ให้ประกัน 2 มือโพสข้อมูลทุบหุ้น ปั่นป่วนตลาดหลักทรัพย์ หลังญาติใช้หลักทรพัย์คนละแสนบาทขอประกันตัว ห้ามออกนอกประเทศ ขณะที่ “ไถง” ระบุพบความเชื่อมโยงปล่อยข่าวอัปมงคลปั่นหุ้นใน “เว็บประชาไท-ฟ้าเดียวกัน” ยอมรับตามจับเว็บมาสเตอร์ยาก เพราะทั้ง 2 เว็บจดทะเบียนในต่างประเทศ จ่อหมายจับ 3-4 คนร่วมสังฆกรรมชั่ว
วันนี้ (2 พ.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.ไถง ปราศจากศัตรู ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) กล่าวถึงความคืบหน้าการจับกุมนายคทา ปาจริยพงษ์ อายุ 37 ปี เจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดบริษัท เงินทุนหลักทรัพย์แห่งหนึ่ง และน.ส.ธีรนันต์ วิภูชนิน อายุ 47 ปี อดีตกรรมการผู้จัดการบริษัทหลักทรัพย์แห่งหนึ่ง 2 ผู้ต้องหาตามในความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ กรณีเผยแพร่ปล่อยข่าวลือไม่เป็นมงคลทางอินเทอร์เน็ต ทำให้หุ้นภายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยตกลงเป็นจำนวนมาก ว่า จากการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 2 เบื้องต้นพบว่า มีความเชื่อมโยงกันในการถามตอบกระทู้ของเว็บไซด์ประชาไท และเว็บไซต์ฟ้าเดียวกัน ซึ่งพนักงานจะทำการตรวจสอบคอมพิวเตอร์ของกลางที่ยึดมาได้จากบ้านพักของผู้ต้องหาทั้ง 2 เพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน พร้อมตรวจสอบว่ามีบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมอีกหรือไม่ ซึ่งหากพบว่ามีพยานหลักฐานที่แน่ชัดเพียงพอก็จะทำการขอศาลอนุมัติออกหมายจับบุคคลที่เกี่ยวข้องดำเนินคดีต่อไป
พล.ต.ท.ไถง กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ทางพนักงานสอบสวนได้ให้ประกันตัวผู้ต้องหาทั้งสองแล้ว หลังญาติใช้หลักทรัพย์ในการประกันตัวคนละ 100,000 บาท โดยมีเงื่อนไขว่าห้ามเดินทางออกนอกประเทศ ส่วนการติดตามจับกุมตัวเว็บมาสเตอร์นั้น คงเป็นไปได้ยาก เนื่องจากเว็บไซด์ทั้ง 2 เว็บดังกล่าวนั้น ได้จดทะเบียนที่ต่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม ทางพนักงานสอบสวนได้เรียกผู้ต้องหาทั้ง 2 ไปรายงานตัวที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) ในวันนี้ รวมทั้งสอบปากคำเพิ่มเติมในบางประเด็น
รายงานข่าวแจ้งว่า พนักงานสอบสวนจะไปเดินทางไปที่ศาลอาญา รัชดา เพื่อขอศาลอนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวเพิ่มอีกประมาณ 3-4 คน โดยหนึ่งในจำนวนผู้ต้องหาที่ออกหมายจับเพิ่มเติมนั้นเป็นแพทย์จากโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง
ทางด้าน พ.ต.อ.พิสิษฐ์ เปาอินทร์ รองผู้บังคับการศูนย์ตรวจสอบและวิเคราะห์การกระทำผิดทางเทคโนโลยี สำนักเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่า ล่าสุดเจ้าหน้าที่ให้ประกันตัวผู้ต้องหาทั้งสองแล้ว หลังญาติยื่นเงินสด 100,000 บาท ประกันตัวไป แต่มีเงื่อนไขห้ามทั้งสองคนเดินทางออกนอกประเทศ ซึ่งผู้ต้องหาทั้งสองให้ความร่วมมือดี ซึ่งขณะนี้ชุดสืบสวนจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ เข้าสอบปากคำผู้ต้องหาเพิ่มเติม เพื่อขยายผลผู้ร่วมขบวนการ
