้” นายสมศักดิ์กล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินทางไปสอบปากคำผู้ได้รับบาดเจ็บเพิ่มเติมที่ รพ.พญาไท 3 เพื่อเก็บคำให้การไว้เป็นหลักฐานประกอบสำนวนคดี ส่วนโชเฟอร์รถบรรทุกปูนนั้น แพทย์ รพ.บางไผ่ แจ้งว่ายังมีสติอยู่แต่ไม่สามารถจดจำเหตุการณ์ได้ เนื่องจากอาจได้รับการกระทบกระเทือนทางสมอง ทางพนักงานสอบสวนจึงทำเรื่องอายัดตัวเอาไว้ก่อนแจ้งข้อหาดำเนินคดีในภายหลัง








วันนี้ (2 พ.ย.) เมื่อเวลา 09.20 น. ร.ต.ท.ไพฑูรย์ ยินรงค์ ร้อยเวร สน.ภาษีเจริญ ได้รับแจ้งเหตุรถบรรทุก 6 ล้อชนกับรถประจำทางมีผู้ได้รับบาดเจ็บ บริเวณใต้สะพานต่างระดับราชพฤกษ์ ถนนเพชรเกษมขาออก แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ กทม. จึงรีบรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.สมยศ ศรีสมวงศ์ รอง ผบก.น.9 พ.ต.อ.สุรชัย เจ็ดพี่น้องร่วมใจ ผกก.สน.ภาษีเจริญ เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู และรถยกจากสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตบางแค
ที่เกิดเหตุเป็นถนน 3 เลน พบรถประจำทางปรับอากาศแบบยูโร สาย ปอ.80 สีส้ม ทะเบียน 13-1829 กทม. เลขข้างรถ 56101 วิ่งระหว่างวัดศรีนวล (หนองแขม) - สนามหลวง พลิกคว่ำในลักษณะตะแคงด้านขวาอยู่ในช่องทางเดินรถเลนที่ 2 ห่างไปด้านหลังประมาณ 10 เมตร พบรถบรรทุกปูน 6 ล้อ สีเขียว ทะเบียน 84-0218 กทม.ของบริษัทค้าวัสดุก่อสร้างแห่งหนึ่งย่านเอกชัย พลิกคว่ำในลักษณะตะแคงด้านขวาขวางถนนด้านหน้ารถถูกกระแทกยุบเข้ามาถึงห้องโดยสาร มีเศษปูนซีเมนต์หล่นจากกระบะท้ายฟุ้งกระจายเกลื่อนพื้น
นอกจากนี้ยังมีรถเก๋งโตโยต้า รุ่นอินโนวา ทะเบียน ศศ 7406 กทม.ซึ่งถูกรถทั้ง 2 คัน เฉี่ยวชนที่ตัวถังด้านซ้ายจนยุบพังไปทั้งแถบ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ต้องทำการปิดถนนกั้นรถประชาชนที่สัญจรผ่านไปมาจนการจราจรติดขัดนานกว่า 3 ชั่วโมง จากนั้นจึงใช้รถเครนและรถยก จากสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตบางแค ทำการแยกย้ายรถคู่กรณีทั้ง 3 คัน ออกจากเส้นทางจึงสามารถเปิดการจราจรได้ตามปกติ
สำหรับเหตุการณ์ในครั้งนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด 10 ราย อาการสาหัส 2 ราย คือ นายจำเริญ สุขสมัย อายุ 49 ปี โชเฟอร์รถบรรทุก 6 ล้อ อยู่บ้านเลขที่ 201 หมู่ 6 ต.พนมเศษ อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ ถูกคอนโซลรถกดทับที่ขาทั้ง 2 ข้าง จนเกือบขาด กระดูกซี่โครงหักทิ่มปอด และมีบาดแผลถูกกระจกบาดตามใบหน้าจนเป็นแผลฉกรรจ์
อีกรายคือ นายชูชาติ เตชะดี อายุ 50 ปี เด็กติดรถบรรทุก อยู่บ้านเลขที่ 117/7 หมู่ 2 แขวงบางขุนเทียน เขตจอมทอง กทม.มีอาการขาหักทั้ง 2 ข้าง คิ้วแตก และถูกกระจกบาดตามร่างกายหลายแห่ง แพทย์จึงรีบนำตัวทั้ง 2 ราย เข้าห้องผ่าตัดอย่างเร่งด่วน ส่วนผู้โดยสารรถ ปอ.80 ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย จำนวน 8 ราย ถูกนำตัวส่ง รพ.พญาไท 3 แพทย์ทำการปฐมพยาบาลก่อนอนุญาตให้กลับไปรักษาตัวต่อที่บ้าน
จากการสอบสวน นายสมศักดิ์ ชูชะเอม อายุ 48 ปี พนักงานขับรถ ปอ.ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนขับรถจากสนามหลวงมุ่งหน้ากลับอู่หน้าวัดศรีนวล ซอยเพชรเกษม 81 โดยมีผู้โดยสารส่วนใหญ่เป็นคนแก่และนักศึกษาอยู่บนรถ ประมาณ 20 คน ในระหว่างที่ตนขับมาถึงจุดเกิดเหตุซึ่งเป็นสี่แยกเลนซ้ายสุดผ่านตลอด และกำลังจะขับเข้าป้ายฝั่งตรงข้ามมหาวิทยาลัยสยามนั้น
รถบรรทุกปูนคู่กรณีที่ขับมาจากถนนราชพฤกษ์ได้พุ่งลงมาจากทางแยกตัดถนนเพชรเกษมอย่างรวดเร็ว จนหลุดโค้งพุ่งชนรถตนบริเวณตัวถังซีกซ้ายอย่างจัง ทำให้รถทั้ง 2 คันพลิกคว่ำ ไถลไปถูกรถโตโยต้า อินโนวาได้รับความเสียหาย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมากดังกล่าว
“หลังจากที่รถ ปอ.พลิกคว่ำ ผู้โดยสารทั้งหมดต่างก็รีบปีนกระจกและหน้าต่างหนีตายกันจ้าละหวั่นเพราะกลัวแก็สระเบิด ทีแรกตนนับจำนวนคนเจ็บได้ประมาณ 10 กว่าราย ในจำนวนนั้นมีน้องนักศึกษาอยู่ 3-4 ราย แต่ส่วนใหญ่เห็นว่าไม่เป็นอะไรมากและจะไปทำธุระต่อ เลยไม่อยากเอาเรื่อง จึงมีคนเจ็บถูกนำตัวส่ง รพ.แค่ 8 รายเท่านั้น ซึ่งผมเห็นว่ารถคู่กรณีไม่แตะเบรคเลยคิดว่าน่าจะเมาหรือไม่ก็คงเบรกแตกจนแหกโค้งมาขนาดนี้ หากเหตุการณ์ในครั้งนี้คู่กรณีไม่ขับชนกับรถตนก็อาจจะพุ่งข้ามเกาะกลางไปชนกับรถชาวบ้านที่ขับสวนทางมาจนมีคนเสียชีวิตเลยก็เป็นได้” นายสมศักดิ์กล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินทางไปสอบปากคำผู้ได้รับบาดเจ็บเพิ่มเติมที่ รพ.พญาไท 3 เพื่อเก็บคำให้การไว้เป็นหลักฐานประกอบสำนวนคดี ส่วนโชเฟอร์รถบรรทุกปูนนั้น แพทย์ รพ.บางไผ่ แจ้งว่ายังมีสติอยู่แต่ไม่สามารถจดจำเหตุการณ์ได้ เนื่องจากอาจได้รับการกระทบกระเทือนทางสมอง ทางพนักงานสอบสวนจึงทำเรื่องอายัดตัวเอาไว้ก่อนแจ้งข้อหาดำเนินคดีในภายหลัง