อย่างไรก็ตาม จากนี้ไปเจ้าหน้าที่จะเฝ้าติดตามพฤติกรรมผู้ต้องหา และจะเรียกสอบสวนหากมีหลักฐานหรือพยานเพิ่ม และเชื่อมโยงกัน โดยทั้งสองคนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
วันนี้ (2 พ.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.ไถง ปราศจากศัตรู ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) กล่าวถึงความคืบหน้าการจับกุมนายคทา ปาจริยพงษ์ อายุ 37 ปี เจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดบริษัท เงินทุนหลักทรัพย์แห่งหนึ่ง และน.ส.ธีรนันต์ วิภูชนิน อายุ 47 ปี อดีตกรรมการผู้จัดการบริษัทหลักทรัพย์แห่งหนึ่ง 2 ผู้ต้องหาตามในความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ กรณีเผยแพร่ปล่อยข่าวลือไม่เป็นมงคลทางอินเทอร์เน็ต ทำให้หุ้นภายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยตกลงเป็นจำนวนมาก ว่า จากการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 2 เบื้องต้นพบว่า มีความเชื่อมโยงกันในการถามตอบกระทู้ของเว็บไซด์ประชาไท และเว็บไซต์ฟ้าเดียวกัน ซึ่งพนักงานจะทำการตรวจสอบคอมพิวเตอร์ของกลางที่ยึดมาได้จากบ้านพักของผู้ต้องหาทั้ง 2 เพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน พร้อมตรวจสอบว่ามีบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมอีกหรือไม่ ซึ่งหากพบว่ามีพยานหลักฐานที่แน่ชัดเพียงพอก็จะทำการขอศาลอนุมัติออกหมายจับบุคคลที่เกี่ยวข้องดำเนินคดีต่อไป
พล.ต.ท.ไถง กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ทางพนักงานสอบสวนได้ให้ประกันตัวผู้ต้องหาทั้งสองแล้ว หลังญาติใช้หลักทรัพย์ในการประกันตัวคนละ 100,000 บาท โดยมีเงื่อนไขว่าห้ามเดินทางออกนอกประเทศ ส่วนการติดตามจับกุมตัวเว็บมาสเตอร์นั้น คงเป็นไปได้ยาก เนื่องจากเว็บไซด์ทั้ง 2 เว็บดังกล่าวนั้น ได้จดทะเบียนที่ต่างประเทศ
อย่างไรก็ตาม ทางพนักงานสอบสวนได้เรียกผู้ต้องหาทั้ง 2 ไปรายงานตัวที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) ในวันนี้ รวมทั้งสอบปากคำเพิ่มเติมในบางประเด็น
รายงานข่าวแจ้งว่า พนักงานสอบสวนจะไปเดินทางไปที่ศาลอาญา รัชดา เพื่อขอศาลอนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวเพิ่มอีกประมาณ 3-4 คน โดยหนึ่งในจำนวนผู้ต้องหาที่ออกหมายจับเพิ่มเติมนั้นเป็นแพทย์จากโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง
ทางด้าน พ.ต.อ.พิสิษฐ์ เปาอินทร์ รองผู้บังคับการศูนย์ตรวจสอบและวิเคราะห์การกระทำผิดทางเทคโนโลยี สำนักเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่า ล่าสุดเจ้าหน้าที่ให้ประกันตัวผู้ต้องหาทั้งสองแล้ว หลังญาติยื่นเงินสด 100,000 บาท ประกันตัวไป แต่มีเงื่อนไขห้ามทั้งสองคนเดินทางออกนอกประเทศ ซึ่งผู้ต้องหาทั้งสองให้ความร่วมมือดี ซึ่งขณะนี้ชุดสืบสวนจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ เข้าสอบปากคำผู้ต้องหาเพิ่มเติม เพื่อขยายผลผู้ร่วมขบวนการ
อย่างไรก็ตาม จากนี้ไปเจ้าหน้าที่จะเฝ้าติดตามพฤติกรรมผู้ต้องหา และจะเรียกสอบสวนหากมีหลักฐานหรือพยานเพิ่ม และเชื่อมโยงกัน โดยทั้งสองคนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี